'ดีอี–แบงก์ชาติ' เร่งปลดล็อกบัญชีบริสุทธิ์ ป้องกันผลกระทบประชาชนหลังถูกอายัดเงิน

'ดีอี–แบงก์ชาติ' เร่งปลดล็อกบัญชีบริสุทธิ์ ป้องกันผลกระทบประชาชนหลังถูกอายัดเงิน

ดีอี จับมือ ธปท. สมาคมธนาคาร ปปง. และตำรวจไซเบอร์ เร่งวางกลไกคัดกรองเข้ม บัญชีม้า–บัญชีบริสุทธิ์ แก้ปัญหาประชาชนถูกระงับบัญชีชั่วคราวโดยไม่เกี่ยวข้อง

KEY

POINTS

  • กระทรวงดีอี แบงก์ชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางปลดล็อกบัญชีธนาคารของประชาชนที่ถูกระงับชั่วคราวจากการตรวจสอบบัญชีม้า
  • การระงับบัญชีเป็นมาตรการตามกฎหมายเพื่อติดตามเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพ โดยจะระงับ "เฉพาะวงเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมต้องสงสัย" ไม่ใช่การอายัดทั้งบัญชี
  • ที่ประชุมมีมติให้ศูนย์ศปอท. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการกลั่นกรองและสั่งปลดล็อกบัญชีที่พิสูจน์แล้วว่าบริสุทธิ์
  • ประชาชนผู้สุจริตที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อสายด่วน AOC 1441 กด 2 เพื่อเข้าสู่กระบวนการเพิกถอนการระงับบัญชี โดยธนาคารจะเป็นผู้แจ้งผลให้ทราบโดยตรง
  • มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กับการปกป้องสิทธิ์ของประชาชนผู้สุจริตที่ได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชี

วันที่ 14 กันยายน 2568 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เพื่อหารือมาตรการปลดล็อกและเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว อันเนื่องมาจากการตรวจสอบบัญชีม้าที่มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางหมุนเวียนเงิน

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ เปิดเผยว่า การระงับบัญชีธนาคารเป็นมาตรการภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มาตรา 6 และ 7 โดยมุ่งติดตามเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงอาชญากรรมออนไลน์ และคืนเงินให้ผู้เสียหาย

โดยย้ำว่า การระงับจะเป็น “เฉพาะวงเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมต้องสงสัย” มิใช่การปิดกั้นบัญชีทั้งเล่ม

เจ้าของบัญชีจึงยังทำธุรกรรมอื่นได้ตามปกติ ขณะที่การอายัดบัญชีเต็มรูปแบบต้องดำเนินการผ่านหมายอายัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเท่านั้น

'ดีอี–แบงก์ชาติ' เร่งปลดล็อกบัญชีบริสุทธิ์ ป้องกันผลกระทบประชาชนหลังถูกอายัดเงิน

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ทำหน้าที่กลั่นกรองและปลดล็อกบัญชีที่พิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยศูนย์ประสานงาน AOC 1441 เป็นกลไกกลาง ร่วมมือกับ ธปท. ธนาคารพาณิชย์ และตำรวจ ตรวจสอบในสองมิติหลัก ได้แก่

  1. วิเคราะห์เส้นทางและรูปแบบทางการเงินว่าเป็นธุรกรรมปกติหรือไม่
  2. ตรวจสอบความเกี่ยวพันกับบัญชีที่ ปปง. และตำรวจออกคำสั่งอายัดไว้

“ขณะนี้ศูนย์ AOC เร่งรัดการตรวจสอบ และปลดล็อกบัญชีของประชาชนทั่วไปไปแล้วจำนวนหนึ่ง ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถติดต่อสายด่วน 1441 กด 2 เพื่อดำเนินการเพิกถอนการระงับตามขั้นตอน และเมื่อมีคำสั่งปลดล็อกจาก ศปอท. ธนาคารจะเป็นผู้แจ้งตรงไปยังเจ้าของบัญชี โดยศูนย์ AOC ไม่มีการติดต่อกับประชาชนเพื่อป้องกันการสวมรอยจากมิจฉาชีพ

'ดีอี–แบงก์ชาติ' เร่งปลดล็อกบัญชีบริสุทธิ์ ป้องกันผลกระทบประชาชนหลังถูกอายัดเงิน

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวถือเป็นความพยายาม “สร้างสมดุล” ระหว่างการสกัดกั้นเส้นทางการเงินมิจฉาชีพที่ก่ออาชญากรรมออนไลน์ สร้างความเสียหายหลายพันล้านบาทต่อปี กับการปกป้องสิทธิของประชาชนผู้สุจริตที่ได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีโดยไม่ตั้งใจ ทั้งยังสะท้อนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล ภาคการเงิน และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ที่ต้องทำงานแบบบูรณาการ เพื่อสร้างกลไกป้องกันอาชญากรรมดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในระยะยาว