เกือบหลับแต่กลับมาได้! HMD ได้ต่อสิทธิ์ผลิต Nokia ตอกย้ำความอมตะ

นี่คือตำนานไม่มีวันตาย เมื่อ "HMD Global" พลิกเกมสานต่อลมหายใจให้ "Nokia" อีกครั้ง ปลุกวิญญาณแบรนด์มือถือที่หลายคนรอคอยให้กลับมาในฐานะ "ราชาแห่งฟีเจอร์โฟน"
KEY
POINTS
- HMD Global ได้รับการต่อสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนภายใต้แบรนด์ Nokia ทั่วโลกต่อไปอีก 2-3 ปี หลังจากสัญญาปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในปี 2568
- การต่อสัญญาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์มัลติแบรนด์ ที่จะทำตลาดแบรนด์ "HMD" ควบคู่ไปกับแบรนด์ "Nokia" เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
- สำหรับประเทศไทย Nokia ยังคงมีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ เช่น ผู้สูงอายุ, องค์กรธุรกิจ และกลุ่ม Social Detox ที่ต้องการมือถือใช้งานง่ายและแบตเตอรี่ทนทาน
ที่ผ่านมา หลายคนอาจจับตามองว่าตำนานอย่าง Nokia จะเดินต่อไปในทิศทางไหน หรือจะโบกมือลาวงการมือถือไปอย่างถาวร? แต่วันนี้คำตอบชัดเจนแล้วว่า Nokia ไม่ได้หายไปไหน แต่กำลังกลับมาในเส้นทางที่แข็งแกร่งและชัดเจนกว่าเดิม ในฐานะราชาแห่งฟีเจอร์โฟนที่ไม่มีวันตาย
การที่ HMD Global ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมือถือโนเกียมาอย่างยาวนาน ได้เริ่มผลักดันสมาร์ตโฟนแบรนด์ HMD ของตัวเอง ไม่ใช่สัญญาณของการสิ้นสุดยุคสมัย แต่เป็นการจัดทัพใหม่ที่น่าตื่นเต้นและชาญฉลาด เพราะในขณะที่สมรภูมิสมาร์ตโฟนมีผู้เล่นหน้าใหม่ ตำนานที่แท้จริงของ Nokia กำลังได้รับการสานต่ออย่างเป็นทางการ
การกลับมาของราชาปุ่มกด
ข่าวล่าสุดที่สร้างความยินดีให้กับสาวกโนเกียคือ HMD Global ได้ต่อสิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์ Nokia สำหรับการผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์ "ฟีเจอร์โฟน" ทั่วโลกต่อไปอีกประมาณ 2-3 ปี หลังจากสัญญาเดิมจะสิ้นสุดลงในปี 2568 การเคลื่อนไหวครั้งนี้เปรียบเสมือนการประกาศว่า ตำนานความทนทานและเรียบง่ายของโนเกียยังคงเป็นสิ่งที่ตลาดโลกต้องการอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ฐานผู้ใช้ยังคงแข็งแกร่ง HMD ประเทศไทยพร้อมเดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำว่าในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ยังมีพื้นที่สำหรับความคลาสสิกที่เชื่อถือได้เสมอ
โทรศัพท์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ 'Social Detox'
ใครว่ามือถือปุ่มกดมีไว้สำหรับผู้สูงอายุหรือใช้เป็นโทรศัพท์สำรองเท่านั้น? เทรนด์ "Social Detox" ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ได้เปลี่ยนให้ฟีเจอร์โฟนกลายเป็นไอเท็มสุดคูลไปโดยปริยาย การเลือกใช้มือถือที่ใช้งานง่าย แบตเตอรี่ทนทาน คือการตัดขาดจากโลกโซเชียลที่วุ่นวาย เพื่อกลับมาเชื่อมต่อกับชีวิตจริงตรงหน้าอีกครั้ง นอกจากนี้ กลุ่มผู้ใช้งานดั้งเดิมอย่างผู้สูงอายุและกลุ่มองค์กรธุรกิจที่มองหาโทรศัพท์ที่ทนทานและคุ้มค่าสำหรับพนักงาน ก็ยังคงเป็นตลาดหลักที่แข็งแกร่ง HMD จะยังคงทำตลาดรุ่นยอดนิยมอย่าง Nokia 105, Nokia 110 และตระกูล Rugged ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน กันน้ำกันกระแทกต่อไป พร้อมทั้งเตรียมส่งรุ่นราคาประหยัดที่รองรับ 4G/5G และแอปพื้นฐานเพื่อเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ยุคใหม่อีกด้วย
ยุทธศาสตร์สองแบรนด์ HMD เคียงคู่ Nokia
การต่อสัญญาครั้งนี้คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในกลยุทธ์ "มัลติแบรนด์" ของ HMD ที่จะเดินหน้าทำตลาดทั้งแบรนด์ HMD สำหรับสมาร์ตโฟน และ Nokia สำหรับฟีเจอร์โฟนไปพร้อมๆ กัน ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมของผู้บริหารในการมองตลาดที่แตกต่างแต่เกื้อหนุนกัน
ภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) ได้ให้ภาพไว้อย่างชัดเจนว่า “เรายังคงใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ ด้วยการทำตลาดแบรนด์ HMD ไปพร้อมๆ กับการทำตลาดแบรนด์โนเกีย ในด้านผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม เราจึงให้ความสำคัญทั้งตลาดสมาร์ตโฟนและตลาดฟีเจอร์โฟน โดยวางตำแหน่งของทั้ง HMD และโนเกียเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ยุโรปที่มีคุณภาพ ทนทาน และพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือของแบรนด์ในตลาด”
ภราดรยังได้กล่าวเสริมถึงเป้าหมายที่ไกลกว่าเดิมว่า “การขยายสัญญาครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Nokia และ HMD Global ที่จะยังคงรักษาฐานผู้ใช้กลุ่มฟีเจอร์โฟน และต่อยอดสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สมาร์ตโฟนราคาจับต้องได้ โดยเฉพาะในตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างประเทศไทย” นี่คือภาพที่ชัดเจนว่า Nokia จะไม่ได้เป็นเพียงตำนานที่ถูกแช่แข็งไว้ แต่จะเป็นประตูบานแรกที่สร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้บริโภค ก่อนที่พวกเขาจะก้าวต่อไปสู่สมาร์ตโฟนของ HMD ในอนาคต
การกลับมาของ Nokia ในครั้งนี้จึงไม่ใช่การหวนคืนสู่อดีต แต่คือการวางรากฐานสำหรับอนาคตอย่างชาญฉลาด เป็นการพิสูจน์ว่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่เคยตาย แต่จะปรับตัวและหาที่ทางของตัวเองเจอเสมอ สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของมือถือ HMD และโนเกีย หาซื้อได้ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการทั้งบน Shopee, Lazada และ TikTok







