'Crescendo Lab' ปล่อยหมัดเด็ด โรดแมปพร้อม 3 แพลตฟอร์ม AI เขย่าวงการ

ถึงเวลา "Crescendo Lab" ปล่อยหมัดเด็ด เปิดตัวโรดแมป “AI-First Communication Cloud” พร้อม 3 แพลตฟอร์ม AI เขย่าวงการธุรกิจไทย
KEY
POINTS
- Crescendo Lab เปิดตัวโรดแมป “AI-First Communication Cloud” และ 3 แพลตฟอร์มใหม่ เพื่อแก้ปัญหา “AI Island Effect” หรือการใช้ AI แบบกระจัดกระจายในองค์กรไทย
- แพลตฟอร์มทั้งสาม ได้แก่ MAAC (การตลาด), CAAC (การขายและบริการ), และ DAAC (ข้อมูล) ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลธุรกิจแบบเรียลไทม์ครบวงจร
- เป้าหมายสำคัญคือการยกระดับธุรกิจไทยจากผู้ใช้ 'เครื่องมือ AI เฉพาะด้าน' สู่การมี 'ทีมขับเคลื่อนการเติบโตด้วย AI' ภายในองค์กร ซึ่งจะเริ่มทยอยใช้งานจริงในปี 2569
Crescendo Lab ผู้นำด้าน SaaS ในเอเชีย ประกาศเปิดฉากอนาคตการสื่อสารทางธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัวโรดแมป “AI-First Communication Cloud” พร้อมกันนี้ยังได้เผย 3 แพลตฟอร์มใหม่อันทรงพลังที่จะเข้ามาปฏิวัติการตลาด การขาย และการบริการลูกค้า เพื่อช่วยให้องค์กรไทยสามารถขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างเต็มศักยภาพ และทลายกำแพงของปัญหา “AI Island Effect” ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในยุคดิจิทัล
ในยุคที่ AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ การศึกษาล่าสุดของ McKinsey ในปี 2025 ชี้ว่า องค์กรทั่วโลกกว่า 78 เปอร์เซ็นต์ ได้เริ่มนำ AI มาใช้งานแล้ว แต่กลับต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ นั่นคือการใช้ AI ที่กระจัดกระจาย ขาดการเชื่อมโยงข้อมูลและเครื่องมืออย่างเป็นระบบ หรือที่เรียกว่า “AI Island Effect” ปัญหานี้ทำให้ศักยภาพของ AI ไม่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ และเพื่อแก้ไขโจทย์ที่ซับซ้อนนี้ Crescendo Lab จึงได้พัฒนาโซลูชันที่จะเข้ามาเชื่อมต่อทุกจุดให้เป็นหนึ่งเดียว
จิน เสวีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Crescendo Lab กล่าวว่า “Crescendo Lab มองไกลกว่าโซลูชัน AI ที่โฟกัสเพียงด้านเดียว (single-point solutions) โรดแมป “AI-First Communication Cloud” จึงเกิดจากวางเป้าหมายหลัก 3 มิติที่ทรงพลังภายในปี 2569 ได้แก่
1. Master Precision Marketing ยกระดับการตลาดแบบแม่นยำ ส่งข้อความที่ใช่ ไปยังลูกค้าที่ใช่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
2. Real-time Sales & Service เสริมศักยภาพทีมขายและบริการลูกค้า ให้ตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ในทุกจังหวะสำคัญของการสนทนา เพื่อเพิ่มยอดขายและอัตราการปิดการขาย
3. AI-driven Data Action แปลงข้อมูลที่กระจัดกระจายให้เป็นข้อแนะนำเชิงธุรกิจที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจและการลงมือทำขององค์กรได้ทันที”
เปิดตัว 3 แพลตฟอร์ม AI อัจฉริยะ
หัวใจสำคัญของโรดแมปนี้คือการเปิดตัว 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ MAAC, CAAC และ DAAC ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อในรูปแบบ ‘AI All-in-one Solution’ ซึ่งจะเริ่มทยอยให้ใช้งานจริงในปี 2569
- MAAC (Marketing & Automation AI Cloud) คือแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็น “Growth Architect” หรือสถาปนิกผู้วางกลยุทธ์การเติบโตด้านการตลาดให้กับองค์กร โดยนำ AI มาเสริมแกร่งให้เทคโนโลยี MarTech ทำการตลาดได้อย่างแม่นยำตามหลัก 4R คือ คนที่ใช่ (Right person), เวลาที่เหมาะสม (Right time), ช่องทางที่ถูกต้อง (Right channel) และคอนเทนต์ที่ตรงใจ (Right message) ภายในปี 2569 MAAC จะมี AI Portal ที่เป็นศูนย์กลางช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการทุกอย่างตั้งแต่การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation) ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์ได้อย่างอัตโนมัติ
- CAAC (Conversational & Agent AI Cloud) คือเครื่องมือที่จะพลิกโฉมทีมขายและทีมบริการลูกค้าให้กลายเป็น “Super Agents” ในแต่ละเดือน ธุรกิจต่างๆ ต้องรับมือกับข้อความจากลูกค้ามากกว่า 16,000 ข้อความ CAAC จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดการกับปริมาณการสื่อสารมหาศาลนี้ โดยมี AI Agents ที่ตอบคำถามที่พบบ่อยแทนมนุษย์ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และสำหรับเคสที่ซับซ้อน CAAC จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ คอยแนะนำคำตอบหรือสินค้าที่เหมาะสม พร้อมทั้งสร้างสรุปการสนทนาให้อัตโนมัติ และส่งข้อมูลกลับไปยัง MAAC เพื่อสร้างวงจรข้อมูลสำหรับการทำ Remarketing ต่อไป
- DAAC (Data & Analytics AI Cloud) คือแพลตฟอร์ม AI-native ใหม่ล่าสุดที่เปรียบเสมือนที่ปรึกษาด้านข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางวิเคราะห์ข้อมูลจากทุกแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมลูกค้า บันทึกการสนทนา หรือผลลัพธ์แคมเปญการตลาด เพื่อค้นหา “Critical Insights” ที่สำคัญต่อธุรกิจ ไม่เพียงเท่านั้น DAAC ยังเสนอ “Recommended Actions” หรือกลยุทธ์ที่ควรทำต่อไป ซึ่งผู้ใช้งานคลิกเพื่อเริ่มดำเนินการได้ทันที ช่วยลดระยะเวลาจากเดิมที่ใช้เวลาหลายวันให้เหลือเพียงไม่กี่นาที
เมื่อ AI สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เหนือกว่า
ความสามารถของโซลูชันจาก Crescendo Lab ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่ได้ถูกพิสูจน์แล้วผ่านข้อมูลจริง จากฐานข้อมูล Metabase ของบริษัทพบว่า แคมเปญบรอดแคสต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROAS) ได้สูงขึ้นถึง 4.9 เท่า และมีอัตราการเปิดอ่านข้อความ (Open Rate) สูงกว่าเดิมถึง 2.6 เท่า
ความสำเร็จนี้ยังสะท้อนผ่านกรณีศึกษาของหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ที่ได้นำเทคโนโลยี AI Smart Sending มาใช้กับการสื่อสารผ่าน LINE Official Account แม้จะส่งข้อความถึงลูกค้าทั้งหมดโดยไม่ได้แบ่งกลุ่ม แต่ด้วยความสามารถของ AI ที่วิเคราะห์และเลือกเวลาส่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล ทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มอัตราการเปิดอ่านข้อความจาก 15 เปอร์เซ็นต์ พุ่งขึ้นไปถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และสูงสุดที่ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมที่สินค้ามีมูลค่าสูงเช่นนี้
ก้าวต่อไปของ Crescendo Lab
Crescendo Lab ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาเทคโนโลยี แต่ยังเป็นพาร์ทเนอร์ที่พร้อมนำพาองค์กรไทยก้าวสู่ยุค AI อย่างมั่นคงและปลอดภัย ในฐานะที่ได้รับการรับรองจาก LINE Thailand ให้เป็น “Expert Developer Partner” บริษัทจึงให้ความสำคัญสูงสุดกับ AI Transformation, Governance และ Security ผ่านระบบที่รัดกุม พร้อมทั้งยังมีบริการ Enterprise-Grade AI Advisory Service เพื่อให้คำปรึกษาระดับองค์กรโดยเฉพาะ
จิน เสวีย กล่าวเสริมว่า “เป้าหมายของเราคือการยกระดับ AI SaaS จาก ‘เครื่องมือ AI เฉพาะด้าน’ ให้กลายเป็น ‘ทีมขับเคลื่อนการเติบโตด้วย AI’ ขององค์กร ซึ่ง ‘AI All-in-one Solution’ และโรดแมป AI-First Communication Cloud ของเราจะช่วยสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ ‘hyper-personalized’”
“และในปี 2569 ที่จะถึงนี้ Crescendo Lab เตรียมนำ MAAC, CAAC, DAAC และบริการที่ปรึกษามาเสริมสร้างข้อได้เปรียบเชิง AI ให้ฝังอยู่ในกระบวนการธุรกิจทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกการสื่อสารกับลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรไทย”







