ETDA เปิดเวทีแจงข้อมูลกฎหมาย DPS พร้อมให้คำปรึกษาแพลตฟอร์มแบบรายบริษัท

ETDA เปิดเวทีแจงข้อมูลกฎหมาย DPS พร้อมให้คำปรึกษาแพลตฟอร์มแบบรายบริษัท

ETDA เปิดเวทีสร้างความเข้าใจผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล กว่า 70 ราย พร้อมเปิด “Platform Clinic Zone” ให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว แก้ไขข้อมูลคลาดเคลื่อน หวังยกระดับความเข้าใจผู้ให้บริการสู่กลไกกำกับดูแลที่ยั่งยืน

KEY

POINTS

  • สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้จัดเวทีประชุมและคลินิกให้คำปรึกษาแบบรายบริษัท (Platform Clinic Zone) เพื่อชี้แจงแนวปฏิบัติและแก้ไขความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับกฎหมาย DPS แก่ผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล
  • การจัดงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ETDA ตรวจพบว่าข้อมูลที่แพลตฟอร์มต่างๆ แจ้งเข้ามานั้นมีข้อผิดพลาดหลายประเด็น เช่น ประเภทบริการไม่ตรงกับธุรกิจจริง ข้อมูลรายได้ไม่สอดคล้อง หรือ URL ไม่ถูกต้อง
  • ETDA ได้ให้โอกาสแพลตฟอร์มในการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการอาจถูกสั่งให้แก้ไข หรือมีโทษทางกฎหมายจนถึงขั้นระงับการดำเนินธุรกิจหรือเพิกถอนการรับแจ้ง

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าแคมเปญ “DPS Trust Every Click” เปิดเวทีประชุมแจงผลตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานการแจ้งการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลตามกฎหมาย DPS พร้อมจัดพื้นที่ “Platform Clinic Zone” ให้คำปรึกษารายแพลตฟอร์มแบบ One-on-One กับเจ้าหน้าที่กำกับดูแล เพื่อเสริมความเข้าใจในข้อกฎหมายและแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มกว่า 1,920 บริการ แจ้งข้อมูลเข้าระบบของ ETDA แล้ว (ข้อมูล ณ 4 ส.ค. 68) อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลบางส่วนยังคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วน จึงจำเป็นต้องเปิดเวทีครั้งนี้เพื่อแจงแนวปฏิบัติ สร้างความเข้าใจตรงกัน และให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงกับแต่ละแพลตฟอร์ม

ข้อคลาดเคลื่อนหลักที่ตรวจพบ 6 ประเด็น ได้แก่

1. แจ้งประเภทบริการไม่ตรงกับธุรกิจจริง

2. ข้อมูลการให้บริการตามมาตรา 16(1) ไม่ตรงข้อเท็จจริง

3. รายได้-มูลค่าธุรกรรมไม่สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจ

4. สัดส่วนรายได้ในไทยไม่สัมพันธ์กับการดำเนินงาน

5. ข้อมูลผู้ใช้บริการไม่ครบถ้วน

6. URL ไม่ถูกต้องหรือไม่สามารถตรวจสอบได้

ดังนั้น ETDA จึงเปิดโอกาสให้แพลตฟอร์มตรวจสอบและชี้แจงข้อมูล พร้อมส่งแบบฟอร์มยืนยันหรือแก้ไขภายใน 13 ส.ค. 68 หากยังพบข้อบกพร่อง อาจมีคำสั่งให้แก้ไขหรือดำเนินการทางกฎหมายถึงขั้นหยุดดำเนินธุรกิจหรือเพิกถอนการรับแจ้ง

 

โดยในกิจกรรมในครั้งนี้มีแพลตฟอร์มเข้าร่วมกว่า 70 บริการ ทั้งจากไทยและต่างประเทศ สะท้อนถึงความร่วมมือในระบบนิเวศดิจิทัลที่กำลังเติบโต และชี้ให้เห็นว่า การกำกับดูแลที่ดีไม่ใช่แค่การบังคับใช้กฎหมาย แต่ต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน เพื่อให้เกิดกลไกการดูแลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และนำไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว