เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ รีวิว 'Nothing headphone (1)' หูฟังสุดคูลสุดยูนีค

รีวิวเจาะลึก "Nothing headphone (1)" หูฟังแบบครอบหูที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์โปร่งใสสุดยูนีค แต่พกคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi จาก KEF และฟีเจอร์ที่คิดมาเพื่อคนรักเสียงเพลง
KEY
POINTS
- Nothing headphone (1) เป็นหูฟังที่ชูจุดเด่นด้านดีไซน์โปร่งใสอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้มองเห็นโครงสร้างภายในบางส่วน ผสานกับวัสดุคุณภาพสูงที่ผ่านการทดสอบความทนทานอย่างเข้มข้น
- หูฟังรุ่นนี้ได้ร่วมมือกับ KEF แบรนด์เครื่องเสียงระดับตำนานในการปรับจูนเสียง เพื่อให้ได้เสียงที่มีความเที่ยงตรงสูง เป็นธรรมชาติ และถ่ายทอดรายละเอียดได้ตรงตามต้นฉบับของศิลปิน
- headphone (1) มอบประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมผ่านปุ่มควบคุมแบบกายภาพที่แม่นยำและใช้งานง่าย, แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานสูงสุด 80 ชั่วโมง และระบบตัดเสียงรบกวน ANC อัจฉริยะ
หลังจากที่ Nothing แบรนด์เทคสุดจี๊ดจากลอนดอนได้สร้างปรากฏการณ์ไว้กับสมาร์ตโฟนและหูฟัง TWS ที่ดีไซน์โปร่งใสกลายเป็นภาพจำไปทั่วโลก วันนี้พวกเขาได้ขยับเข้าสู่ตลาดหูฟังแบบครอบหู (Over-ear) เป็นครั้งแรกกับการเปิดตัว Nothing headphone (1) ซึ่งถือเป็นก้าวที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง
ในฐานะที่ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที ติดตามเฝ้าดูพัฒนาการของแบรนด์นี้มาตั้งแต่ต้น ต้องบอกเลยว่าแค่เห็นดีไซน์ก็รู้ทันทีว่านี่คือผลิตภัณฑ์จากบ้าน Nothing อย่างไม่ต้องสงสัย วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันในทุกแง่มุมว่าหูฟังรุ่นแรกของพวกเขาจะ "คูล" เหมือนหน้าตา หรือมีดีกว่านั้นซ่อนอยู่ ในรีวิว Nothing headphone (1) ชิ้นนี้
ดีไซน์ "Nothing" แบบตะโกน!
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ Nothing headphone (1) คือปรัชญาการออกแบบที่สืบทอด DNA ของแบรนด์มาอย่างเต็มเปี่ยม นั่นคือดีไซน์แบบโปร่งใส (Transparent) ที่เผยให้เห็นโครงสร้างและชิ้นส่วนภายในบางส่วนอย่างมีศิลปะ โดยเฉพาะส่วนของห้องเสียง (Acoustic Chambers) ที่ทำให้เราได้เห็นงานฝีมือทางวิศวกรรมที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเรียบง่าย ผสานกับรูปทรงเรขาคณิตที่สะอาดตาและวัสดุที่คัดสรรมาอย่างดี ทำให้ Nothing headphone (1) เป็นหูฟังที่มีซิลูเอตที่โดดเด่นและแตกต่างจากหูฟังทุกรุ่นในตลาดอย่างสิ้นเชิง
ตัวโครงสร้างหลักในจุดสำคัญๆ ใช้การขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมเพื่อความแข็งแกร่ง ในขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ เป็นพลาสติกที่ผ่านการหล่ออย่างแม่นยำเพื่อสร้างสมดุลของน้ำหนัก ทุกเส้นสาย ทุกพื้นผิว ผ่านการคิดและปรับแก้ดีไซน์มานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังต้องทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย โดย Nothing ได้นำหูฟังไปทดสอบความทนทานอย่างเข้มข้นกว่า 50 รายการ ตั้งแต่การตก การบิดงอ การทนต่อเหงื่อและอุณหภูมิสุดขั้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่า headphone (1) จะอยู่กับเราไปได้อีกนาน
คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi เมื่อ Nothing จับมือกับ KEF
เรื่องเสียงคือหัวใจสำคัญ และครั้งนี้ Nothing ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะพวกเขาได้ร่วมมือกับ KEF แบรนด์เครื่องเสียงระดับตำนานจากอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญด้านเสียงความเที่ยงตรงสูง (High-Fidelity) มากว่า 60 ปี การจับมือกันครั้งนี้ทำให้ headphone (1) ได้รับการปรับจูนเสียงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้โปรไฟล์เสียงที่ถ่ายทอดบทเพลงออกมาได้ตรงตามเจตนาของศิลปินมากที่สุด
ภายในใช้ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 40 มม. ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ พร้อมไดอะแฟรมที่ชุบนิกเกิลเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทำให้เสียงย่านสูงมีความคมชัดและเสียงเบสมีพลังมากขึ้น วัสดุขอบลำโพงทำจาก PU ที่เคลื่อนที่ได้อิสระกว่าวัสดุ PET ทั่วไป ส่งผลให้เสียงต่ำลงได้ลึกและตอบสนองได้เร็วโดยมีความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด KEF ได้นำทั้งไดรเวอร์, ห้องเสียง และซอฟต์แวร์ไปตรวจสอบในห้องแล็บของตนเอง และปรับจูนอย่างละเอียดในทุกโหมดการใช้งานไม่ว่าจะเป็น ANC, Transparency หรือ Spatial Audio เพื่อให้ได้สมดุลของย่านความถี่และรายละเอียดที่สมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงที่เป็นธรรมชาติ มีรายละเอียดสูง และเต็มไปด้วยอารมณ์ในทุกแนวเพลง
