Zero Trust กับสมาร์ตโฟน | ก้าวไกลวิสัยทัศน์

แต่สมาร์ตโฟนเสียได้และต้องเปลี่ยนเครื่องกันอยู่เสมอ นานปีไปแอปเดิมแต่เวอร์ชันใหม่ก็ใช้ไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่มีการซ่อม ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนเครื่องที่ต้องมีการโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องเดิมไปไว้ในเครื่องใหม่ 

ถ้าต้องมีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง ความเสี่ยงต่อข้อมูลสำคัญในสมาร์ตโฟนเกิดขึ้นเสมอ วันนี้เราดูแลข้อมูลสำคัญของเราที่ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจจะสะสมไว้ในสมาร์ตโฟน ดีเพียงพอหรือไม่?

มีคำแนะนำมากมายในการป้องกันข้อมูลสำคัญของเราจากสแกมเมอร์ให้ได้ทราบกันอยู่เสมอ แต่ขอเพิ่มอีกนิดว่าเริ่มต้นไว้ก่อนว่าไม่มีอะไรที่น่าให้ความไว้วางใจในทันทีที่พบเห็น ฝรั่งบอกว่ามีแต่ Zero Trust เท่านั้นในการเริ่มต้น ตระหนักไว้เสมอว่าบ้านเราอยู่ใกล้มหาอำนาจสแกมเมอร์ของโลก และพวกเรากลายเป็นเป้าหมายแรกๆ เพราะมีพวกเราบางคนกลายเป็นทีมงานของมหาอำนาจสแกมเมอร์

วันนี้เริ่มต้นด้วย Zero Trust กับสรรพสิ่งที่พบเจอผ่านทุกช่องทางของสมาร์ตโฟน แล้วชีวิตจะห่างไกลจากทุกข์ไซเบอร์ได้มากขึ้น รวมทั้งใจอาจปลอดโปร่งมากขึ้น ถ้าบอกตนเองว่าสารพัดโกหกที่น่ารำคาญนั้นมาจากสแกมเมอร์ตัวพ่อของโลก

ที่ใกล้ตัวเจอภัยไซเบอร์โดยไม่คาดคิด คือข้อมูลสำคัญ “หลุด” จากการอัปเกรดเครื่อง ซื้อเครื่องใหม่กันเป็นประจำ เพราะผู้ผลิตสมาร์ตโฟนเขาอยากให้เราเปลี่ยนบ่อยๆ เขาจะได้ขายได้มากขึ้น ทุกปีมีรุ่นใหม่ออกมาขาย บางบริษัทปีเดียวออกใหม่สองเวอร์ชัน คนทำแอปก็ปรับแอปให้เท่าทันฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับรุ่นใหม่ ช่วยกันบังคับทางอ้อมให้ผู้ใช้ตามอัปเกรดเครื่องไปด้วย

ที่จริงผู้ผลิตสมาร์ตโฟนก็พยายามอำนวยความสะดวกในการโอนย้ายข้อมูลจากเรื่องเก่าไปเครื่องใหม่ คนหนุ่มสาวทำกันเองได้แทบทุกคน แต่ผู้ใช้อาวุโสที่ต้องใช้แอปโมบายแบงก์กิงจำนวนไม่น้อยที่ทำเองไม่ได้ ซื้อเครื่องใหม่ก็วานพนักงานขายช่วยทำให้ จนกลายเป็นกรณีข้อมูลหลุดไปในอินเทอร์เน็ตเป็นข่าวให้ทราบกัน ซึ่งในความเป็นจริงอาจมีข้อมูลหลุดไปอีกมากมายโดยไม่เป็นข่าวก็ได้ 

เมื่อใดที่จะเปลี่ยนเครื่อง Zero Trust กับคนอื่นไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น ร้านที่ดูน่าเชื่อถือแค่ไหน อย่าทระนงว่าฉันนั่งเฝ้าอยู่ แกแอปสำเนาข้อมูลฉันไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่รู้เทคนิคจริงๆ ตาดูมองเห็นอยู่ก็ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร งานโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่ามาเครื่องใหม่ควรหัดทำเองให้ได้สำหรับผู้ใช้ในทุกวัย ไม่มีใครแก่เกินที่จะเรียนเรื่องนี้ มากที่สุดที่ยอมรับได้คือให้ลูกหลานหรือเพื่อนสนิทจริงๆ ช่วยสอนให้ทำ เน้นอีกครั้งว่าไม่ยากเกินไปสำหรับใครก็ตามที่จะทำเอง

ถ้าต้องซ่อมสมาร์ตโฟน จะเปลี่ยนแบต เปลี่ยนจอ ขอให้ Zero Trust คนซ่อมไว้ก่อน เขาจะขอรหัสเปิดเครื่องไว้เพื่อตรวจสอบการทำงาน ถ้าเป็นไปได้หาเวลานั่งเฝ้าคอยเปิดกดรหัสเปิดเครื่องให้เองจะดีกว่า ถ้าทำไม่ได้ ให้สำเนาข้อมูลไว้ในคลาวด์แล้วลบที่อยู่ในเครื่องออกไปก่อน ซ่อมเสร็จค่อยสำเนาจากคลาวด์กลับมาใหม่ ซึ่งแค่เสียเวลาอีกหน่อย แต่ทำได้ไม่ยาก ทำเองไม่ได้ วานลูกหลาน เพื่อนสนิทช่วยทำให้ได้ 

แต่บางทีเจอกรณีที่เครื่องเสียโดยไม่ได้ตั้งตัว ต้องใช้หลักคิด Zero Trust เตรียมไว้ก่อน ใช้รหัสสำหรับเปิดเครื่อง แตกต่างไปจากรหัสที่ใช้กับแอปต่างๆ โดยเฉพาะแอปเกี่ยวกับเงินทองทั้งหลาย รูปภาพที่เป็นส่วนตัวก็ซ่อนไว้ก่อน ต้องมีรหัสถึงจะเปิดดูได้ แอปธนาคาร การเงินทั้งหลายจะสามารถยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า ให้ใช้บริการไว้อีกชั้นหนึ่ง เสริมกับรหัสผ่าน อย่าลืมเปลี่ยนรหัสเปิดเครื่องใหม่ หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว รวมทั้งเช็คดูกิจกรรมในแอปธนาคารหรือการเงินว่ามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ 

นึกไว้เสมอว่า Zero Trust กับสมาร์ตโฟน ป้องกันอะไรได้ ก็เตรียมทำไว้ก่อน ลืมคำว่า “ไม่เป็นไร” ไปก่อน Zero Trust ไม่แน่ใจว่าต้องใช้กับคนใหญ่คนโตด้วยหรือไม่ในยามนี้?