กสทช.ลุ้นศาลฯ ชี้ชะตาประมูลคลื่น ก้มหน้ารับผู้บริโภคหวั่นผูกขาดซ้ำรอย

กสทช.ระทึกหวั่นศาลสั่งเบรกประมูลคลื่น ยอมรับเป็นสิทธิที่สภาฯ ผู้บริโภคยื่นฟ้อง เพราะกลัวเกิดผูกขาดในอุตฯ ซ้ำหนักกว่าเดิม
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยถึงกรณีสภาองค์กรของผู้บริโภคยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลสั่งชะลอการประมูลคลื่นความถี่ ว่า ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่า ศาลจะใช้อำนาจรับเรื่องหรือไม่ แต่ กสทช. ได้เตรียมแผนสำรองไว้เบื้องต้นในกรณีที่กระบวนการประมูลต้องชะลอออกไป ทั้งนี้ หากมีความล่าช้าเกิดขึ้น ต้องชี้แจงต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่า ไม่ได้เป็นการผูกขาดหรือเอื้อประโยชน์ให้ใคร
นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. ด้านโทรคมนคม เปิดเผยถึงกรณี สภาสภาผู้บริโภคยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า ในคำฟ้องที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การอนุญาตใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ในย่าน 2100 MHz และ 2300 MHz ที่สภาฯระบุว่า อาจขัดต่อหลักกฎหมาย ทั้งในด้านขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขการประมูล
เรื่องนี้คงต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลปกครอง ว่าจะออกมาอย่างไร คงไม่สามารถกล่าวล่วงได้ โดยในระหว่างนี้ทางสำนักงาน กสทช. ก็จะดำเนินการตามโรดแมปที่ได้วางไว้ โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้เปิดให้เอกชนยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz ตามกำหนดเดิม
โดยส่วนตัวมองว่า คงต้องขึ้นกับศาลปกครองว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร ขณะที่การยื่นคัดค้านของสภาผู้บริโภค ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่า หากมีศาลมีคำสั่งคุ้มครอง และไม่สามารถจัดการประมูลได้ตามแผนวันที่ 29 มิ.ย.นี้ ก็จะส่งผลต่อการโรดแมปแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการกสทช. เปิดเผยหลังกำหนดจัดให้มีการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz
โดย มีบริษัทที่เข้ายื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
สำหรับคลื่นความถี่ที่นำออกมาประมูลในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
- 1.) คลื่นความถี่ย่านต่ำ (Low Band) ได้แก่ คลื่นความถี่ ย่าน 850 MHz
- 2.) คลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) ได้แก่ คลื่นความถี่ ย่าน 2100 MHz 2300 MHz เป็นคลื่นความถี่ย่านที่มีการใช้งานสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน
- 3.) คลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) ย่าน 1500 MHz ซึ่งไม่มีการใช้งานสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน
โดยคลื่นความถี่ย่านต่ำ (Low Band) ย่าน 850 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 824 – 834 MHz คู่กับ 869 – 879 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 7,738.23 ล้านบาท จำนวน 2 ชุด ชุดละ 2 x 5 MHz
ส่วนคลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) ที่มีการใช้งานสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันย่าน 2100 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1965 – 1980 MHz คู่กับ 2155 – 2170 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 4,500 ล้านบาท จำนวน 3 ชุด ชุดละ 2 x 5 MHz
และย่าน 2300 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 2300 – 2370 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 2,596.15 ล้านบาท จำนวน 7 ชุด ชุดละ 10 MHz และคลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid Band) ที่ไม่มีการใช้งานสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน ย่าน 1500 MHz ช่วงความถี่วิทยุ 1452 – 1507 MHz มีราคาขั้นต่ำต่อชุดเป็นจำนวนเงิน 1,057.49 ล้านบาท จำนวน 11 ชุด ชุดละ 5 MHz
ทั้งนี้ หลังจากการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ขั้นตอนต่อจากนี้คือสำนักงาน กสทช.จะตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตจะระหว่างวันที่ 30 พ.ค. -5 มิ.ย. 2568 ก่อนเสนอผลต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. เพื่อพิจารณาและแจ้งผลในช่วงวันที่ 6-13 มิ.ย. 2568 โดยอุทธรณ์ผลการพิจารณาได้ในวันที่ 16-18 มิ.ย. 2568
จากนั้น สำนักงาน กสทช. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 19 มิ.ย. 2568 พร้อมจัดการประมูลจำลอง (Mock Auction) เพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ก่อนเข้าสู่การประมูลจริงในวันที่ 29 มิ.ย.ดังกล่าว ณ สำนักงาน กสทช.
ทรู-เอไอเอสยื่นซองครบถ้วน
ในวันยื่นคำขอเมื่อ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา นายซิกเว่ เบรกเก้ ซีอีโอกลุ่มทรู นำทีมผู้บริหารเข้ายื่นซองเมื่อเวลา 11.09 น. โดยยืนยันว่าบริษัทได้วิเคราะห์และประเมินการลงทุนอย่างละเอียด พร้อมว่าจ้างที่ปรึกษาภายนอกเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า และเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ด้านเอไอเอสนำโดย นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ ได้เข้ายื่นเอกสารเมื่อเวลา 14.14 น.โดยมีกรรมการ กสทช. เป็นผู้รับคำขอ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้การยื่นฟ้องจากสภาองค์กรของผู้บริโภคจะสร้างความกังวลในด้านกฎหมายและกระบวนการ แต่ภาพรวมของการดำเนินงานประมูลยังคงดำเนินไปตามกรอบที่วางไว้ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลว่าจะมีผลต่อเส้นทางการประมูลคลื่นครั้งสำคัญนี้อย่างไร