เทคโนโลยีและฟีเจอร์ที่คิดมาแล้ว
Nothing headphone (1) มาพร้อมเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่อย่างครบครัน เริ่มจากระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) แบบไฮบริดที่ใช้ไมโครโฟนหลายตัวในการตรวจจับและตัดเสียงจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะสแกนสภาพแวดล้อมรอบตัวทุกๆ 600 มิลลิวินาที และมีระบบตรวจจับการสวมใส่ที่จะคอยเช็กเสียงรบกวนที่อาจเล็ดลอดเข้ามาในหูฟังทุกๆ 1,875 มิลลิวินาที เพื่อปรับการตัดเสียงให้เหมาะสมและสม่ำเสมอที่สุด
และเมื่อต้องการรับรู้เสียงรอบข้าง ก็มี Transparency Mode ที่เพียงแตะครั้งเดียวก็ได้ยินเสียงภายนอกได้ทันที เหมาะมากเวลาเดินทางหรือสนทนากับผู้อื่น
จุดเปลี่ยนสำคัญคือระบบควบคุมที่ Nothing เลือกเดินสวนทางกับกระแสหลัก โดยหันหลังให้กับระบบสัมผัส แล้วกลับไปใช้ ปุ่มควบคุมแบบกายภาพ ที่จับต้องได้ ซึ่งประกอบด้วย Roller, Paddle และ Button จากการใช้งานจริงต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม เพราะมันให้ความแม่นยำและแน่นอนกว่าระบบสัมผัสมาก โดยการใช้งานแบ่งเป็นดังต่อไปนี้
- Roller ใช้หมุนเพื่อปรับระดับเสียง, กดเพื่อเล่น/หยุดเพลง และกดค้างเพื่อสลับระหว่างโหมด ANC และ Transparency
- Paddle ใช้ดันไปทางขวาเพื่อข้ามไปเพลงถัดไป หรือดันไปทางซ้ายเพื่อย้อนกลับ
- Button ปุ่มทางลัดอัจฉริยะที่ตั้งค่าได้ผ่านแอป Nothing X โดยค่าเริ่มต้นจะใช้เรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ แต่ถ้าใช้กับมือถือ Nothing ก็จะมีฟีเจอร์ Channel Hop สำหรับสลับแอปฟังเพลงโปรดได้อย่างรวดเร็ว
ด้านประสิทธิภาพการเชื่อมต่อก็ไม่น้อยหน้า หูฟังรุ่นนี้รองรับการเล่นเสียงความละเอียดสูงแบบไร้สายผ่าน LDAC และได้รับการรับรอง Hi-Res Wireless นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และรองรับ USB-C audio สำหรับการฟังแบบใช้สาย แบตเตอรี่คืออีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ โดยใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง เมื่อปิด ANC และ 35 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และยังมีระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 5 นาที ก็ฟังเพลงต่อได้ถึง 2.4 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC)
สวมใส่สบายตลอดวัน
ดีไซน์สวย เสียงดี ฟีเจอร์ครบ แต่ถ้าสวมใส่ไม่สบายก็คงจบกัน ซึ่ง Nothing ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก headphone (1) ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ให้มีความสมดุลและปรับเข้ากับรูปทรงศีรษะที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ก้านหูฟังเป็นแบบยืดหดได้ (Telescopic arms) ที่เลื่อนได้อย่างนุ่มนวลและล็อกตำแหน่งได้มั่นคง เอียร์คัพมีความลึกที่พอเหมาะและบุด้วยเมมโมรี่โฟมที่นุ่มนวล ซึ่งจะค่อยๆ ปรับรูปทรงให้เข้ากับใบหูของเรา ทำให้สวมใส่ได้สบายแม้จะฟังเพลงต่อเนื่องเป็นเวลานาน วัสดุหุ้มเป็นหนัง PU ที่เป็นมิตรต่อผิว สัมผัสเรียบเนียน และยังทนทานต่อคราบมันหรือเครื่องสำอางได้ดีอีกด้วย
จากทุกอย่างที่เราได้สัมผัส พอจะสรุปได้ว่า Nothing headphone (1) ไม่ใช่แค่หูฟังที่หน้าตาดี แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคิดและออกแบบมาอย่างรอบด้าน นี่คือการประกาศตัวตนของ Nothing ในตลาดหูฟังพรีเมียมอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน คุณภาพเสียงที่จูนโดย KEF จนน่าประทับใจ ระบบควบคุมแบบกายภาพที่ใช้งานได้จริงและแม่นยำ และแบตเตอรี่ที่อึดจนลืมชาร์จ ทั้งหมดนี้ทำให้ headphone (1) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับใครก็ตามที่มองหาหูฟัง Over-ear ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและสุนทรียภาพในการใช้งานไปพร้อมๆ กัน
Nothing headphone (1) จึงเป็นหูฟังที่ไม่ได้ทำมาเพื่อให้เราแค่ "ได้ยิน" แต่ทำมาเพื่อให้เรา "รู้สึก" ไปกับทุกบทเพลง
ราคาและการวางจำหน่าย
หูฟัง Nothing headphone (1) ทั้งสองสี ได้แก่ สีขาวและสีดำ ราคา 8,999 บาท (https://s.shopee.co.th/5fe371)
เปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 และจะวางขายจริงวันที่ 2 สิงหาคม 2568
สำหรับการพรีออเดอร์ รับฟรี Nothing headphone Protective Cover







