กสทช.ซ้อมประมูลคลื่น 4 ย่านก่อนเคาะจริง 29 มิ.ย. ขณะ NT ยื่นค้านหวั่นผูกขาด

กสทช.จัด Mock Auction ซักซ้อมขั้นตอนประมูลคลื่น 850, 1500, 2100 และ 2300 MHz หวังเปิดตลาดแข่งขันเสรี ด้านสหภาพฯ NT ยื่นหนังสือคัดค้าน ชี้ราคาต่ำ-นายทุนได้เปรียบ-รัฐวิสาหกิจเสียโอกาส
วันนี้ (23 มิถุนายน 2568) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมชี้แจงขั้นตอนการประมูล (Bidder Information Session) พร้อมจำลองการประมูลรอบสาธิต (Mock Auction) สำหรับการจัดสรรคลื่นความถี่ 850 MHz, 1500 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมคือ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การประมูลครั้งนี้ใช้รูปแบบ “Simultaneous Clock Auction” ซึ่งเปิดให้เสนอราคาทุกย่านคลื่นพร้อมกัน ต่างจากในอดีตที่ประมูลแยกย่าน โดยระบบใหม่นี้เพิ่มความยืดหยุ่น ผู้เข้าร่วมสามารถสลับชุดคลื่นในกลุ่มเดียวกันได้ เพื่อแสดงมูลค่าที่แท้จริงของคลื่นแต่ละชุด
สำหรับราคาขั้นต่ำในแต่ละย่านคลื่นมีรายละเอียดดังนี้:
• ย่าน 850 MHz (Low Band): 2 ชุด ชุดละ 2x5 MHz ราคาขั้นต่ำชุดละ 7,738.23 ล้านบาท
• ย่าน 1500 MHz (Mid Band): 11 ชุด ชุดละ 5 MHz ราคาขั้นต่ำชุดละ 1,057.49 ล้านบาท
• ย่าน 2100 MHz (Mid Band): 3 ชุด ชุดละ 2x5 MHz ราคาขั้นต่ำชุดละ 4,500 ล้านบาท
• ย่าน 2300 MHz (Mid Band): 7 ชุด ชุดละ 10 MHz ราคาขั้นต่ำชุดละ 2,596.15 ล้านบาท
การประมูลจริงจะจัดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 โดย กสทช. ระบุว่าได้ออกแบบให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และเพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมมีความเพียงพอรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล
สหภาพ NT ยื่นหนังสือค้านประมูล 29 มิ.ย. ชี้เอื้อนายทุน – กระทบความมั่นคงดิจิทัล
ในวันเดียวกัน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ สร.ทช. ได้ยื่นหนังสือต่อ กสทช. คัดค้านการจัดประมูลคลื่นในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ โดยให้เหตุผลว่า คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติ ต้องบริหารบนหลักผลประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 1-2 ราย
สร.ทช. ระบุว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการหลักเหลือเพียง 2 ราย การประมูลโดยไม่มีเงื่อนไขชัดเจนเรื่องการลดค่าบริการให้ประชาชน และการกำหนดราคาขั้นต่ำที่ต่ำกว่าการประมูลในอดีต อาจนำไปสู่สภาพ “กึ่งผูกขาด” ซึ่งจะส่งผลยาวนานตลอดอายุใบอนุญาต 15 ปี
นอกจากนี้ สหภาพฯ ยังกังวลว่าหาก NT ไม่ได้รับการจัดสรรคลื่นต่อ จะทำให้อุปกรณ์โครงข่ายที่ใช้อยู่สูญเสียมูลค่า และรัฐวิสาหกิจจะหมดโอกาสใช้คลื่นในการสนับสนุนนโยบายรัฐ เช่น ลดช่องว่างดิจิทัล หรือให้บริการในพื้นที่ห่างไกล
เสนอ กสทช. เลื่อนประมูล-พิจารณาจัดสรรคลื่นให้ NT ตามมติ ครม.
สหภาพฯ เสนอให้ กสทช. พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การขยายเวลาการใช้คลื่นของ NT โดยไม่ต้องเข้าสู่การประมูลใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 14 มกราคม 2563 ที่ให้การสนับสนุนภารกิจของ NT บนพื้นฐานกฎหมายและนโยบายการควบรวมกิจการของรัฐ
พร้อมทั้งเรียกร้องให้พิจารณาวิธีการจัดสรรคลื่นความถี่ในอนาคต ที่ไม่จำกัดเพียงการประมูลราคา เช่น การแข่งขันโดยเสนอรูปแบบธุรกิจ หรือมอบสิทธิการใช้งานให้กับรัฐวิสาหกิจโดยตรง เหมือนกรณีที่หน่วยงานด้านความมั่นคงสามารถถือครองคลื่นความถี่โดยไม่ต้องประมูล
ทั้งนี้ สร.ทช. ย้ำว่า การจัดการคลื่นควรคำนึงถึงมิติเชิงยุทธศาสตร์ระดับประเทศ ไม่ใช่มองแค่ในกรอบธุรกิจ เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างแท้จริง ทั้งด้านบริการ ราคา และการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมในระยะยาว







