บอร์ด AI ชาติ เคาะแผนเร่งด่วน อัดงบ 2.5 หมื่นล้าน ดันไทยฮับอาเซียน

บอร์ด AI แห่งชาติ เคาะแผนเร่งด่วน ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยี เดินหน้าอนุมัติงบลงทุนภาครัฐไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญ AI ทั่วประเทศ 10 แห่ง พร้อมสร้างภาคีเครือข่ายรัฐ-เอกชน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ AI เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
KEY
POINTS
- อนุมัติกรอบงบประมาณรวมไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท สำหรับปี 2569-2570 เพื่อสนับสนุนแผนขับเคลื่อน AI ของประเทศอย่างเป็นระบบ
- เห็นชอบให้จัดตั้งภาคีเครือข่ายความร่วมมือ (Consortium) ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI
- มีมติให้จัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Center of Excellence) จำนวน 10 แห่งในสาขาสำคัญ เช่น การเกษตร, สุขภาพ, การท่องเที่ยว และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ภาษาไทย
- มอบหมายให้แต่ละศูนย์ความเชี่ยวชาญ จัดทำแผนปฏิบัติการรายสาขาให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และบุคลากร
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 หลังจากตนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) หรือ บอร์ด AI แห่งชาติ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์การใช้เทคโนโลยี AI ยกระดับศักยภาพประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
โดยที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนตามกรอบ National AI Program ซึ่งเน้นทั้งการสร้าง “ความพร้อมด้าน AI” (AI Readiness) และ “การประยุกต์ใช้ AI” (AI Adoption) โดยมีข้อสรุปสำคัญ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. สร้างเครือข่ายภาคี AI เห็นชอบให้จัดตั้งภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในลักษณะ Consortium โดยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯ เป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดตั้ง และประสานการทำงานของเครือข่ายดังกล่าว เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างมีประสิทธิภาพ
2 จัดตั้ง CoE 10 แห่ง
เห็นชอบการจัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Center of Excellence: CoE) ใน 9 สาขาหลัก ได้แก่
• การศึกษา
• อุตสาหกรรมสร้างสรรค์
• การเกษตร
• การท่องเที่ยว
• สุขภาพ และสุขภาวะ
• การผลิต
• โมเดลภาษาขนาดใหญ่ภาษาไทย
• การประมวลผล AI ภาครัฐ
• การสอบเทียบ และทดสอบมาตรฐาน AI
พร้อมรับหลักการจัดตั้ง ศูนย์ CoE ด้านความมั่นคง และความปลอดภัย เพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อรองรับการใช้งาน AI อย่างปลอดภัย และเชื่อถือได้
3. จัดทำแผนย่อยรายสาขา
มอบหมายให้แต่ละศูนย์จัดทำแผนปฏิบัติการรายสาขาให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 ครอบคลุมทั้งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และการประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ และสาธารณะ
4. เคาะงบรัฐหนุนไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้าน
เห็นชอบในหลักการกรอบการใช้งบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2569–2570 โดยงบรวมจากทั้งงบประมาณในแผน นอกแผน และกองทุนของรัฐ มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนแผนขับเคลื่อน AI อย่างเป็นระบบ
AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางเทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคง และแข่งขันได้ในระดับโลก การสร้างเครือข่าย และศูนย์เชี่ยวชาญเหล่านี้คือ รากฐานสำคัญที่ไทยต้องเร่งลงทุน
ทั้งนี้ ยังมีการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างพันธมิตรกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการใช้งานจริงในภาคธุรกิจ รวมถึงการออกแบบกลไกการติดตาม ประเมินผล และเชื่อมโยงกับการพัฒนาบุคลากรด้าน AI อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระยะถัดไป หนึ่งในแผนงานสำคัญคือ การเตรียมเปิดระบบ Data Sandbox ภาครัฐ เพื่อให้ภาคเอกชน และสตาร์ตอัปด้าน AI สามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อการทดสอบนวัตกรรมได้โดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัวหรือความมั่นคงของรัฐ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเร่งสร้างระบบนิเวศด้าน AI (AI Ecosystem) ของไทยอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการวางระบบการประเมินผลมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ และบุคลากร AI ให้สอดคล้องกับระดับสากล ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลาง AI ในภูมิภาค
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







