อวสานถาดซิม! รู้จัก 'eSIM' ให้เข้าใจ เพราะ iPhone Air จะไร้ซิมการ์ด

อวสานถาดซิม! รู้จัก 'eSIM' ให้เข้าใจ เพราะ iPhone Air จะไร้ซิมการ์ด

เจาะลึก "eSIM" เทคโนโลยีที่ "iPhone Air" เลือกใช้ หลังตัดสินใจถอดถาดซิมออกจากตัวเครื่องที่จะจำหน่ายในไทยแล้วแบบยกชุด ทำให้ถาดซิมกลายเป็นเพียงตำนานบน iPhone รุ่นก่อน

KEY

POINTS

  • iPhone Air ได้ยกเลิกถาดซิมการ์ดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเปลี่ยนมาใช้ eSIM ซึ่งเป็นซิมดิจิทัลที่ฝังอยู่ในตัวเครื่องเท่านั้น
  • เทคโนโลยี eSIM มอบความสะดวกสบายในการจัดการหลายเบอร์, ลดความยุ่งยากในการเดินทางไปต่างประเทศ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
  • การเปิดใช้งานเบอร์หรือย้ายค่ายจะต้องทำผ่านวิธีการทางดิจิทัล เช่น การสแกน QR Code หรือการโอนย้ายข้อมูลโดยตรงระหว่างเครื่อง แทนที่การสลับซิมการ์ดแบบเดิม

จะว่าใหม่ก็ไม่ใหม่ แต่ความแพร่หลายในประเทศไทยอาจยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ eSIM หรือ อีซิม ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยใช้ และอาจไม่รู้จักเลยทีเดียว ทว่าในวันนี้ที่ iPhone Air เปิดตัวใหม่แล้ว และมาพร้อมประกาศิตว่า "ต่อไปนี้ไม่มีถาดซิม" นั่นเท่ากับว่าคนไทยที่จะใช้ iPhone Air จะต้องใช้ eSIM แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า eSIM คืออะไร? แล้วชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร? KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะพามาเจาะลึกทุกแง่มุมให้กระจ่าง เพื่อให้ทุกคนใช้งาน iPhone Air และรุ่นต่อๆ ไปได้อย่างเต็มศักยภาพ

eSIM คืออะไร? ลาก่อนซิมการ์ดในตำนาน

ซิมการ์ดพลาสติกแผ่นเล็กที่เราต้องคอยใช้เข็มจิ้มถาดออกมาเพื่อใส่หรือเปลี่ยน คือเทคโนโลยีที่อยู่คู่กับโทรศัพท์มือถือมาอย่างยาวนาน เปรียบได้กับแผ่นซีดีในยุคที่ทุกคนฟังเพลงผ่านบริการสตรีมมิงไปหมดแล้ว eSIM หรือ Embedded SIM คือ ซิมการ์ดแห่งยุคใหม่ที่มาในรูปแบบดิจิทัล

มันคือ ชิปขนาดเล็กที่ถูก "ฝัง" (Embed) มากับแผงวงจรของ iPhone ตั้งแต่ออกจากโรงงาน หน้าที่ของมันเหมือนกับซิมปกติทุกประการ คือ ใช้เพื่อระบุตัวตนกับเครือข่ายมือถือ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ แทนที่จะต้องจัดการกับซิมการ์ดที่จับต้องได้ แต่คุณจะดาวน์โหลด "โปรไฟล์ซิม" จากผู้ให้บริการเครือข่ายลงไปในเครื่องได้โดยตรง มันคือการเปลี่ยนซิมการ์ดให้กลายเป็นซอฟต์แวร์ที่จัดการได้ง่ายๆ ผ่านหน้าจอ iPhone นั่นเอง

เหตุผลที่ eSIM คือ การอัปเกรดครั้งสำคัญ

การตัดสินใจครั้งใหญ่ของ Apple ในการผลักดันเทคโนโลยีนี้ มาพร้อมกับข้อดีที่ยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้นหนึ่งในนั้นคือ ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า คุณจะเปิดเบอร์ใหม่หรือย้ายค่ายได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน เพียงแค่สแกน QR Code หรือทำตามขั้นตอนผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการก็พร้อมใช้งานทันที จุดเด่นที่สำคัญคือ iPhone หนึ่งเครื่องเก็บโปรไฟล์ eSIM ไว้ได้หลายเบอร์ อยากจะสลับใช้เบอร์ไหนสำหรับเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือดาต้า ก็แค่เข้าไปเลือกใน Settings ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ eSIM คือ สิ่งที่ขาดไม่ได้ ลืมประสบการณ์การเดินหาซื้อซิมการ์ดตามสนามบินไปได้เลย เพราะซื้อแพ็กเกจดาต้าสำหรับเดินทางจากผู้ให้บริการทั่วโลกผ่านช่องทางออนไลน์ล่วงหน้าได้ เมื่อเดินทางถึงที่หมาย ก็แค่เปิดใช้งาน eSIM นั้นแล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันที ไม่ต้องวุ่นวาย และไม่ต้องกังวลเรื่องซิมหลักจะสูญหาย ในด้านความปลอดภัยก็เหนือกว่า หาก iPhone ถูกขโมยไป คนร้ายจะถอดซิมออกเพื่อปิดกั้นการติดตามไม่ได้ ทำให้ยังมีโอกาสตามหาเครื่องเจอผ่านบริการ Find My

ข้อควรพิจารณาของ eSIM

ทุกเทคโนโลยีย่อมมีมุมที่ต้องพิจารณา ข้อจำกัดหลักของ eSIM คือ ความยืดหยุ่นในสถานการณ์ฉุกเฉิน หาก iPhone ของคุณเกิดเสียหายจนเปิดไม่ติด จะดึงซิมออกมาเพื่อใส่ในเครื่องสำรองแล้วใช้งานต่อไม่ได้ทันทีเหมือนซิมปกติ แต่จำเป็นต้องติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อขอ QR Code สำหรับ eSIM ใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจไม่สะดวกเท่าที่ควร การย้าย eSIM ไปยังโทรศัพท์เครื่องใหม่ แม้ปัจจุบัน Apple จะพัฒนาระบบ Quick Transfer ให้ทำได้ง่าย และรวดเร็วขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่ฉับไวเท่ากับการสลับซิมการ์ดแบบเดิมในเวลาไม่กี่วินาที

How-To เปิดประตูสู่โลก eSIM บน iPhone

การเริ่มต้นใช้งาน eSIM นั้นง่ายกว่าที่คิด วิธีที่เป็นมาตรฐานที่สุดคือ การรับ QR Code จากผู้ให้บริการเครือข่าย เมื่อได้ QR Code มาแล้ว ให้ไปที่ Settings > Cellular (เซลลูลาร์) > Add eSIM (เพิ่ม eSIM) แล้วใช้กล้องของ iPhone สแกน QR Code นั้น จากนั้นทำตามขั้นตอนบนหน้าจออีกเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสิ้น ผู้ให้บริการบางรายอาจมีทางเลือกให้เปิดใช้งานผ่านแอปพลิเคชันของตัวเอง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวก

สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายเบอร์จาก iPhone เครื่องเก่ามายัง iPhone Air เครื่องใหม่ ก็ใช้ฟีเจอร์ Quick Transfer ซึ่งตัวเครื่องจะแนะนำขั้นตอนการย้าย eSIM แบบไร้สายให้โดยอัตโนมัติระหว่างการตั้งค่าเครื่องใหม่ สะท้อนความง่าย และความต่อเนื่องในระบบนิเวศของ Apple ได้เป็นอย่างดี

เบื้องหลังการตัดสินใจของ Apple ทำไมต้องตัดถาดซิม?

การนำถาดซิมออกไปสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบของ Apple ที่มุ่งสร้างอุปกรณ์ที่เรียบง่าย และไร้รอยต่อมากที่สุด การไม่มีช่องสำหรับถาดซิมหมายถึงการลดชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว และลดช่องโหว่ที่น้ำ และฝุ่นจะสามารถเข้าไปทำความเสียหายได้ ทำให้ตัวเครื่องมีความทนทานมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ภายในอันล้ำค่า ซึ่งวิศวกรนำไปใช้ประโยชน์กับชิ้นส่วนอื่น เช่น การเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ หรือการใส่เซนเซอร์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไป ทิศทางนี้ไม่ต่างจากการที่ Apple เคยตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ออกไป ซึ่งในตอนแรกอาจมีเสียงวิจารณ์ แต่ท้ายที่สุดก็นำไปสู่มาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม

การมาถึงของ iPhone Air ที่ใช้ eSIM เพียงอย่างเดียว จึงเป็นวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นตามครรลองของเทคโนโลยี ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องปรับตัว และเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากมาตรฐานใหม่นี้อย่างเต็มที่ เพราะนี่คือ อนาคตของการสื่อสารที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์