Meta AI ผู้ใช้ทะลุ 1 พันล้าน เตรียมเปิดบริการแบบจ่ายเงินในอนาคต

Meta AI ผู้ใช้ทะลุ 1 พันล้าน เตรียมเปิดบริการแบบจ่ายเงินในอนาคต

Meta AI มีผู้ใช้งานรายเดือนทะลุ 1 พันล้านคน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วางกลยุทธ์ระยะยาว ต้องการสร้างแพลตฟอร์ม AI เน้นใช้งานประจำวันแบบครบวงจร หวังต่อยอดรายได้อนาคต

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเมตา (Meta) ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการในเวทีการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ว่า ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ Meta AI ของบริษัทมีผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users) ทะลุ 1 พันล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยยอดดังกล่าวมาจากการรวมผู้ใช้งานในทุกแพลตฟอร์มของเมตา ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, WhatsApp รวมถึงแอปพลิเคชันแยกเฉพาะของ Meta AI ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ซักเคอร์เบิร์กระบุว่า เป้าหมายหลักในปีนี้คือ การพัฒนา Meta AI ให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น โดยเน้นให้ตอบสนองความต้องการของแต่ละคน ทำให้ Meta AI กลายเป็นผู้ช่วยเอไอส่วนตัวที่ดีที่สุดในตลาด โดยจะเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่ การปรับให้ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลมากขึ้น, การสนทนาด้วยเสียง และความบันเทิง 

แม้จะบรรลุหมุดหมายระดับพันล้านผู้ใช้ แต่เมตายังไม่เร่งรีบสร้างรายได้จาก Meta AI ในทันที โดยซักเคอร์เบิร์กให้เหตุผลว่า บริษัทจะยังคงพัฒนาความสามารถของเอไออย่างต่อเนื่อง และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะเริ่มมองหาโอกาสในการสร้างรายได้ เช่น การใส่คำแนะนำแบบมีค่าใช้จ่าย (paid recommendations) หรือเปิดให้บริการแบบสมัครสมาชิก (subscription service) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการประมวลผลที่สูงขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า เมตามีแผนจะเปิดตัวแอป Meta AI แบบแยกในไตรมาส 2 ของปีนี้ พร้อมทั้งทดลองโมเดลรายได้แบบสมัครสมาชิกคล้ายกับที่ OpenAI ใช้กับ ChatGPT Plus

จำนวนผู้ใช้งาน 1 พันล้านคนต่อเดือนจะฟังดูเป็นตัวเลขที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีทั่วไป แต่สำหรับเมตาแล้ว นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา บริษัทเคยมีแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกิน 2-3 พันล้านคนต่อเดือน อย่าง Facebook และ WhatsApp

“แม้ 1 พันล้านคนจะเป็นตัวเลขที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับเมตานี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ยังมีทางให้เติบโตได้อีกมาก” ซักเคอร์เบิร์กล่าวกับผู้ถือหุ้น

ถ้าเมตารักษาจำนวนผู้ใช้ระดับพันล้านคนไว้ได้ต่อเนื่อง วันหนึ่งในอนาคตเมตาก็อาจเริ่มเก็บเงินบางส่วน หรือเปิดบริการพิเศษแบบสมัครสมาชิก ซึ่งอาจกลายเป็นรายได้หลักใหม่ของบริษัท นอกเหนือจากรายได้โฆษณาและการขายอุปกรณ์ VR/AR ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ถกประเด็นสังคม - สิ่งแวดล้อม

นอกจากประเด็นเรื่อง Meta AI แล้ว ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของเมตายังมีการหยิบยกข้อเสนออื่นๆ มาลงมติอีกทั้งหมด 14 หัวข้อ โดยในจำนวนนี้มีถึง 9 หัวข้อที่ถูกเสนอขึ้นโดยกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งแต่ละข้อสะท้อนถึงความกังวลด้านจริยธรรม ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างเช่น มีข้อเสนอให้บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเด็กมากขึ้นในการใช้งานแพลตฟอร์มของเมตา หรืออีกข้อเสนอหนึ่งเสนอให้บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงมีข้อเสนอให้เมตาพิจารณาถือบิตคอยน์ไว้เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจในหมู่บริษัทเทคโนโลยีบางราย

ข้อเสนอหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ มาจากกลุ่ม JLens ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐ ข้อเสนอนี้เรียกร้องให้เมตาจัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับเนื้อหาบนแพลตฟอร์มที่มีเนื้อหาความเกลียดชัง

เช่น การเหยียดเชื้อชาติ ศาสนา หรือความรุนแรงทางความคิด โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านชาวยิว (antisemitism) ซึ่งกลุ่มนี้มองว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังเมตามีการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการควบคุมเนื้อหาเมื่อต้นปี โดยลดความเข้มงวดในการกลั่นกรองเนื้อหาบางประเภท

ผลโหวตเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า ข้อเสนอที่บอร์ดบริหารไม่เห็นด้วยนั้นมีแนวโน้มจะไม่ผ่าน รวมถึงข้อเสนอที่ให้ยกเลิกโครงสร้างการถือหุ้นแบบพิเศษที่ทำให้ซักเคอร์เบิร์กมีสิทธิ์โหวตมากกว่าผู้ถือหุ้นคนอื่น ส่วนข้อเสนอที่บอร์ดสนับสนุน เช่น การแต่งตั้งกรรมการบริษัทและการให้หุ้นจูงใจพนักงาน มีแนวโน้มจะผ่าน

เมตาระบุว่า จะประกาศผลโหวตอย่างเป็นทางการภายใน 4 วันทำการ ผ่านเว็บไซต์บริษัทและทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC)

อ้างอิง: CNBC