มติ กสทช.สั่ง สนง.หาทางรอด 'ทีวีดิจิทัล' ยื้ออนาคตก่อนหมดสัมปทานปี 72

วาระพิจารณาทางรอดทีวีดิจิทัลยังยืดเยื้อ บอร์ดลงมติ สั่งสำนักงานสรุปทางรอดใน 60 วัน ยังไม่เคาะแพลตฟอร์มทีวีแห่งชาติ เพื่อวางแผนรับใบอนุญาตหมดอายุปี 2572
นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การประชุม กสทช.วันนี้ (28 พ.ค.68) ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการศึกษาโครงการจ้างวิเคราะห์ฉากทัศน์กิจการแพร่ภาพกระจายเสียงในอนาคตของไทยภายใต้สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ขอให้สำนักงาน กสทช. ศึกษาฉากทัศน์เพิ่มเติมในเชิงลึก ภายใน 60 วัน เสนอต่อบอร์ด กสทช.อีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ว่า หลังจากปี 2572 ซึ่งใบอนุญาตทีวีดิจิทัลจะสิ้นสุดลง จะเหลือสถานีโทรทัศน์กี่ช่อง และควรดำเนินนโยบายใดจึงจะช่วยให้ผู้ประกอบการที่ยัง “อยู่รอด” ได้ โดยไม่เป็นภาระเกินไป เช่น การลดภาระต้นทุนมักซ์ หรือ โครงข่ายทีวีดิจิทัล เพื่อไม่ให้มีภาระมากเกินไป , การผ่อนปรนเงื่อนไข USO ซึ่งเป็นภาระของผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เป็นต้น
ส่วนประเด็นหลังจากสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2572 นั้น กสทช.จะมีแนวทางในการแก้กฎหมายไม่ต้องประมูลคลื่นทีวีดิจิทัลหรือไม่นั้น ประธาน กสทช. กล่าวว่า เรื่องนี้เกินอำนาจของ กสทช.เพราะการแก้กฎหมายต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการของรัฐสภา
เชื่อว่า ไม่ต้องถึงขั้นของการแก้กฎหมาย กสทช.ก็สามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ในการดำเนินการได้ และยืนยันว่าทีวีดิจิทัลจะไม่ล่มสลาย
สำหรับแนวคิดการจัดตั้ง “แพลตฟอร์มทีวีแห่งชาติ” ที่ผู้ประกอบการมีการนำเสนอเพื่อให้มีแพลตฟอร์มโอทีที เป็นของตนเอง ทดแทนทีวีดิจิทัลซึ่งยังไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร นั้น ประธาน กสทช.กล่าวว่า ในวันนี้ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปถึงขั้นนั้น ต้องรอดูผลสรุปของสำนักงาน กสทช.ภายใน 60 วันก่อน แต่ยืนยันว่า ทีวีไทย ไม่ล่มสลายแน่นอน
ขณะที่ ในปีที่ผ่านมาได้ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ให้ทันสมัย และการส่งเสริมสนับสนุนกิจการโทรทัศน์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องให้พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีหลายโครงการที่ต้องหยุดชะงัก เพราะรอการบรรจุวาระเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมบอร์ด กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ได้ยกตัวอย่างโครงการ และการดำเนินงานในกลุ่มนี้
เปิด 4 ข้อเสนอ “พิรงรอง” ขับเคลื่อนอนาคตทีวีดิจิทัล
สำหรับนโยบายการขับเคลื่อนกิจการโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ นางสาวพิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.มี 4 เรื่อง ประกอบด้วย
1. แนวทางการกำกับดูแลเพื่อรองรับการหลอมรวมในมิติต่างๆ การพิจารณานำบริการเสริมบนโครงข่ายโอทีที ที่ให้บริการแพร่ภาพ และกระจายเสียงเข้าสู่ระบบการกำกับดูแล ได้มีการจัดทำ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง การให้บริการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งจะระบุหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลโอทีทีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
โดยเน้นการกำกับดูแลเท่าที่จำเป็นขั้นตอนต่อไปคือ การนำร่างประกาศนี้ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังจากที่เสนอเพื่อบรรจุวาระเข้าที่ประชุม กสทช. ต่อไป
2. การสนับสนุนการผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ และป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งมีแนวทางการสนับสนุนรายการสำหรับเด็ก และเยาวชน รายการที่ส่งเสริมความหลากหลายในสังคม รายการเกี่ยวกับวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของท้องถิ่น และรายการที่มีศักยภาพในการผลิตร่วมกับต่างประเทศนั้น ได้จัดทำและเสนอ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การสนับสนุนการผลิตรายการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ประกาศฯ ตามมาตรา 52) ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเรียบร้อยแล้ว
3. การส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ เพื่อทำหน้าที่จัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมของการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพ และควบคุมการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพกันเองภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรม ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน คือ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ.2566 ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 แล้ว เช่นเดียวกัน
4. การปรับปรุงประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การส่งเสริมชุมชนที่มีความพร้อม และสนับสนุนผู้ประกอบกิจการบริการชุมชนที่มีคุณภาพ โดยมุ่งหมายให้มีการส่งเสริมชุมชนที่มีความพร้อมให้เป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการ และสนับสนุนผู้ประกอบกิจการบริการชุมชนที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม ทั้งในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เพื่อให้สามารถเป็นสื่อกลางในการสร้างการมีส่วนร่วม และเกิดความเข้มแข็งในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ร่างประกาศดังกล่าวก็อยู่ระหว่างรอบรรจุวาระเข้าที่ประชุม กสทช. เช่นกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







