เลิกใช้กฎหมายปี 2477! 'ดีอี'ชง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ใหม่ กำกับเอกชนยุคอีคอมเมิร์ซ

เลิกใช้กฎหมายปี 2477! 'ดีอี'ชง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ใหม่ กำกับเอกชนยุคอีคอมเมิร์ซ

ร่างกฎหมายใหม่เตรียมเข้าสู่ ครม. มิ.ย.นี้ เปลี่ยนระบบใบอนุญาตเป็นจดแจ้ง วางมาตรฐานความปลอดภัย-คุณภาพบริการ ปรับสมดุลแข่งขันเอกชนรายใหญ่ไม่ให้ผูกขาดตลาด

นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เปิดเผยว่า (ร่าง) พระราชบัญญัติการประกอบกิจการไปรษณีย์ พ.ศ. … จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน มิ.ย.68 เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการไปรษณีย์และพัสดุให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลและตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รองรับการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยไม่สร้างภาระด้านต้นทุนแก่ผู้ประกอบการรายย่อย

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับใหม่นี้จะใช้ ระบบจดแจ้ง (Register) แทน ระบบใบอนุญาต (License) เพื่อลดขั้นตอนและเปิดทางให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้คล่องตัว พร้อมวางมาตรฐานขั้นต่ำด้านความปลอดภัยของพัสดุ การรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และคุณภาพบริการโดยรวม เดิมการกำกับดูแลกิจการไปรษณีย์อยู่ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่ในยุคที่ธุรกรรมออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมให้ทันต่อบริบทใหม่ 

เลิกใช้กฎหมายปี 2477! \'ดีอี\'ชง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ใหม่ กำกับเอกชนยุคอีคอมเมิร์ซ

"แม้บางภาคเอกชนจะกังวลเรื่องความยุ่งยากหรือการจดทะเบียน แต่ยืนยันว่าไม่มีการบังคับใช้ใบอนุญาตซับซ้อน และไม่เพิ่มภาระต้นทุนโดยไม่จำเป็น หลักการของกฎหมาย คือ การตีเส้นให้วิ่ง ไม่ใช่กั้นรั้วล็อกล้อ โดยหลังผ่าน ครม. จะเปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน เข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาของรัฐสภาและกฤษฎีกาต่อไป เพื่อประกาศใช้ต่อไป"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กฎหมายไปรษณีย์ ฉบับใหม่นี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงดีอี ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) พระราชบัญญัติการประกอบกิจการไปรษณีย์ พ.ศ. … โดยมีเป้าหมายยกเครื่องระบบกำกับดูแลกิจการไปรษณีย์และขนส่งพัสดุเอกชน ให้มีมาตรฐานที่เป็นธรรมต่อประชาชน พร้อมตั้งกลไกกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เนื่องจาก พ.ร.บ.ไปรษณีย์ พ.ศ.2477 ที่ใช้มากว่า 90 ปี ทำโครงสร้างการบริหารงานและข้อกำหนดทางกฎหมายไม่สอดคล้องกับยุคดิจิทัล

ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอ กฎหมายฉบับเดิมกำหนดอำนาจให้ "กรมไปรษณีย์โทรเลข" ซึ่งปัจจุบันไม่มีอยู่แล้ว และไม่ได้ครอบคลุมถึงบริษัทขนส่งเอกชนที่เข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหญ่