จับตา ‘5G’ พลิกโฉมการเชื่อมต่อ คาดปี 73 ผู้ใช้แตะ '6.3 พันล้านราย'

"อีริคสัน" เผยยอดบัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลก จะพุ่งแตะ 6.3 พันล้านรายในปี 2573 เมื่อถึงสิ้นปี 2568 บัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.9 พันล้านราย หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมด
KEY
POINTS
- ภายในสิ้นปี 2573 เครือข่าย 5G จะครอบคลุมการใช้มือถือทั่วโลกถึง 80%
- ในปี 2573 จำนวนบัญชีผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนียจะพุ่งแตะ 630 ล้านราย
- เครือข่าย 5G เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการบริโภคข้อมูล และการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU) ในประเทศไทย
- การร่วมมือที่เข้มแข็งในระบบนิเวศเป็นสิ่งสำคัญช่วยปลดล็อกศักยภาพของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
รายงาน “อีริคสัน โมบิลิตี้” ฉบับล่าสุดเดือนมิ.ย.2568 เผยยอดบัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลก จะพุ่งแตะ 6.3 พันล้านรายในปี 2573
พร้อมคาดการณ์ว่า เมื่อถึงสิ้นปี 2568 บัญชีผู้ใช้ 5G ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.9 พันล้านราย หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมด
ขณะที่ ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสแรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีนี้ ถึงแม้อัตราการเติบโตจะลดลง แต่ปริมาณการใช้ดาต้ายังเพิ่มขึ้นทุกปี
ด้านยอดการใช้ดาต้าเน็ตมือถือจะเพิ่มมากกว่าสองเท่าตลอดช่วงของการคาดการณ์จนถึงสิ้นปี 2573 เมื่อสิ้นปี 2567 เครือข่าย 5G รองรับการใช้ดาต้าเน็ตมือถือทั่วโลกถึง 35% โดยคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2573 ตัวเลขนี้จะขยับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 80%
จุดเปลี่ยนสำคัญการพัฒนา 5G
ในปี 2573 คาดว่าจำนวนบัญชีผู้ใช้บริการ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย จะเพิ่มเป็น 630 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 49% ของจำนวนบัญชีผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาคนี้
ขณะที่ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ตโฟนคาดว่าจะเติบโตจาก 19 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2567 เพิ่มเป็น 38 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2573
สำหรับประเทศไทย เครือข่าย 5G เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการบริโภคข้อมูล และการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU)
แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เครือข่าย 5G และระบบนิเวศมีความพร้อมที่จะปลดปล่อย A Wave of Innovation หรือคลื่นแห่งนวัตกรรม
ด้วยความก้าวหน้าของเครือข่าย 5G Standalone (SA) ประกอบกับพัฒนาการในอุปกรณ์ที่รองรับ 5G ได้นำไปสู่ระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับการปลดล็อกโอกาสเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อไอเดียสร้างสรรค์
อย่างไรก็ดี เพื่อให้ 5G ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการคือ การนำเครือข่าย 5G SA มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างฐานย่านความถี่ Mid-Band เพิ่มเติม
เตรียมรับมือ ‘GenAI’ บูม
อีริคสันวิเคราะห์ว่า ความก้าวหน้าของเครือข่าย 5G Standalone (SA) ประกอบกับพัฒนาการในอุปกรณ์ที่รองรับ 5G นำไปสู่ระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับปลดล็อกโอกาสเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เพื่อเชื่อมต่อไอเดียสร้างสรรค์
เพื่อให้ 5G ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการคือ การนำเครือข่าย 5G SA มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างฐานย่านความถี่ Mid-Band เพิ่มเติม
การใช้ 5G SA ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับการนำไปปรับใช้ และขับเคลื่อนยูสเคสการใช้งานใหม่ๆ ให้กับทั้งองค์กรและผู้บริโภค
เนื่องจากอุปกรณ์ generative AI (GenAI) เป็นที่แพร่หลาย และแอป AI มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการด้านการสื่อสารจึงต้องให้ความสำคัญกับความสามารถในการอัปลิงก์ (Uplink) และระยะเวลาแฝงในการรับ-ส่งข้อมูล (Latency) มากขึ้น
ตามรายงานของอีริคสันยังระบุถึงอุปกรณ์ 5G ที่เป็นนวัตกรรมอื่นๆ นอกเหนือจาก GenAI ที่ฝังอยู่ในสมาร์ตโฟนรุ่นไฮเอนด์ อย่าง แว่นตาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และใช้ประสิทธิภาพจากการโต้ตอบด้วยเสียง รวมถึงการนำประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน (Differentiated Connectivity) มาใช้มากขึ้นในแอปพลิเคชันใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคและสำหรับองค์กร
โดย Differentiated Connectivity จะเป็นกุญแจสำคัญมอบประสบการณ์คุณภาพสูงให้กับผู้ใช้ สำหรับ AI Agent ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล และแอปพลิเคชันการสนทนาอื่นๆ
‘ระบบนิเวศ’ กุญแจปลดล็อก
สำหรับอีริคสัน ประเทศไทย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย โดยอาศัยความเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี 5G ที่วันนี้เปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้ว 187 เครือข่ายทั่วโลก
วิสัยทัศน์หลักของบริษัทมุ่งสร้างเครือข่ายการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อถือได้ และยั่งยืน เพื่อเร่งการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
เราเชื่อว่าการร่วมมือที่เข้มแข็งในระบบนิเวศเป็นสิ่งสำคัญช่วยปลดล็อกศักยภาพของเศรษฐกิจ และสังคมดิจิทัลได้เต็มที่ ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และชุมชนต่างๆ เราตั้งเป้าส่งเสริมนวัตกรรม สร้างความเท่าเทียม และการเติบโตระยะยาวให้กับประเทศไทย
นอกจากนี้ มียูสเคสการใช้งาน 5G ปัจจุบันและในอนาคตจำนวนมากมายที่อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต และมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
เชื่อว่าความเป็นไปได้ของ 5G ไม่เพียงช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของโลกยุคใหม่ได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยควบคู่ไปด้วยกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







