'AI' เปลี่ยนเกมตลาด 'พีซี' สิ้นปี 68 ยอดทะลุ 77 ล้านเครื่อง

"การ์ทเนอร์" คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปี 2568 คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI PC จะครองส่วนแบ่งตลาด 31% โดยมียอดจัดส่งทั่วโลกอยู่ที่ราว 77.8 ล้านเครื่อง
รันจิต อัตวาล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ การ์ทเนอร์ กล่าวว่า AI PC กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาด แต่การนำมาใช้งานในปีนี้เกิดการชะลอตัว เนื่องจากมาตรการด้านภาษีและการหยุดชะงักของการซื้อ อันเนื่องมาจากเหตุความไม่แน่นอนของตลาด
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จะลงทุนซื้อ AI PCs เพื่อความมั่นใจว่าพวกเขาพร้อมรับมือกับการนำ AI มาใช้งานมากขึ้นในยุคนี้
นักวิเคราะห์การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในปี 2569 ยอดจัดส่ง AI PCs จะอยู่ที่ 143 ล้านเครื่อง และจะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีทั้งหมดถึง 55% โดยอีกสี่ปีข้างหน้า หรือปี 2572 AI PC จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการใช้งานเครื่องพีซี
ดีมานด์ขยายตัวต่อเนื่อง
การ์ทเนอร์ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดและยอดจัดส่ง AI PCs ทั่วโลก ระหว่างปี 2567–2569 โดยภาพรวม ส่วนแบ่ง AI PC ในตลาดพีซีทั้งหมดปี 2567 อยู่ที่ 15.6%, ปี 2568 เพิ่มมาที่ 31% และปี 2569 คาดว่าจะแตะ 54.7%
ยอดจัดส่ง AI PC ทั่วโลก ปี 2567-2569
- AI Laptop: ปี 2567 มีส่วนแบ่ง 19.4%, ปี 2568 เพิ่มมาที่ 35.7%, ปี 2569 คาดการณ์ที่ 58.7%
- AI Desktop: ปี 2567 อยู่ที่ 3.8%, ปี 2568 เพิ่มมาที่ 16.4%, ปี 2569 คาดว่าจะแตะ 42.1%
- AI PCs : ยอดรวมปี 2567 จำนวน 38.1 ล้านเครื่อง, ปี 2568 จำนวน 77.8 ล้านเครื่อง และปี 2569 จำนวน 143.1 ล้านเครื่อง
หากมองถึงความต้องการตลาด พบว่าในภาคธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปจะมีการเลือก AI PC มาใช้งานแตกต่างกัน โดยการตัดสินใจหลัก ๆ จะเน้นไปที่การเลือกแพลตฟอร์มโปรเซสเซอร์ AI PC
โดยแล็ปท็อปสถาปัตยกรรม Arm (Arm-based laptops) จะครองส่วนแบ่งในตลาดผู้บริโภคมากกว่าภาคธุรกิจ เมื่อปัญหาความเข้ากันได้ของแอปพลิเคชันได้รับการแก้ไข ส่วนภาคธุรกิจ ผู้ใช้ให้ความสำคัญกับสถาปัตยกรรม x86 บน Windows ซึ่งคาดว่าจะครองส่วนแบ่งตลาด AI Business Laptop 71% ในปีนี้ ขณะที่ Arm จะอยู่ที่ 24%
มองอนาคตของ ‘AI PC’
เพื่อให้สอดรับกับ AI PC ที่แพร่หลายมากขึ้นในตลาด การ์ทเนอร์คาดว่า ภายในสิ้นปี 2569 ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ 40% จะให้ความสำคัญกับการลงทุนความสามารถของ AI ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพโดยตรงของพีซี เพิ่มขึ้นจาก 2% ในปี 2567 และในปีเดียวกันนั้นโมเดลภาษาขนาดเล็กหลายตัว หรือ Multiple Small Language Models (SLMs) จะทำงานอยู่บนพีซี เพิ่มขึ้นจากศูนย์เมื่อปี 2566
ด้วยโมเดลภาษาขนาดเล็ก (SLMs) ช่วยทำให้การรันฟีเจอร์ AI ขั้นสูงตรงจากพีซีและอุปกรณ์ดีไวซ์อื่น ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองรวดเร็วขึ้น ใช้พลังงานลดลง และลดการพึ่งพาบริการคลาวด์ลง โดย SLMs ยังมอบความอัจฉริยะในงานเฉพาะด้าน (Task-Specific Intelligence) ช่วยรักษาข้อมูลของผู้ใช้และธุรกิจให้ปลอดภัย เนื่องจาก AI ทำงานตรงผ่านอุปกรณ์
เพื่อปลดล็อกการเติบโตครั้งใหม่ ผู้จำหน่ายคอมพ์ส่วนบุคคลต้องมองให้ไกลกว่าเรื่องฮาร์ดแวร์และการส่งมอบซอฟต์แวร์ที่ถูกกำหนดไว้ โดยหันมายึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางในการออกแบบสำหรับรองรับบทบาทและยูสเคสการใช้งานที่มีความเฉพาะ
อนาคตของ AI PC ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเฉพาะของแต่ละคน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าอุปกรณ์ผ่านแอป ฟีเจอร์ และฟังก์ชันได้ตามที่ต้องการ ยิ่งผู้ใช้มีส่วนร่วมกับ AI PC ของผู้จำหน่ายมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ผู้จำหน่ายเข้าใจผู้ใช้มากขึ้นเท่านั้น และทำให้สามารถปรับปรุงคุณภาพพร้อมสร้าง Brand Loyalty ที่แข็งแกร่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง







