“ซิกเว่ เบรกเก้” เปิดเกมรุกรีเซตองค์กรใหม่ พร้อมเดินหน้าสู่ AI-First Company

ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเกมรุกสร้างองค์กรใหม่พร้อมจัดทัพผู้นำมุ่งเป้าหัวใจสำคัญเพื่อลูกค้า และเป็นครั้งแรกที่แต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Chief Data and AI Officer)
KEY
POINTS
- ทรู คอร์ปอเรชั่น ภายใต้การนำของ “ซิกเว่ เบรกเก้” ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัว ตัดสินใจได้รวดเร็ว และมุ่งเน้นการตอบสนองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
- เป้าหมายหลักของการปรับโครงสร้างคือการผลักดันให้ทรูมุ่งสู่การเป็น “AI-First Company” หรือองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ
- มีการจัดทัพผู้บริหารใหม่และแต่งตั้งตำแหน่ง “Chief Data and AI Officer” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท เพื่อขับเคลื่อนการใช้ AI ในทุกกระบวนการทำงาน
- กลยุทธ์การยกเครื่ององค์กรใหม่นี้ตั้งอยู่บน 5 แกนหลัก โดยมี “Empowering the Future with AI” เป็นหนึ่งในแกนสำคัญเพื่อปูทางสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีอย่างแท้จริง
ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่หมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว “ทรู คอร์ปอเรชั่น” เปิดกลยุทธ์ใหม่ สร้างองค์กรให้พร้อมรับอนาคต ด้วยการยกเครื่องโครงสร้าง พร้อมจัดทัพผู้บริหารใหม่ครบชุด โดยเฉพาะการประกาศแต่งตั้งตำแหน่ง “Chief Data and AI Officer” เป็นครั้งแรก บ่งชี้ทิศทางชัดเจนสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI อย่างเต็มรูปแบบ
นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถึงเบื้องหลังการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ที่มุ่งเป้าไปที่ “ลูกค้า” และ “อนาคต” โดยการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้มีเป้าหมาย ให้ทรูเป็นองค์กรที่เรียบง่าย คล่องตัว ตัดสินใจเร็ว และที่สำคัญต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ทันที โดยมองว่าอนาคตจะเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เร็วและรุนแรง ทั้งจากเทคโนโลยีและความคาดหวังของลูกค้า ดังนั้น การออกแบบโครงสร้างองค์กรใหม่จึงต้องสะท้อนยุทธศาสตร์นี้ให้ได้
5 แกนหลัก ยกเครื่องสู่ทรูใหม่
ซิกเว่ แจกแจงแนวทางการออกแบบองค์กรใหม่ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ประกอบด้วย 5 แกนหลัก คือ
- Customer Champion – สร้างผู้นำด้านประสบการณ์ลูกค้าที่เข้าถึงและตอบสนองได้ทันที
- Win the Home – เจาะตลาด 23 ล้านครัวเรือนไทย ด้วยโซลูชันดิจิทัลครบวงจร
- Accelerating B2B Digital Transformation – เร่งเปลี่ยนผ่านองค์กรและ SME สู่ดิจิทัล
- Empowering the Future with AI – ปูทางสู่ AI-First Company ด้วย Cloud และ Automation
- Sharpened Focus on Digitalization – ปลดล็อกระบบเดิม เพิ่มความคล่องตัวทั้งองค์กร
การปรับโครงสร้างองค์กรและการจัดทัพผู้นำใหม่ครั้งนี้ จะทำให้เรามีศักยภาพพร้อมในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวันนี้ แต่ยังพร้อมสำหรับอนาคต ที่ผันผวนอย่างรุนแรง
สานเป้าหมาย “One True Experience”
ในการปรับทัพครั้งนี้ ทรูได้แต่งตั้งผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญในแต่ละแกนยุทธศาสตร์ ได้แก่
- นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช หัวหน้าฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าและรีเทล
- นายชารัด เมห์โรทรา หัวหน้าฝ่ายกลุ่มลูกค้าบุคคล
- นายคูรัม อัชฟาค หัวหน้าฝ่ายเครือข่าย พัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะด้วย AI อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ ปากีสถาน
- นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าฝ่ายโฮมคอนเนคทิวิตี้
- นายธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจองค์กร
และเตรียมประกาศชื่อ Chief Data and AI Officer รวมถึง Chief Information Officer อย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
“เราเดินหน้าเป็น AI-First Company อย่างจริงจัง จึงมีการตั้งตำแหน่ง Chief Data and AI Officer เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทรู เพื่อผลักดันการใช้ AI ทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล วางแผน บริหารจัดการ ไปจนถึงการบริการลูกค้า"
ซิกเว่ อธิบายว่า ซึ่งการที่ทรูไม่มี Chief Marketing Officer ที่ดูการตลาด เพราะเราได้ขยายการดูแผนการตลาด การขายให้ไปกระจายอยู่แต่ละสายธุรกิจที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้มีการปรับกลยุทธ์ที่ตรงกับผู้บริโภคมากที่สุด และมั่นใจว่าดีเพียงพอต่อการแข่งขันในยุคนี้ และการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้ เป็นภารกิจที่ตนคิดตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งที่ทรู
โครงข่ายใหม่เสร็จ 100% ภายใน ก.ย.
นายซิกเว่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะ 6 เดือนข้างหน้าได้วางเป้าหมายชัดเจนเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกด้าน โดยด้านเครือข่ายเราจะเสร็จสิ้นโครงการ One Network 100% ภายในเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับสัญญาณ 5G/4G ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น
โดยคลื่นความถี่ 2300 MHz ที่ประมูลมาล่าสุดจำนวน 70 MHz ซึ่งมีความจุเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 10 MHz จะทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 17% ทันที และคลื่น 2300 MHz สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ในอนาคต ทั้งนี้ ทรูจะยกระดับประสบการณ์ใช้งาน 5G บนคลื่น 2600 MHz
ด้วยการใช้เทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS) ที่จะช่วยให้การใช้งานสัดส่วน 5G และ 4G ยืดหยุ่นตามสัดส่วน และ 5G จะสามารถเปิดให้บริการเต็มศักยภาพแบนด์วิดท์ทั้ง 90 MHz และเริ่มใช้คลื่นใหม่ 1500 MHz เพื่อเพิ่มความจุดาวน์ลิงก์ร่วมกับคลื่นย่านความถี่ต่ำแบนด์อื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วเครือข่ายอีกด้วย
ด้านการบริการดิจิทัล เราตั้งเป้าให้ลูกค้าทุกรายสามารถทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันได้ครบทุกรูปแบบ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีลูกค้าหันมาใช้ช่องทางดิจิทัลแล้ว 19% และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านประสบการณ์ลูกค้า จะมอบการบริการไร้รอยต่อทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน คอลเซ็นเตอร์ หรือแอปพลิเคชัน โดยลูกค้าสามารถเริ่มต้นธุรกรรมในช่องทางหนึ่งแล้วไปทำต่อในอีกช่องทางได้อย่างต่อเนื่อง เช่น สอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์แล้วมาดำเนินการต่อที่หน้าร้าน หรือสลับไปใช้แอปได้ทันที เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ปรับเป้ารับศก.ชะลอแต่ยังมีกำไร
แม้ในไตรมาส 2 ทรูต้องเผชิญโครงข่ายขัดข้องชั่วคราว และเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ซิกเว่ยืนยันว่า ทรูยังสามารถทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน พร้อมปรับเป้าทางการเงินให้สอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจ โดยคาดกาาณ์รายได้รวมปี 2568 ทรงตัวถึงโต 1% ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (IC) โดยมี EBITDA ทั้งปี โต 7–8%เงินลงทุน (CAPEX) ยังอยู่ในกรอบ 2.8–3 หมื่นล้านบาทผู้ใช้งานรวม 47.4 ล้านราย ลูกค้า 5G แตะ 14.7 ล้านเลขหมาย อินเทอร์เน็ตบ้านโต 2.3% อยู่ที่ 3.8 ล้านราย
ซิกเว่ ทิ้งทายว่า เรากำลังสร้างฐานธุรกิจระยะยาว ผ่านการใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายบริการใหม่ และลดต้นทุนแบบยั่งยืน ทรูจะไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการเครือข่าย แต่จะเป็นพาร์ทเนอร์ดิจิทัลของทุกครัวเรือน และทุกองค์กรในประเทศไทย







