‘AI’ ต้องเริ่มที่คนก่อนเทคโนโลยี

‘AI’ ต้องเริ่มที่คนก่อนเทคโนโลยี

การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องของซอฟต์แวร์ ระบบ หรือเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด หากแต่เป็นเรื่องของ “คน” ที่จะใช้มันต่างหาก

เพราะไม่ว่าเครื่องมือจะล้ำยุคแค่ไหน หากผู้ใช้ยังไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ หรือไม่เปลี่ยนแปลง องค์กรก็จะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในองค์กรต้องเริ่มจากหน่วยที่เล็กที่สุด นั่นคือพนักงานแต่ละคน เพราะ “คน” คือผู้สร้างผลลัพธ์ เป็นผู้กำหนดทิศทาง และเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กรอย่างแท้จริง หากทุกคนในองค์กรสามารถมองเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือ “ตัวเร่ง” การเปลี่ยนแปลง องค์กรจะสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้

สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ AI ขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายใหม่ มีแนวทางเบื้องต้นอยู่ 3 ข้อนั่นคือข้อแรก ต้องเริ่มจากการปรับกระบวนการทำงานใหม่ทั้งระบบ ไม่ใช่เพียงเอา AI มาใช้บางส่วนหรือบางแผนกซึ่งจะทำให้เราเรียนรู้ได้แค่ผิวเผิน

การนำ AI มาใช้ ไม่ใช่แค่เอามาแทนคนหรือทำแทนเฉพาะบางขั้นตอน แต่ต้องออกแบบระบบใหม่ทั้งระบบ โดยเริ่มจากการตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออก เพราะ AI สามารถช่วยให้เราเห็นภาพรวมของกระบวนการ และวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือคอขวด อะไรคือความซ้ำซ้อน

ยิ่งเราสอน AI ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนมากเท่าไร มันก็จะยิ่งเก่งขึ้น และเมื่อ AI เก่งขึ้น มันก็จะสะท้อนกลับมาช่วยให้ “คน” ทำงานได้ดีขึ้น วัฒนธรรมองค์กรจึงจะค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่ความคล่องตัว ยืดหยุ่น และเน้นผลลัพธ์มากขึ้น

แต่การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเจ้าของหรือผู้นำไม่ลงมาเป็นตัวอย่าง เช่นเดียวกับพนักงานที่ไม่ลุกขึ้นมาร่วมมือ มันต้องเกิดจาก “บนลงล่าง” และ “ล่างขึ้นบน” พร้อมกัน คือผู้บริหารต้องกล้าตัดสินใจ แต่พนักงานก็ต้องเปิดใจเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน

ข้อสอง ต้องมองเห็นปัญหาให้ตรงจุดก่อนจะใช้ AI แก้ เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงต้องเจอกับอุปสรรค นี่คือความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่า “จะใช้ AI ไปแก้ปัญหาอะไร” เพราะหากเราไม่รู้จุดอ่อนของตัวเอง หรือไม่รู้ว่าปัญหาหลักขององค์กรคืออะไร การใช้ AI ก็อาจกลายเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า

AI ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่จะเสกทุกอย่างให้ดีขึ้นได้ทันที แต่หากเราให้เป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ต้องการลดระยะเวลาและขั้นตอนการทำงาน หรืออยากเพิ่มความแม่นยำในการวางแผนงาน AI ก็สามารถช่วยออกแบบกระบวนการใหม่ให้ได้

เราจึงต้องรู้ว่า “หัวใจ” ของกระบวนการอยู่ตรงไหน แล้วค่อยให้ AI ช่วยเติมเต็มหรือปรับปรุง ไม่ใช่แค่เอามาใช้แบบฉาบฉวย เพราะการแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือผิด อาจทำให้ปัญหายิ่งลึกมากกว่าเดิม การตระหนักรู้แก่นแท้ขององค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เพียงทำงานของตัวเองไปวันๆ เท่านั้น

การปรับเปลี่ยนกระบวนการหรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาในองค์กรนั้นอาจเป็นเรื่องยุ่งยากในอดีต เพราะนอกจากต้องตีโจทย์ความต้องการขององค์กรได้แล้วยังต้องอาศัยทีมโปรแกรมเมอร์เข้ามาพัฒนาระบบอีกมากมายซึ่ง AI สามารถข้ามขั้นตอนเหล่านี้ให้ได้ทันที

ยังคงเหลืออีก 1 ข้อสุดท้ายที่ต้องขอให้ติดตามต่อในสัปดาห์หน้านะครับ