คลื่นใหม่ในมือ! 'ทรู-เอไอเอส' รับไลเซ่นจาก กสทช. ดัน 5G ทั่วไทย

ตลาดมือถือไทยร้อนแรง! หลัง กสทช. มอบใบอนุญาตคลื่นความถี่ให้ 2 ผู้ให้บริการรายใหญ่ “ทรูมูฟ เอช” และ “เอไอเอส” ซึ่งต่างคว้าคลื่นสำคัญเพื่อเสริมศักยภาพเครือข่าย พร้อมปูทางรองรับเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอนาคต ทั้ง 5G, AI, IoT และการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
KEY
POINTS
- ทรู คอร์ปอเรชั่น และ เอไอเอส ได้รับมอบใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ใหม่จาก กสทช. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นระยะเวลา 15 ปี เพื่อขยายบริการ 5G ทั่วประเทศ
- ทรูได้รับใบอนุญาตคลื่น 2300 MHz และ 1500 MHz ทำให้กลายเป็นผู้ให้บริการที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุดในไทย เพื่อเพิ่มความเร็ว และความจุของเครือข่าย 4G และ 5G
- เอไอเอสได้รับใบอนุญาตคลื่น 2100 MHz ซึ่งพร้อมเปิดใช้งานทันทีด้วยเทคโนโลยี Super Block เพื่อเพิ่มความเร็วเครือข่ายได้ถึง 200% และยกระดับประสบการณ์ดิจิทัล
- กสทช. มีเป้าหมายในการจัดสรรคลื่นครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการโทรคมนาคมคุณภาพสูงอย่างทั่วถึง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ส.ค.68) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น รับมอบใบอนุญาตคลื่นความถี่ใหม่ คือ คลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz จากศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นระยะเวลา 15 ปี
ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศรับมอบใบอนุญาตคลื่นความถี่ใหม่ 2 ย่าน ได้แก่ คลื่น 2300 MHz (จำนวน 70 MHz) และคลื่น 1500 MHz (จำนวน 20 MHz) จากสำนักงาน กสทช. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นเวลา 15 ปี
การรับมอบคลื่นครั้งนี้ ทำให้ทรูกลายเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุดในประเทศ รวมครบทั้ง 8 ย่านความถี่ ได้แก่ 700, 900, 1500, 1800, 2100, 2300, 2600 MHz และ 26 GHz ครอบคลุมทุกช่วงความถี่ตั้งแต่ต่ำ กลาง ถึงสูง สามารถบริหารจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และยกระดับคุณภาพการใช้งานทั้ง 4G และ 5G ได้อย่างไร้รอยต่อ
คลื่นใหม่เพิ่มสปีด เสริมความจุ รองรับทุกพื้นที่ใช้งาน
ทรูระบุว่า คลื่น 2300 MHz จะถูกนำมาใช้กับโครงสร้างพื้นฐานเดิมเพื่อเพิ่มความเร็ว และความเสถียรของบริการ 4G ได้ทันที พร้อมต่อยอดสู่ 5G โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่มีความต้องการใช้งานสูง ขณะที่คลื่น 1500 MHz จะถูกนำมาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการดาวน์โหลด และขยายความจุของเครือข่าย ซึ่งจะตอบโจทย์การใช้งานดิจิทัลที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูวิดีโอ เล่นเกม ไปจนถึงการประชุมออนไลน์
ทั้งสองคลื่นยังมีบทบาทสำคัญในการขยายบริการไปยังพื้นที่ห่างไกล ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างเท่าเทียม และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
AIS เปิดใช้คลื่น 2100 MHz ทันที! เพิ่มสปีดโครงข่าย 200%
ขณะที่ฝั่งเอไอเอส โดยบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ได้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz ช่วง 1968-1980 MHz คู่กับ 2155-2170 MHz จาก กสทช. ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นระยะเวลา 15 ปีเช่นกัน
นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี เอไอเอส เปิดเผยว่า “เอไอเอสพร้อมเปิดให้ลูกค้าใช้งานคลื่น 2100 MHz ได้ทันทีหลังรับใบอนุญาต โดยใช้เทคโนโลยี Super Block รวมคลื่นที่มีอยู่กับคลื่นใหม่เข้าด้วยกัน ช่วยเพิ่มความเร็วเครือข่ายมากขึ้นถึง 200%” พร้อมระบุว่าปัจจุบันเอไอเอสให้บริการคลื่น 2100 MHz ครอบคลุมทั่วประเทศแล้วกว่า 99% ครบทั้ง 77 จังหวัด
ดันประสบการณ์ดิจิทัล-คอนเทนต์ บันเทิงเต็มพิกัด
คลื่นใหม่ของเอไอเอสยังช่วยเสริมศักยภาพการให้บริการด้านความบันเทิงดิจิทัล โดยเฉพาะการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูง และการแข่งขันกีฬาระดับโลก โดยในฤดูกาลนี้ ลูกค้าจะได้รับชมสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และไทยลีก ครบทุกนัดผ่านแพลตฟอร์ม AIS PLAY ฟรีทุกเครือข่าย สะท้อนการผสานโครงข่ายอัจฉริยะเข้ากับคอนเทนต์ระดับโลก เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าทั่วไทย
กสทช. หนุนการเข้าถึงสื่อสารที่มีคุณภาพทั่วถึง
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า การมอบใบอนุญาตดังกล่าวในวันนี้ สืบเนื่องจากการประชุม กสทช. ครั้งที่ 22/2568 ว่า ได้มีมติอนุมัติใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่แก่บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด โดยอนุญาตให้ใช้คลื่นระยะเวลา 15 ปี พร้อมเพิ่มบริการภายใต้ใบอนุญาตประเภทที่สาม เพื่อเปิดทางให้ประชาชนได้รับบริการโทรคมนาคมคุณภาพสูงอย่างเท่าเทียม
การจัดสรรคลื่นในครั้งนี้ยังสอดรับยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ โดยตั้งเป้าให้คลื่นความถี่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การศึกษา การสื่อสาร และนวัตกรรมในอนาคต ทั้งในรูปแบบของ 5G, AI, IoT และการใช้งานดิจิทัลที่ตอบโจทย์ทุกภาคส่วนในสังคม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







