ประมูลคลื่นจบ ตลาดมือถือไม่เปลี่ยน! AIS-TRUE กอดคลื่นยาว 15 ปีไร้ผู้เล่นใหม่

การประมูลคลื่นความถี่สิ้นสุดลงแบบไร้เซอร์ไพรส์ AIS-TRUE ครองคลื่นยาว 15 ปี ตลาดมือถือไทยยังไร้ผู้เล่นใหม่ เสี่ยงการแข่งขันลด กระทบราคา และคุณภาพบริการในอนาคต
การประมูลคลื่นความถี่โทรคมนาคมของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช. ที่เพิ่งปิดฉากลงเมื่อวานนี้ (29 มิถุนายน 2568) ตอกย้ำความเป็นจริงของตลาดโทรคมนาคมไทย ที่ยังคงอยู่ในมือของผู้เล่นรายใหญ่เพียง 2 ราย คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) โดยปราศจากผู้ท้าชิงหน้าใหม่หรือผู้ท้าทายจากรัฐวิสาหกิจอย่าง บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ที่เลือกไม่ร่วมประมูล ผลลัพธ์ดังกล่าวสะท้อนชัดว่าโครงสร้างการแข่งขันของตลาดยังคงแคบ เสี่ยงต่อการผูกขาดและกระทบผู้บริโภคในระยะยาว
ศาลไม่คุ้มครอง สัญญาณไฟเขียวให้ประมูลเดินหน้า
แม้ก่อนการประมูล สภาองค์กรของผู้บริโภคจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองถึง 3 ครั้งเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวให้ชะลอการประมูล ด้วยเหตุผลเรื่องความไม่พร้อมของตลาด และความเสี่ยงต่อการผูกขาด แต่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องทั้งหมด โดยระบุว่า กสทช. ดำเนินกระบวนการจัดประมูลตามกฎหมาย และหลักเกณฑ์ที่รัดกุม ทั้งในด้านรูปแบบการประมูล ราคาขั้นต่ำ และมาตรการป้องกันการสมยอม ส่งผลให้การประมูลเดินหน้าตามกำหนดเดิม
NT ไม่ร่วมประมูล จุดตายของการแข่งขัน?
หนึ่งในประเด็นใหญ่ที่ถูกตั้งคำถามคือ การที่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น ทั้งที่เป็นผู้เล่นรัฐวิสาหกิจเพียงรายเดียวที่สามารถสร้างสมดุลการแข่งขันในตลาดได้ โดย NT ให้เหตุผลว่าขาดทุนสะสมจำนวนมาก และขาดความพร้อมด้านการเงิน ขณะที่สัญญาการให้เอกชนเช่าคลื่นที่ถืออยู่ก็ใกล้สิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้อนาคตบทบาท NT ในตลาดโทรคมนาคมยิ่งเลือนราง
วศิน พิพัฒนฉัตร ทนายความสภาผู้บริโภค ชี้ว่า การที่ NT ไม่เข้าร่วมประมูลทำให้โครงสร้างการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมยิ่งแคบลงไปอีก เหลือเพียงผู้ให้บริการเอกชน 2 รายใหญ่ ที่ต่างก็มีโครงข่าย และความต้องการคลื่นเฉพาะอยู่แล้ว จึงอาจเกิดการแบ่งเค้กกันอย่างลงตัว โดยไม่จำเป็นต้องแย่งชิง ซึ่งท้ายที่สุดจะกระทบต่อประชาชนทั้งในแง่ราคา และคุณภาพบริการ
ตลาดมือถือยังคงเดิม ผู้บริโภครับผลกระทบ?
เมื่อผลการประมูลสรุปออกมา ผู้ครองคลื่นยังคงเป็นเจ้าเดิม AIS และ TRUE ถือครองคลื่นในมือรวมกันเป็นสัดส่วนหลักของตลาด ครอบคลุมการให้บริการ 5G ไปจนถึงบริการในอนาคตอีก 15 ปีข้างหน้า โดยไม่มีผู้เล่นใหม่เข้ามาเพิ่มการแข่งขัน
สภาผู้บริโภคเตือนว่า สถานการณ์นี้เสี่ยงต่อการกำหนดราคาและนโยบายบริการที่ไม่เป็นธรรม และหากในอนาคตเกิดปัญหาการแข่งขันน้อย บริการคุณภาพต่ำ หรือการตั้งราคาเกินควร จุดเริ่มต้นของปัญหาก็อาจย้อนกลับมาที่การประมูลครั้งนี้
เกมหลังประมูล : ค่ายมือถือเดินเกมรุกด้านดิจิทัล
หลังจบการประมูล ทิศทางต่อไปของสองค่ายใหญ่คาดว่าจะเดินหน้าขยายโครงข่าย และเพิ่มบริการดิจิทัลครบวงจร โดยมีคลื่นความถี่เป็นหัวใจสำคัญในการเสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ผู้บริโภค และหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ว่า การถือครองคลื่นของสองรายใหญ่ในตลาด จะยังคงเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงบริการดิจิทัล
AIS กวาดคลื่น 2100 MHz เสริมแกร่งเครือข่าย 5G
บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ในเครือ AIS ชนะการประมูลคลื่น 2100 MHz จำนวน 3 ชุด รวม 30 MHz ในราคา 14,850 ล้านบาท นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS ระบุว่า คลื่นที่ได้จะช่วยเพิ่มศักยภาพเครือข่ายอัจฉริยะ โดยสามารถนำมาใช้งานได้ทันที รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น พร้อมยกระดับคุณภาพ ความเร็ว และประสิทธิภาพการให้บริการ 5G
“ความสำเร็จนี้ตอกย้ำพันธกิจของ AIS ในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และยั่งยืน เราได้คลื่นที่เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว และสามารถใช้งานได้ทันทีเพื่อคนไทยทั่วประเทศ” นายสมชัย กล่าว
คลื่น 2100 MHz ที่ AIS ชนะการประมูลอยู่ในย่านความถี่กลาง (Mid Band) เหมาะสำหรับบริการ 4G และ 5G รองรับปริมาณการใช้งานหนาแน่นโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ และช่วยเสริมความพร้อมของ AIS ในการขยายบริการดิจิทัลครบวงจรในอนาคต
TRUE ครองคลื่นครบ 3 ย่าน เสริมพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมที่สุด
ทรู มูฟ เอช ในเครือ ทรู คอร์ปอเรชั่น ชนะการประมูลคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz ด้วยราคา 21,770 ล้านบาท และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ด้วยราคา 4,654 ล้านบาท ส่งผลให้ทรูเป็นผู้ให้บริการที่ถือครองคลื่นความถี่ครบ 8 ย่าน ทั้งคลื่นต่ำ กลาง และสูง ครอบคลุมการให้บริการทุกเทคโนโลยี
นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มทรู กล่าวว่า การชนะประมูลครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระยะยาวของประเทศ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทั้งในระดับผู้บริโภค และองค์กรธุรกิจ
“คลื่นใหม่เหล่านี้จะช่วยยกระดับคุณภาพโครงข่าย เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้าทั่วประเทศ และเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในยุคเทคโนโลยี AI, IoT และ 5G” นายซิกเว่ กล่าว
ทั้งนี้ คลื่น 2300 MHz จะถูกนำมาให้บริการทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนคลื่น 1500 MHz ถือเป็นคลื่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มความจุเครือข่าย รองรับการใช้งานดาต้าสูงในเขตหนาแน่น และยกระดับคุณภาพสัญญาณในช่วงพีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลประมูลที่ออกมาสะท้อนความนิ่งของโครงสร้างตลาดมือถือไทย AIS และ TRUE ยังคงเป็นผู้ครองคลื่นหลักในตลาด ขณะที่หน่วยงานกำกับและผู้บริโภคต้องจับตาว่าการถือครองคลื่นครั้งใหม่นี้ จะส่งผลต่อราคา คุณภาพ และการเข้าถึงบริการดิจิทัลของประชาชนอย่างไรในระยะยาว
อัปเดตจำนวนคลื่นหลังประมูล
AIS มีจำนวนความถี่รวม 1460 MHz แบ่งเป็น
700 MHz 2x2=40 MHz
900 MHz 2x10=20 MHz
1800 MHz 2x20=40 MHz
2100 MHz 2x30=60 MHz
2600 MHz = 100 MHz
26 GHz = 1200 MHz
TRUE มีจำนวนความถี่รวม 1350 MHz แบ่งเป็น
700 MHz 2x2=40 MHz
900 MHz 2x15-30 MHz
1800 MHz 2x20=40 MHz
2100 MHz 2x30=60 MHz
2600 MHz = 90 MHz
26 GHz = 1000 MHz
1500 MHz = 20 MHz
2300 MHz = 70 MHz
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







