‘เทเลนอร์’ เชื่อมั่นศักยภาพไทย ปักธงลงทุนขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัล

“เทเลนอร์” เชื่อมั่นศักยภาพตลาดไทย เดินหน้าหนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ขับเคลื่อนธุรกิจ–เศรษฐกิจ ด้วย AI–5G–IoT ชู “ทรูคอร์ปอเรชัน” เป็นสินทรัพย์สำคัญ ปักธงบูรณาการเสริมความแข็งแกร่ง มุ่งสู่การเติบโตยั่งยืนระยะยาว
KEY
POINTS
- เทเลนอร์เชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดประเทศไทย
- มองจุดแข็งไทยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ประชาชนมีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, 4G และ 5G
- ยืนยันมีแผนการลงทุนระยะยาวโดย "ทรู คอร์ปอเรชัน" เป็นสินทรัพย์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจดิจิทัล
- เทเลนอร์มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทย โดยใช้ความเชี่ยวชาญระดับโลกด้านโทรคมนาคมและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ
- เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตจากอัตราการใช้งานบริการดิจิทัลที่สูงในไทย และพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนร่วมกับพันธมิตร
ประเทศไทยกำลังเดินหน้าท่ามกลางจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจดิจิทัล การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงได้กลายเป็นเครื่องจักรใหม่ในการสร้างการเติบโต...
“เทเลนอร์” เชื่อมั่นศักยภาพตลาดไทย เดินหน้าหนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ขับเคลื่อนธุรกิจ–เศรษฐกิจ ด้วย AI–5G–IoT ชู “ทรู คอร์ปอเรชัน” เป็นสินทรัพย์สำคัญ ปักธงบูรณาการเสริมความแข็งแกร่ง มุ่งสู่การเติบโตยั่งยืนระยะยาว
เบเนดิกเต้ ชิลเบร็ด ฟาสเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทเลนอร์ กรุ๊ป แสดงวิสัยทัศน์ว่า เทเลนอร์ยังคงมีมุมมองเชิงบวกและจะให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยมีมุมมองว่า ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีความแข็งแกร่ง ปัจจัยบวกมาจากทั้งการใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการดำเนินงาน รวมถึงการปรับใช้เทคโนโลยีโมบายและสมาร์ซิตี้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน เป็นประเทศระดับท็อปในภูมิภาคด้านการใช้บริการบนดิจิทัลต่างๆ มีความพร้อมที่จะต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI การเข้าถึง 4จี และ5จี ที่ครอบคลุม ปัจจุบันจำนวนการเข้าถึงโมบายมีสัดส่วนกว่า 95% และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 89.5 %
เรายังคงเชื่อมั่นในตลาดประเทศไทย จากนี้ยังคงมุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เมื่อประเทศไทยก้าวสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เทเลนอร์ยังคงยึดมั่นที่จะสนับสนุนเป้าหมายของประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับโลกทางด้านโทรคมนาคม แนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
เทเลนอร์ระบุว่า หลังจากนี้ซึ่งการควบรวมกิจการกับทรู คอร์ปอเรชั่นลงตัวแล้ว เฟสต่อไปคือการมุ่งเน้นด้านเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ความร่วมมือ การบริหารต้นทุนต่างๆ เพื่อสร้างการผลประกอบการ รวมถึงสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจในระยะยาว
ปักธง ‘ลงทุน’ ระยะยาว
ยอน ออมุนด์ เรฟ-ฮอว์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย กล่าวเสริมว่า ก้าวต่อไปของเทเลนอร์ เดินหน้าสานต่อการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างซีพีกรุ๊ป ต่อยอดและหาโอกาสจากการพัฒนาด้าน AI โมบาย และ IoT ต่างๆ
ด้วยกลุ่มทรูถือครองคลื่นความถี่สูงสุดทำให้สามารถตอบโจทย์การให้บริการได้อย่างครอบคลุมทั้งสำหรับภาคประชากรและธุรกิจ เป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ คาดว่าหากสามารถรักษาจุดยืนนี้ได้ต่อไปคาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ภายในสิ้นปี
ประเทศไทยนับเป็นตลาดที่สำคัญของเทเลนอร์ และทรูคอร์ปอเรชั่นก็เป็นสินทรัพย์ที่ทรงคุณค่าในพอร์ตโฟลิโอระดับโลก ที่ผ่านมามีการบูรณาการและซีเนอร์ยีทางธุรกิจซึ่งส่งผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมสามารถบันทึกกำไรติดกันสองไตรมาส ปัจจุบันเทเลนอร์มีสัดส่วนการถือหุ้นมูลค่าราว 4.5 หมื่นล้านบาท
เรามีแผนการลงทุนระะยาวในประเทศไทย การควบรวมกิจการกับกลุ่มทรูยิ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจและเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โดยจากนี้ยืนยันว่าจะมีความร่วมมือร่วมกันต่อเนื่องในระยะยาว
คว้าโอกาสใหม่ๆ บน ‘ดิจิทัล’
ผู้บริหารเทเลนอร์เผยว่า แนวทางทางธุรกิจในประเทศไทย เน้นการมีส่วนร่วม การทำงานร่วมกันของผู้บริหารและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ นำองค์ความรู้จากนอร์ดิกมาสู่ตลาดไทย ทั้งด้านการเชื่อมต่อแห่งอนาคต เทคโนโลยีสำหรับการทรานส์ฟอร์เมชันทั้งด้านโมบาย AI ไอโอที และบริการคลาวด์
ที่สำคัญดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ เพื่อปูทางสู่เฟสต่อๆ ไปในการเติบโต มั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนวัตกรรมภายใต้ความรับผิดชอบนี้ จะทำให้เกิดความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
เขาวิเคราะห์ว่า บริการดิจิทัลในไทยมีโอกาสในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจะคว้าโอกาสในส่วนนี้ โดยเลือกตลาดที่มีความเชี่ยวชาญโอกาสเติบโตสูง ต่อยอดจากความแข็งแกร่งด้านโทรคมนาคม พร้อมสร้างจุดต่างด้วยการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ ที่สำคัญมีความปลอดภัยเป็นรากฐาน
ปัจจุบันประเทศไทย มีอัตราการใช้งานดิจิทัลสูงที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย การศึกษาจาก Digital Lives Decoded 2025 ของเทเลนอร์ เอเชีย พบว่า มากถึง 9 ใน 10 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือในไทยใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน อีกทั้งการขยายตัวของ 5G และการปรับตัวสู่ดิจิทัลของภาคธุรกิจ ยังสะท้อนศักยภาพมหาศาลในการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศในอนาคต
เทเลนอร์เชื่อมั่นว่าความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับประเทศไทยจะเป็นพลังสำคัญในการเปิดโอกาสใหม่ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับลูกค้า พันธมิตร และสังคม เราพร้อมเดินหน้าร่วมกันสร้างอนาคตดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เปิดกว้าง และยั่งยืน







