กสทช.เข้ม ซิม-สาย-เสา ชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งโอเปอเรเตอร์เช็คสัญญาณด่วน!

เลขาธิการ กสทช. ติดตามมาตรการแก้ไขปัญหา ซิม-สาย-เสา ให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายงานข้อมูลคู่สัญญานิติบุคคลต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสัญญาณชายแดนไทย-กัมพูชา คุมเข้มห้ามสัญญาณล้ำข้ามแดน
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ในฐานะหน่วยงานกำกับพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเกี่ยวข้องบริเวณชายแดน โดยหลังจากเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีสำนักงาน กสทช. เข้าร่วมให้ข้อมูลด้วยนั้น ในวันนี้ได้มีการประชุมผู้บริหารสำนักงาน กสทช. ให้แจ้งมาตรการจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมต่อผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ได้ข้อสรุป ดังนี้
มาตรการซิม สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการประสานแจ้งกรมศุลกากรห้ามมีการขนซิมไทยออกนอกประเทศ และ (2) ขอข้อมูลจำนวนการลงทะเบียนเปิดใช้งานซิมในพื้นที่ชายแดน
มาตรการสาย ให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีจุดเชื่อมต่อออกต่างประเทศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รายงานข้อมูลคู่สัญญากรณีที่เป็นนิติบุคคลต่างประเทศว่ามีการใช้งานโทรคมนาคมในธุรกิจใด และมีปริมาณการใช้งานมากน้อยเพียงใด และ (2) การระงับการเชื่อมต่อโครงข่ายไปยังกัมพูชาซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว หากจะกลับมาใช้บริการต่อ ให้แจ้งสำนักงาน กสทช. และส่งกลับมาพิจารณา
มาตรการเสา สำนักงาน กสทช. จะลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ จ.สระแก้ว จันทบุรี ตราด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ หลังมีการควบคุมการเข้าออกจุดผ่านแดน เพื่อตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนไทยในพื้นที่ พร้อมทั้งจะตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดการล้ำข้ามแดนไปยังกัมพูชา
โดยสำนักงาน กสทช. จะกำชับเรื่องนี้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อเร่งดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ต่อเนื่อง
นายไตรรัตน์ เปิดเผยว่า นอกจากการเตรียมการลงพื้นที่ตรวจสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในพื้นที่บริเวณชายแดน สำนักงาน กสทช. ต้องการรับฟังและพร้อมให้ความร่วมมือหน่วยงานความมั่นคง กองกำลังทหารชายแดนในพื้นที่ซึ่งได้ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง และลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ
จากนี้หากผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังกัมพูชาจะต้องมีการให้รายละเอียดธุรกิจและบริการ เพื่อให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบเข้มข้นขึ้น
ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และยังสร้างความเสียหายในด้านเศรษฐกิจและสังคม เราพร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญกรรมทางเทคโนโลยีให้เห็นผลเร็วที่สุด นายไตรรัตน์ กล่าว
ปัจจุบันมีผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองที่มีจุดเชื่อมต่อออกต่างประเทศบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้งสิ้น 14 บริษัท ได้แก่
- บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
- บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
- บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด
- บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด
- บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน)
- บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด
- บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด
- บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด
- บริษัท ที.ซี.ซี.เทคโนโลยี จำกัด
- บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)
- บริษัท แอล ดับเบิ้ลยู ที เอ็น จำกัด
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- บริษัท เคิร์ซ จำกัด ซึ่งทั้ง 14 บริษัท ได้หยุดให้บริการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างประเทศไปยังกัมพูชาแล้ว







