ไปรษณีย์ไทย–ทอท.ลุยแพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมขนส่งอากาศสู่ฮับโลจิสติกส์

ไปรษณีย์ไทย–ทอท.ลุยแพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมขนส่งอากาศสู่ฮับโลจิสติกส์

ไปรษณีย์-ทอท. เซ็นเอ็มโอยูศึกษาและพัฒนา Airport Cargo Community System (ACS) แพลตฟอร์มกลางบูรณาการห่วงโซ่ขนส่งสินค้าทางอากาศ เสริมประสิทธิภาพ ลดต้นทุน หนุน Green Logistics และผลักดันไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการค้าการลงทุนภูมิภาค

KEY

POINTS

  • ไปรษณีย์ไทย และ ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ลงนามความร่วมมือ เพื่อศึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล Airport Cargo Community System (ACS)
  • แพลตฟอร์ม ACS จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลและบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่การขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ
  • เป้าหมายหลักของความร่วมมือคือการยกระดับขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ของประเทศ และผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศ (ฮับโลจิสติกส์) ในภูมิภาค
  • โครงการจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาต่อยอด เช่น ระบบบริหารจัดการรถบรรทุก (Truck Slot Management) และ AI เพื่อลดต้นทุนและสนับสนุนแนวทาง Green Logistics
  • ความร่วมมือนี้จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์โดยรวม, สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และสร้างโอกาสในการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cool Chain) เช่น ผลไม้และสินค้าเกษตร

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาและพัฒนา Airport Cargo Community System (ACS) แพลตฟอร์มกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศ ตั้งแต่ผู้นำเข้า–ส่งออก สายการบิน ผู้ให้บริการภาคพื้น ตัวแทนขนส่ง ตัวแทนศุลกากร จนถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายเพื่อยกระดับข้อมูลและการจัดการโลจิสติกส์ ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน เสริมขีดความสามารถรองรับธุรกิจนำเข้า–ส่งออก และปูทางสู่การเป็น ศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาค

นายรัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างโลจิสติกส์ของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาแพลตฟอร์ม ACS ที่จะเชื่อมโยงการทำงานระหว่างสายการบิน ผู้ให้บริการภาคพื้น ตัวแทนขนส่ง รวมถึงเครือข่ายภาคพื้นดิน ขณะเดียวกันยังต่อยอดไปสู่ระบบ Truck Slot Management เพื่อบริหารจัดการการใช้รถบรรทุกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสนับสนุนแนวทาง Green Logistics ด้วยการลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน เชื่อมโยงการขนส่งได้อย่างไร้รอยต่อ

“คณะกรรมการไปรษณีย์ไทยมุ่งวางกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีควบคู่กับการสร้างพันธมิตรสำคัญอย่างทอท.เพื่อเสริมความแข็งแกร่งระบบขนส่งสินค้าทางอากาศของไทยให้ได้มาตรฐานสากล อีกทั้งยังช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนใหม่ ๆ พร้อมสร้างรากฐานการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน” นายรัฐพลกล่าว

ไปรษณีย์ไทย–ทอท.ลุยแพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมขนส่งอากาศสู่ฮับโลจิสติกส์

ด้าน ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เสริมว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสร้าง “กลไกกลาง” เชื่อมโยงทุกภาคส่วนของการขนส่งสินค้าทางอากาศ ตั้งแต่ผู้นำเข้า–ส่งออก สายการบิน ผู้ให้บริการภาคพื้น หน่วยงานศุลกากร และพันธมิตรอื่น ๆ โดยยังต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมโลจิสติกส์

อาทิ การจับคู่สินค้ากับพื้นที่บรรทุกด้วย AI และ Machine Learning ระบบ Truck Slot Management ระบบ Smart Backhaul Trucking ที่ช่วยลดเที่ยวรถเปล่าและการใช้พลังงาน การวิเคราะห์เส้นทาง รวมถึงการติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ API เข้ากับระบบ TMS, Customs, ERP และคลังสินค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนพลังงานและการปล่อยคาร์บอนอย่างมีนัยสำคัญ

เขา ยังระบุว่า แนวโน้มอีคอมเมิร์ซที่ขยายตัว ทำให้การขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นที่ต้องการมากขึ้น ไปรษณีย์ไทยจึงสนับสนุนบริการส่งพัสดุทางอากาศทั้งรูปแบบเร่งด่วนและประหยัด

โดยบริการหลักอย่าง EMS World ครอบคลุมกว่า 200 ปลายทางทั่วโลก ขณะเดียวกันยังมี ePacket สำหรับผู้ต้องการบริการด่วนราคาประหยัด รองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

ด้านปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยจะช่วยบูรณาการการขนส่งสินค้าทางอากาศและทางบก ลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้แก่ผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการขนส่ง และผู้บริโภค พร้อมต่อยอดสู่Cool Chain Logistics สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิอย่างผลไม้และสินค้าเกษตรไทย สร้างศักยภาพขนส่งสินค้าทางอากาศระดับสากล เสริมขีดความสามารถการแข่งขัน และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางขนส่งของเอเชียในอนาคต