ระวัง! ‘Windows’ เวอร์ชันเก่า เปิดช่อง 'ภัยไซเบอร์' โจมตีธุรกิจ

ระวัง! ‘Windows’ เวอร์ชันเก่า เปิดช่อง 'ภัยไซเบอร์' โจมตีธุรกิจ

"แคสเปอร์สกี้" เตือน การใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่าในโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรจะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อธุรกิจ

สถิติโดย “แคสเปอร์สกี้” พบว่า ปัจจุบันผู้ใช้ทั่วไปจำนวน 53% และผู้ใช้องค์กร 59.5% ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และมีพีซีเพียง 33% เท่านั้นที่อัปเกรดเป็น Windows 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว

Windows 10 มีกำหนดระงับการสนับสนุนในเดือนต.ค.นี้ เมื่อระบบปฏิบัติการสิ้นสุดอายุการใช้งาน ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขก็จะไม่ได้รับการแก้ไขอีกต่อไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าอาชญากรไซเบอร์อาจมีโอกาสใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านี้ได้

ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญแคสเปอร์สกี้ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้องค์กรธุรกิจอัปเดตระบบปฏิบัติการเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อเครือข่ายส่วนบุคคลและธุรกิจ

งานวิจัยแสดงข้อมูลว่า แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนก่อนที่จะยุติการสนับสนุน แต่ผู้ใช้จำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (53%) ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 อยู่

นอกจากนี้ อุปกรณ์จำนวน 8.5% ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 เวอร์ชันเก่า ซึ่งสิ้นสุดการสนับสนุนไปแล้วตั้งแต่ปี 2563 ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงความยึดมั่นอย่างสูงต่อระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่า

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่าในโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรจะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อธุรกิจ

เนื่องจากระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัยไม่เพียงแต่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจไม่สามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์และเครื่องมือรักษาความปลอดภัยรุ่นใหม่ๆ ได้ ความไม่เข้ากันนี้สามารถก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจได้

โอเล็ก โกโรเบ็ตส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า การย้ายระบบไปยังระบบปฏิบัติการใหม่อาจถูกมองอย่างผิดๆ ว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่จำเป็นและก่อกวนระบบ และมีฟีเจอร์ใหม่เพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ทำให้เวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่เดิมมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เฟซ

แต่ในมุมมองด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดตความปลอดภัยก็เปรียบเสมือนบ้านที่มีรั้วผุพังซึ่งสามารถพังทลายได้เพียงแค่เตะเพียงครั้งเดียว ความเสี่ยงสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้องค์กรธุรกิจนั้นมีมากกว่าความไม่สะดวกเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการย้ายระบบไปยังระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่

สำหรับฝ่ายไอทีและฝ่ายรักษาความปลอดภัยไอทีขององค์กร การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งเริ่มต้นจากระบบปฏิบัติการ ถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้นๆ

การอัปเดตอย่างทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียง ไม่ควรละเลยสิ่งนี้ แม้ว่าจะมีโซลูชันความปลอดภัยที่เชื่อถือได้อยู่แล้วก็ตาม