เปิดร่างฯแก้ไขพรบ.คอมพ์ฯฉบับใหม่ จับตา'ดีอี'ดึงบริการ OTT ให้อยู่ภายใต้กฎหมาย

ดีอี-ETDA เดินหน้าจัดระเบียบ OTT ต่อเนื่อง หลังพยายามมาหลายปีแต่ยังไม่สำเร็จ ล่าสุดเตรียมแก้ พรบ.คอมพ์ หวังสร้างกรอบควบคุมเนื้อหาดิจิทัลที่ชัดเจน ครอบคลุม และเป็นธรรม
KEY
POINTS
- ETDA กำลังเร่งแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม OTT โดยเฉพาะ และเตรียมเสนอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พิจารณาภายในเดือนตุลาคม 2568
- การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อให้กระทรวงดีอี ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเนื้อหาดิจิทัลโดยตรง สามารถกำกับดูแลแพลตฟอร์ม OTT เช่น Facebook และ YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ร่างกฎหมายฉบับใหม่จะมีการจัดประเภทเนื้อหาบน OTT เป็นกลุ่มต่างๆ เช่น เนื้อหาที่ต้องควบคุมตามอายุ หรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับความมั่นคง พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
- ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงดีอีและ กสทช. เพื่อสร้างกลไกทางกฎหมายที่สมบูรณ์ หลังจากที่กฎหมายปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในการกำกับดูแล OTT
- การแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการจัดระเบียบ OTT อย่างจริงจัง หลังจากความพยายามในอดีตของ กสทช. ที่ให้ผู้บริการมาลงทะเบียนไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการจากต่างประเทศ
ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เปิดเผยว่า ขณะนี้ ETDA ได้เร่งแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 หรือ พรบ.คอมพ์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม OTT (Over-The-Top) ในประเทศไทย อาทิ Facebook YouTube วิดีโอ Streaming และเตรียมเสนอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พิจารณาภายในเดือน ต.ค.68
เขา กล่าวว่า การปรับปรุง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางจัดระเบียบการดูแลแพลตฟอร์ม OTT ให้เหมาะสม โดยเฉพาะในแง่ของเนื้อหา ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงดีอีโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นการกำกับดูแล OTT ถือเป็นประเด็นใหญ่ที่รัฐบาลและกระทรวงดีอีแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะเดินหน้าจัดการอย่างจริงจัง โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปรียบได้กับจิ๊กซอว์ที่ต้องนำมาต่อกันให้ครบทั้งระบบ
กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้ง พรบ.คอมพ์ และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) อาจต้องมีการปรับแก้ในบางมาตรา เพื่อให้สามารถควบคุมแพลตฟอร์ม OTT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบการแข่งขันที่เป็นธรรมและเป็นกลาง
โดยเฉพาะ กสทช. มีอำนาจหน้าที่ดูแลเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้หน้าจอและคลื่นความถี่ ขณะที่กระทรวงดีอีมีหน้าที่ดูแลเนื้อหาดิจิทัล และใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมายหลักในการกำกับ
ทั้งนี้ กระทรวงดีอี และ กสทช. ได้หารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการจัดระเบียบ OTT อย่างเหมาะสม โดย ETDA ในฐานะหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดีอี ได้ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และแคนาดา เพื่อจัดทำแนวทางควบคุมเนื้อหา OTT ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
สาระสำคัญของร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่
จะมีการจัดประเภทเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม OTT ออกเป็นหลายกลุ่ม เช่น เนื้อหาที่ต้องควบคุมตามอายุผู้ชม, เนื้อหาที่ต้องควบคุมในด้านการเมืองหรือความมั่นคง, และเนื้อหาที่อาจเชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยจะมีแนวทางปฏิบัติแยกเป็นสองช่วง คือ ก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช. ได้พยายามจัดระเบียบการให้บริการ OTT อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการออกแนวทางให้ผู้ให้บริการ OTT รายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศเข้ามาลงทะเบียนกับ กสทช. เพื่อสร้างฐานข้อมูลผู้ให้บริการและเป็นจุดเริ่มต้นในการติดตามความเคลื่อนไหว แต่ความพยายามดังกล่าวกลับได้รับความร่วมมือเพียงบางส่วน โดยผู้ให้บริการต่างชาติหลายรายยังคงไม่ให้ความสำคัญกับการขึ้นทะเบียน เนื่องจากมองว่าเป็นภาระที่ไม่จำเป็น
อีกทั้ง กสทช. ยังเคยจัดตั้ง “คณะทำงานศึกษาและกำกับ OTT” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และการแข่งขันในตลาดสื่อดิจิทัล พร้อมทั้งจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่แนวทางดังกล่าวยังติดข้อจำกัดในด้านกฎหมายที่ไม่ครอบคลุม ทำให้การกำกับดูแลทำได้เพียงในระดับ “สมัครใจ” มากกว่าการบังคับใช้จริง
อีกหนึ่งความพยายามสำคัญคือการผลักดันให้ผู้ให้บริการ OTT ที่มีรายได้จากการโฆษณาหรือการเก็บค่าสมาชิกในประเทศไทย เข้าสู่ระบบภาษีและอยู่ภายใต้กติกาการแข่งขันเดียวกับผู้ประกอบการสื่อไทย แต่กระบวนการดังกล่าวก็ยังคงเผชิญกับความท้าทาย ทั้งในแง่การบังคับใช้และความซับซ้อนของโครงสร้างธุรกิจดิจิทัลระดับโลก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ที่สะท้อนถึงความพยายามของทั้ง กสทช. และกระทรวงดีอี ที่ต้องการสร้างกลไกทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ไทยสามารถรับมือกับการเติบโตของแพลตฟอร์ม OTT ได้อย่างสมดุล ระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภค การรักษาความมั่นคง และการส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม







