เจาะวิสัยทัศน์เอ็มดีหญิง ‘แกร็บ’ ขยับกลยุทธ์ชิง ‘ดิลิเวอรี’ ครึ่งปีหลัง

เจาะวิสัยทัศน์เอ็มดีหญิง ‘แกร็บ’ ขยับกลยุทธ์ชิง ‘ดิลิเวอรี’ ครึ่งปีหลัง

“แกร็บ” เดินหน้าสู้ศึก “ดิลิเวอรี” ครึ่งปีหลัง ปักธงกลยุทธ์ S.M.A.R.T เดินเกม “ราคา” ใช้จุดแข็ง “เทคโนโลยี” สร้างจุดต่าง ย้ำภาพผู้นำซูเปอร์แอปแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมพาแบรนด์สู่ “Top of mind” ผู้บริโภคไทย

KEY

POINTS

  • เดินหน้าตามวิสัยทัศน์ Lead with Purpose สร้างความได้เปรียบการแข่งขันในฐานะผู้นำซูเปอร์แอปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • เป็นเฟิร์สมูฟเวอร์ อยู่รอดด้วยการสร้างสมดุลทั้งด้านคุณภาพ ราคา ผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคงไปทั้งอีโคซิสเท็ม

  • การตลาดครึ่งปีหลังจะยิ่งเข้มข้นกว่าเดิม ที่โฟกัสอย่างมากคือ การทำราคาที่เข้าถึงได้

  • เป้าหมายสำคัญของแกร็บ คือการเป็น “Top of mind” ของผู้บริโภค

  • ไม่ใช่แค่เพิ่มยอดขาย แต่ต้องสร้างผลกระทบเชิงบวก สำหรับสังคมวงกว้าง และประเทศไทย

สมรภูมิ “ดิลิเวอรี” ประเทศไทยยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ น่าจับตามองว่าผู้เล่นต่างๆ จะเดินเกมไปในทิศทางใด ท่ามกลางหลายปัจจัยที่ท้าทาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การแข่งขันที่ยังร้อนแรง และจุดเปลี่ยนของตลาดที่มีผู้เล่นน้อยลง และมีโอกาส “ล้ม” ได้เสมอหากไม่ระมัดระวัง...

“แกร็บ” เดินหน้าสู้ศึก “ดิลิเวอรี” ครึ่งปีหลัง ปักธงกลยุทธ์ S.M.A.R.T เดินเกม “ราคา” ใช้จุดแข็ง “เทคโนโลยี” สร้างจุดต่าง ย้ำภาพผู้นำซูเปอร์แอปแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมพาแบรนด์สู่ “Top of mind” ผู้บริโภคไทย

จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ครึ่งปีหลังปี 2568 ทิศทางธุรกิจของแกร็บยังเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” มุ่งสร้างความได้เปรียบการแข่งขันในฐานะผู้นำซูเปอร์แอปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายใต้กลยุทธ์ “S.M.A.R.T”  ประกอบด้วย S: Sustainability สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม, M: Market Expansion ขยายบริการให้เข้าถึงคนทุกเจเนอเรชัน, A: Affordability นำเสนอทางเลือกของบริการในราคาที่เข้าถึงได้

รวมถึง R: Retention รักษาฐานลูกค้าและมัดใจคนขับ-พาร์ตเนอร์ร้านค้า,และ T: Tech & Innovation พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน

เรายังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและผลักดันให้แพลตฟอร์มดิจิทัลสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับพันธมิตรและภาครัฐ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลพร้อมสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับคนไทย

‘ครึ่งปีหลัง’ เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

เอ็มดีแกร็บเผยว่า แม้แกนหลักจะยังคงเดิม ทว่าจะมีการอัปเดทอะไรใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง ที่จะโฟกัสอย่างมากคือ “การทำราคาที่เข้าถึงได้” และมีความคุ้มค่ามากที่สุด มากกว่านั้นพยายามขยายตลาดไปทั่วประเทศ มีการขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีมายกระดับและสร้างจุดต่างการให้บริการ

แน่นอนว่าจะมีโปรโมชันที่จูงใจ แคมเปญการตลาดตามฤดูกาล ฮอตดีล เมกะเซล เพิ่มการโฟกัสตลาดลูกค้าระดับกลางถึงบน ส่วนของร้านค้าและคนขับมีโปรโปรชันลดค่าจีพีสำหรับร้านค้าเข้าใหม่ โปรแกรมด้านการเงิน ฯลฯ และนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในหลากหลายมิติ

พร้อมกันนี้ ทยอยนำร่องฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ประกาศในงานเปิดตัวนวัตกรรมและอัปเดทเทคโนโลยีครั้งใหญ่ของแกร็บ “Grab X”เช่น “Shared Saver”ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการประหยัดค่าส่งและไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเมื่อต้องการสั่งเมนูหรือออเดอร์ขนาดเล็ก(Small Order Fee)

บทบาทของเราคือผู้ที่เชื่อมต่อกับผู้บริโภค พยายามสร้างสมดุลทั้งด้านคุณภาพ ราคา ผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคงไปทั้งอีโคซิสเท็ม เพราะหากตัวแกร็บเองทำกำไรไม่ได้ก็คงไม่สามารถไปช่วยคนอื่นได้ ถ้าไม่สามารถคงอยู่ได้ด้วยตัวเองท้ายที่สุดก็คงต้องออกจากตลาดไป

ภาพรวมแนวทางของแกร็บไม่เน้นที่การแข่งขัน แต่มีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาบริการ นำเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI เข้ามาเป็นตัวจักรขับเคลื่อนธุรกิจ ยกระดับความปลอดภัย และคงความเป็น เฟิร์ส มูฟเวอร์ ที่สร้างสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งตลาดต่อไป

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การทำธุรกิจมุ่งสร้างความยั่งยืนทุกมิติ ทั้งการเติบโตและการรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนของการขยายฐานลูกค้า นอกจากรักษาฐานตลาดเดิมและทำให้แข็งแรงยิ่งขึ้น พยายามจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงบุกเบิกธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น เมืองรอง ซึ่งอีกทางหนึ่งคาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย

มั่นใจธุรกิจ ‘โต’ สวนกระแส

เอ็มดีแกร็บเผยว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมาทุกกลุ่มธุรกิจของแกร็บยังคงเติบโตได้ดีในระดับตัวเลขสองหลัก ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่ายังคงมีสัญญาณบวกและน่าจะทำได้ดีเช่นกัน

ท่ามกลางความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจ สงครามการค้า และการลงทุน แกร็บมีมุมมองว่า ภาพรวมตลาดดิลิเวอรีประเทศไทยยังเติบโตได้สูงมาก จากสัดส่วนการเข้าถึงบริการที่ยังน้อย เมื่อเทียบการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคโดยภาพรวม ทั้งมีปัจจัยบวกการเติบโตการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ตโฟน รวมถึงบริการดิจิทัลต่างๆ ของคนไทย

ด้านความท้าทายที่สำคัญคือ เรื่องกำลังซื้อและความเชื่อมั่น ทั้งยังมีความไม่แน่นอนที่ต้องจับตามองคือเรื่องของนโยบายภาษีทรัมป์ ที่แม้ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงแต่อาจกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้

ส่วนการเปลี่ยนแปลงตลาดดิลิเวอรีไทยที่วันนี้ถึงจุดเปลี่ยนสู่ยุคที่มีผู้เล่นน้อยลง ไม่น่าจะมีนัยสำคัญต่อการแข่งขันหรือกระทบต่อธุรกิจของแกร็บมากนัก เนื่องจากในตลาดนี้ไม่มีร้านค้าที่มีความร่วมมือกับแพลตฟอร์มแบบเอ็กซ์คลูซีฟอยู่แล้ว และแต่ละรายก็มีสนามที่เล่นแตกต่างกันไป

ข้อมูลโดยโมเมนตัมเวิร์กระบุว่า ภาพรวมตลาดฟู้ดดิลิเวอรีไทยมีมูลค่าราว 1.4 แสนล้านบาท เติบโต 12% และแกร็บครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 46%

ผลศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจของแกร็บในปี 2566 ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยสูงถึง 1.79 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

พาแบรนด์สู่ ‘Top of mind’ คนไทย

จันต์สุดา เผยว่า ระยะเวลาราวสองเดือนในฐานะเอ็มดีของแกร็บต่างกับบทบาทเดิมๆ ที่เคยทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาด พันธมิตร คอมเมอร์เชียลอย่างมาก สิ่งที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมคือ การประสานงานต่างๆ กับทางภาครัฐและการสร้างความเข้าใจให้กับสังคมโดยรวม

ยอมรับว่าบิสิเนสโมเดลนี้ไม่ได้ง่าย ต้องทำความเข้าใจถึงบริบทต่างๆ และคำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน แต่ถึงแม้ไม่ถึงกับยาก แต่เป็นอะไรที่ใหม่ ต้องปรับตัว มีความ “People” มากขึ้น เพื่อทำให้ทีมรู้สึกสบายใจที่จะทำงานร่วมกัน

เป้าหมายสำคัญของแกร็บคือการเป็น “Top of mind” ของผู้บริโภค เมื่อต้องการสั่งอาหาร หรือเดินทาง จากนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี ยกระดับบริการ ร้านอาหาร คนขับ และทำงานร่วมกับพันธมิตร ไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดขาย แต่ต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกและมีความหมายสำหรับสังคมในวงกว้างและประเทศไทย