Roblox สังคมเจนใหม่ในโลกเสมือน

ผมมีโอกาสไปตั้งวงมองอนาคตผ่านกระบวนการ Foresight กับเด็กรุ่นใหม่เกี่ยวกับเกม แล้วพบว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะเกมในความหมายที่ไม่ใช่เป็นเพียงเกม
แต่เป็นพื้นที่ใหม่ทางสังคม เมื่อพูดถึงเกม ผู้ใหญ่มักนึกถึงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่ไม่มีแก่นสาร ขณะที่วัยรุ่นรุ่นใหม่กลับอาศัยแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นพื้นที่ใช้ชีวิต พัฒนาอัตลักษณ์ และสื่อสารกับโลก
โลกเสมือนอย่างเกม Roblox ซึ่งในอดีตเป็นเกมง่ายๆ สำหรับเด็กเล็กๆ เล่น แต่ในปัจจุบันกำลังเป็นพื้นที่ทางสังคมแห่งใหม่ที่กำลังกำหนดรูปแบบชีวิต เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแม้กระทั่งจริยธรรมของคนรุ่นเจนซีและเจนอัลฟา Roblox เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านจาก Web 2.0 ที่เน้นการสื่อสารแบบไม่ประสานเวลา ผ่านโพสต์ แชต และฟีด ไปสู่สภาพแวดล้อมที่สมจริง มีปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ และมีความเป็นชุมชนสูงอย่างที่แพลตฟอร์มเกมไม่เคยมีมาก่อน
ในปัจจุบัน Roblox เป็นหนึ่งในสนามทดลองใหญ่สุดของยุคดิจิทัล ด้วยจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนกว่า 380 ล้านคนทั่วโลก ในกลางปี 2568 และผู้ใช้งานรายวัน 88.9 ล้านคน อาจเปรียบเป็นรัฐชาติจำลองที่ไม่มีกำแพง ไม่มีพรมแดน แต่มีโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของตัวเอง ผู้ใช้งานเฉลี่ยใช้เวลาบนแพลตฟอร์มวันละ 2.7 ชั่วโมง
ด้วยอัตราการกลับมาใช้งานที่สูง จึงไม่ใช่กิจกรรมชั่วครู่ชั่วยาม แต่คือพื้นที่ที่ 3 ของวัยรุ่น แทรกกลางระหว่างบ้านและโรงเรียน ซึ่งผู้ใช้อาศัยอยู่อย่างแท้จริง ไม่ต่างจากห้องนั่งเล่น สวนสาธารณะ ร้านกาแฟหรือห้างสรรพสินค้าในยุคก่อน
น่าสนใจที่แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้ผูกติดอยู่กับวัยใดวัยหนึ่ง แม้จุดเริ่มต้นจะเป็นฐานเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี แต่วันนี้ 60% ของผู้ใช้มีอายุมากกว่า 13 ปี โดยกลุ่มอายุ 17-24 ปีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นพลวัตใหม่ที่ซับซ้อน
เด็กเล็กและวัยรุ่นอยู่ร่วมในสเปซเดียวกัน แบ่งปันโลกเดียวกัน แต่มีความต้องการ ประสบการณ์ และความเสี่ยงที่ต่างกัน เป็นสะพานข้ามวัยดิจิทัลที่ไม่เคยมีมาก่อน และก่อให้เกิดคำถามด้านความปลอดภัย จริยธรรม และธรรมาภิบาลที่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
เกมอย่าง Roblox กลายเป็นพื้นที่สร้างวัฒนธรรมเยาวชนข้ามชาติ สร้างภาษากลางใหม่ที่ไม่ใช่คำพูด แต่คือการแต่งตัวของอวตาร ท่าเต้น และสไตล์การออกแบบโลกเสมือน การสื่อสารแบบพหุวิธี (multimodal) กลายเป็นภาษาหลักของคนรุ่นใหม่ เสื้อผ้าดิจิทัลไม่ใช่เพียงแฟชั่น แต่เป็นการสื่อความหมายระดับจิตวิทยา การแสดงออกผ่านอวตารกลายเป็นการต่อรองกับอัตลักษณ์ เป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถเป็นตัวของตัวเองหรือทดลองเป็นสิ่งที่โลกจริงไม่อนุญาตให้ทำได้
แม้เกมจะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ แต่ก็ไม่อาจมองข้ามความเสี่ยงที่แฝงอยู่ ทั้งด้านการล่อลวงออนไลน์ การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในเกมที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง ปัญหาไม่ได้อยู่แค่การควบคุมที่ยากในสภาพแวดล้อม 3 มิติแบบเรียลไทม์ แต่ลึกไปถึงโครงสร้างธุรกิจของแพลตฟอร์มเองที่ให้รางวัลกับปฏิสัมพันธ์สูงสุด มากกว่าความปลอดภัยสูงสุด
เศรษฐกิจของ Roblox สะท้อนความเหลื่อมล้ำและอำนาจในโลกจริงเช่นกัน เศรษฐกิจของครีเอเตอร์ที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีนั้น กระจุกตัวอยู่กับนักพัฒนาอันดับต้นๆ เพียงหยิบมือเดียว ในขณะที่นักพัฒนาทั่วไปมีรายได้เฉลี่ยเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ต่อปี ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ระบบนิเวศที่แพลตฟอร์มมีอำนาจควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน กำหนดสกุลเงิน (Robux) และสามารถเปลี่ยนกฎเกณฑ์ได้ตลอดเวลา
แบรนด์ต่างๆ ก็มองเห็นคุณค่าของ Roblox ในฐานะ พื้นที่ใหม่ของการตลาด คอนเสิร์ตแบบเสมือน ร้านอาหารในเกม และสินค้าแฟชั่นที่ซื้อได้ในโลกเสมือน ล้วนทำให้โฆษณาไม่ใช่สิ่งที่แทรกเข้ามาอีกต่อไป แต่กลายเป็นประสบการณ์ที่ฝังแนบแน่นกับชีวิตของผู้ใช้โดยไม่รู้ตัว เส้นแบ่งระหว่างเกมกับการขายของค่อยๆ เลือนหาย
ในมิติของพัฒนาการเกม Roblox อาจเป็นมีดสองคม ในด้านหนึ่ง ช่วยพัฒนา Soft Skills เช่น การทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหา ในอีกด้านหนึ่ง การพึ่งพาสภาพแวดล้อมเสมือนมากเกินไปอาจบั่นทอนทักษะทางสังคมจริง เช่น การอ่านสีหน้า น้ำเสียง หรือการอยู่ร่วมกันในพื้นที่กายภาพ การเติบโตในโลกที่ทุกอย่างถูกควบคุมด้วยอัลกอริทึม อาจนำไปสู่คนรุ่นที่เก่งในการสื่อสารในโลกดิจิทัล แต่เปราะบางในโลกจริง
ยิ่งไปกว่านั้น Roblox ยังทำหน้าที่เป็นโรงเรียนที่สอนทักษะในศตวรรษที่ 21 อย่างไม่เป็นทางการ ผู้ใช้เรียนรู้เศรษฐศาสตร์จากการตั้งราคาไอเทมดิจิทัล เรียนรู้การบริหารโครงการจากการพัฒนาเกม และเรียนรู้การเป็นพลเมืองจากการมีส่วนร่วมในคอมมูนิตี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่มีครู ไม่มีหลักสูตร ไม่มีระบบรับรอง แต่มีผลต่อโลกทัศน์และค่านิยมของผู้เรียนในแบบที่การศึกษาแบบเดิมอาจตามไม่ทัน
เกมอย่าง Roblox จึงเปรียบเสมือนภาพจำลองของเมตาเวิร์สที่กำลังมาถึงในอนาคต เป็นระบบนิเวศทางสังคมใหม่ ที่ไม่มีการกำกับจากรัฐ ไม่มีโครงสร้างทางกฎหมายที่ตามทัน เยาวชนใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ และทุกการตัดสินใจของแพลตฟอร์มจะกลายเป็นการเมืองรูปแบบใหม่ที่กำหนดอนาคตของคนรุ่นถัดไป
การเข้าใจ Roblox จึงเป็นการทำความเข้าใจโลกอนาคตที่พวกเราจะต้องอยู่ร่วมกัน โดยมีเด็กในวันนี้เป็นพลเมืองของโลกนั้น การมองไม่เห็นสังคมในโลกเสมือนที่กำลังเติบโต อาจทำให้พลาดที่จะเตรียมความพร้อมให้กับผู้คนในยุคที่ความจริง อัตลักษณ์และเศรษฐกิจ กำลังถูกนิยามใหม่ในโลกที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนจริงอีกต่อไป







