บางสุดในโลก! เปิดตัว 'Infinix HOT 60 Pro+' มือถือเครื่องบาง ราคาเบา

สิ้นสุดการรอคอย "Infinix HOT 60 Pro+" เปิดตัวในไทยแล้ว ทุบสถิติโลกสมาร์ตโฟนจอโค้ง 3 มิติที่บางที่สุด ด้วยราคาที่ดึงดูด ทุกคนเป็นเจ้าของได้
KEY
POINTS
- Infinix เปิดตัว HOT 60 Pro+ สร้างสถิติใหม่เป็นสมาร์ตโฟนจอโค้ง 3 มิติที่บางที่สุดในโลกเพียง 5.95 มม. พร้อมความทนทานจากวัสดุระดับอากาศยาน
- ซีรีส์นี้มาพร้อมชิปเซ็ตรุ่นแรกของวงการอย่าง MediaTek Helio G200 และแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5160mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 45W
- Infinix HOT 60 Series ซึ่งประกอบด้วยรุ่น Pro+, Pro และ i ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ในราคเริ่มต้นที่ 3,999 บาท
Infinix แบรนด์สมาร์ตโฟนขวัญใจคนรุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครัน ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ใหม่ล่าสุด Infinix HOT 60 Series อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชูโรงด้วยรุ่นเรือธงอย่าง Infinix HOT 60 Pro+ ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำ สร้างนิยามใหม่ให้กับวงการด้วยการเป็นสมาร์ตโฟนหน้าจอโค้ง 3 มิติที่บางที่สุดในโลกเพียง 5.95 มิลลิเมตร
การมาถึงของ HOT 60 Series ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงรุ่นไฮไลท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับรุ่น HOT 60 Pro และ HOT 60i ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่โดยเฉพาะ การเปิดตัวยกแผงเช่นนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของ Infinix ในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทรงพลัง และครบครันในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ระดับเรือธงในราคาที่จับต้องได้ให้ผู้ใช้งานในวงกว้าง
นิยามใหม่แห่งความบางเฉียบ
Infinix HOT 60 Pro+ ไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟนที่บาง แต่คือการปฏิวัติงานวิศวกรรม ทางแบรนด์ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านโครงสร้างและแบตเตอรี่แบบเดิมๆ ทำให้ตัวเครื่องบางลงกว่า 12.5 เปอร์เซ็นต์ และมีน้ำหนักเบาลง 4.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เหลือเพียง 155 กรัมเท่านั้น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมภายในแบบกระจายแบนราบ (Distributed Flat Architecture) ที่จัดสรรพื้นที่ภายในได้อย่างยอดเยี่ยม
ไม่เพียงเท่านั้น Infinix ยังใส่ใจเรื่องความทนทานเป็นพิเศษ โดยเลือกใช้วัสดุโครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมระดับเดียวกับที่ใช้ในอากาศยาน และเสริมความแข็งแกร่งบริเวณมุมเครื่องด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 7i ที่บางแต่ทนทานต่อการตกกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น ตัวเครื่องผ่านการทดสอบการตกกระแทกรอบทิศทางที่ความสูง 1.5 เมตร และมีความทนทานต่อการโค้งงอดีกว่ารุ่นก่อนถึง 1.4 เท่า พิสูจน์ให้เห็นว่าความบางและความแข็งแกร่งสามารถอยู่คู่กันได้อย่างลงตัว
แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่สีสันที่บ่งบอกตัวตน
Infinix HOT 60 Series ถูกรังสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ใช้งาน โดยนำเสนอตัวเลือกสีสันมากถึง 10 แบบ ซึ่งแต่ละสีได้แรงบันดาลใจมาจากโทนสีอันสดใสของธรรมชาติ สีไฮไลท์ที่โดดเด่นคือ Coral Tides (สีชมพู) ซึ่งเป็นการไล่เฉดสีชมพูและฟ้าอย่างงดงาม สะท้อนภาพของคลื่นทะเลสีฟ้าที่ตัดกับหาดทรายสีชมพูบนเกาะโคโมโด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาดีไซน์โมดูลกล้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ HOT Series ให้ดูเหมือนลอยตัวแยกจากฝาหลัง สร้างมิติที่สวยงาม พร้อมไฟ Active Halo ที่ผสานรวมกันอย่างลงตัว เพิ่มสไตล์ที่โดดเด่นแต่ยังคงความมินิมอลและล้ำสมัย
เพรียวบางแต่ทรงพลัง
แม้จะมีรูปลักษณ์ที่บางเฉียบ แต่ขุมพลังภายในของ Infinix HOT 60 Pro+ นั้นไม่ธรรมดาเลย โดยในรุ่น HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้เปิดตัวพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G200 ซึ่งเกิดจากการผสานเทคโนโลยีขั้นสูงของ MediaTek เข้ากับการปรับแต่งพิเศษจาก Infinix เพื่อมอบประสิทธิภาพความเร็วสูงที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหลและยาวนาน ในด้านการถ่ายภาพ รุ่น Pro+ มาพร้อมกล้องหลังเซ็นเซอร์ SONY IMX882 ความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ที่มีความไวแสงสูง ให้ภาพคมชัดแม้ในสภาวะแสงน้อย พร้อมเทคโนโลยีประมวลผลภาพ AI RAW และการซูม 2 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัยที่สุดของแบรนด์ ด้วยวัสดุระบายความร้อน 11 ชั้น ช่วยลดอุณหภูมิชิปเซ็ตได้สูงสุดถึง 5 องศาเซลเซียส ส่วนหน้าจอก็จัดเต็มด้วยจอ AMOLED ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรต 144Hz และความสว่างสูงสุด 4500 นิต ให้ภาพที่สมจริงและสู้แสงแดดได้สบาย
แบตเตอรี่อึดสะใจ ชาร์จไวทันใจ
หัวใจสำคัญของสมาร์ตโฟนคือแบตเตอรี่ และ Infinix HOT 60 Series ก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ดีไซน์บางเฉียบรุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 5160mAh โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เจือสารซิลิคอน ทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานสูงเป็นประวัติการณ์ และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ สามารถคงประสิทธิภาพได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แม้จะผ่านการชาร์จไปแล้วถึง 1,800 รอบ สมาร์ตโฟนทั้งสามรุ่นรองรับระบบชาร์จเร็ว 45W โดยเฉพาะรุ่น HOT 60 Pro+ ที่สามารถชาร์จจาก 1 เปอร์เซ็นต์ ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ได้ในเวลาเพียง 23 นาที และชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ใน 55 นาทีเท่านั้น
AI อัจฉริยะและ XOS โฉมใหม่
สมาร์ตโฟนทุกรุ่นในซีรีส์นี้มาพร้อมกับ Folax ผู้ช่วย AI อัจฉริยะจาก Infinix ที่เรียกใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านปุ่ม AI โดยเฉพาะ พร้อมฟีเจอร์เด่นอย่าง AI Vogue Portraits ที่จะผสานภาพถ่ายของคุณเข้ากับเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวสุดเก๋ ทั้งหมดทำงานบนระบบปฏิบัติการ XOS 15.1.1 ล่าสุด ที่มีอินเทอร์เฟซสวยงามและใช้งานลื่นไหล การันตีด้วยการรับรองจาก TÜV SÜD ว่ารุ่น HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro จะใช้งานได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่องยาวนานถึง 60 เดือน
นอกจากนี้ยังเสริมความสะดวกสบายด้วย NFC สำหรับการโอนไฟล์ และฟีเจอร์ UltraLink Free Call ในรุ่น Pro+ ที่โทรและส่งข้อความผ่านบลูทูธได้ไกลสุด 1.5 กิโลเมตรแม้ไม่มีสัญญาณ
ราคาและการวางจำหน่าย
Infinix HOT 60 Series วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วทั่วประเทศ พร้อมราคาสุดพิเศษที่แฟนๆ ต้องร้องว้าว
- Infinix HOT 60 Pro+ (ความจุ 256GB + 16GB) ราคา 6,499 บาท มี 5 สีให้เลือก ได้แก่ Titanium Silver, Sleek Black, Misty Violet, Sonic Yellow และ Coral Tides (https://s.shopee.co.th/6KtsOVLMQK)
- Infinix HOT 60 Pro มี 2 รุ่นความจุ คือ 256GB + 16GB ราคา 5,499 บาท และ 128GB + 16GB ราคา 4,999 บาท มี 4 สี ได้แก่ Titanium Silver, Sleek Black, Sapphire Blue และ Coral Tides (https://s.shopee.co.th/2qK0E64ajD)
- Infinix HOT 60i (ความจุ 256GB + 16GB) ราคา 3,999 บาท มี 3 สี คือ Titanium Silver, Sleek Black และ Shadow Blue
โดยรุ่น HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro วางจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำ หรือช่องทางออนไลน์ที่ Shopee Mall, LazMall และ TikTok Shop ส่วนรุ่น HOT 60i วางจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ อาทิ BaNANA, Jaymart, IT City และ TG FONE







