‘แซม อัลท์แมน’ ส่ง ‘Orb’ บุกไทย ‘สแกนม่านตา’ แยก ‘มนุษย์’ ออกจาก ‘เอไอ’

‘แซม อัลท์แมน’ ส่ง ‘Orb’ บุกไทย ‘สแกนม่านตา’ แยก ‘มนุษย์’ ออกจาก ‘เอไอ’

“World” โดย แซม อัลท์แมน เจ้าพ่อ AI ส่ง Orb บุกไทย สแกนม่านตา 'แยกมนุษย์จากบอต' สร้างโลกออนไลน์ที่น่าเชื่อถือให้คนไทย

KEY

POINTS

  • World โดย Sam Altman เปิดตัวในไทย นำอุปกรณ์ Orb สแกนม่านตา เพื่อยืนยันว่าเป็น "มนุษย์จริง" แยกจาก AI และบอต
  • World ID คือ ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลระดับโลกที่ไม่ผูกกับประเทศใด ใช้ม่านตาสร้างรหัสเฉพาะบุคคลโดยไม่เก็บภาพหรือข้อมูลชีวมิติ
  • ไทยเป็นประเทศสำคัญ เพราะคนไทยเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ มีการใช้คริปโทสูง และได้รับการรับรองด้านกฎหมายจาก PDPC
  • เป้าหมายปี 2025 คือ 2 ล้านผู้ใช้งาน และมีบริษัทไทยอย่างน้อย 5 แห่งเริ่มใช้ World ID ในระบบบริการ ตั้งเป้าจุดบริการ Orb 50 จุดสิ้นเดือนนี้ 
  • ภารกิจระยะยาว คือ สร้างโลกดิจิทัลที่น่าเชื่อถือ มีเฉพาะ “มนุษย์จริง” และส่งเสริมการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ

ยุคดิจิทัลที่ล้ำสมัยจนแทบแยกไม่ออกว่าใครคือ "มนุษย์" และใครคือ "บอต" ที่ถูกสร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ ความท้าทายนี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเทคโนโลยี Deep Fake พัฒนาจนสามารถปลอมแปลงวิดีโอได้อย่างแนบเนียน แม้แต่ในการประชุมออนไลน์ เราก็อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังคุยกับ AI อยู่หรือไม่

ปัญหาใหญ่ที่มองเห็นในอนาคตนี้เองที่จุดประกายให้ แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI และผู้ร่วมก่อตั้ง Tools for Humanity (TFH) หรือ “World” เริ่มต้นภารกิจเพื่อหาวิธีให้มนุษย์ยังคงยืนยันตัวตนในโลกออนไลน์ได้ เขาลองพิจารณารูปแบบการยืนยันตัวตนต่างๆ ทั้งการจดจำใบหน้า เสียง หรือแม้กระทั่งลายมือ แต่พบว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนถูกปลอมแปลงได้ง่ายในยุค AI

 

‘แซม อัลท์แมน’ ส่ง ‘Orb’ บุกไทย ‘สแกนม่านตา’ แยก ‘มนุษย์’ ออกจาก ‘เอไอ’

จนกระทั่งเขาพบสิ่งที่เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะยืนยันความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจาก AI ได้ในระดับประชากร นั่นคือ "ม่านตา" เพราะม่านตามีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน แม้แต่ฝาแฝดก็ยังมีลวดลายม่านตาที่ไม่เหมือนกัน

จากแนวคิดนี้ World  จึงถือกำเนิดขึ้น โดยมีหัวใจหลักคือ "World ID" ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็น เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนที่จะช่วยให้ผู้คนพิสูจน์ได้ว่าตนเองเป็นมนุษย์ที่ "มีอยู่จริง และไม่ซ้ำใคร" บนโลกดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้นทุกวัน

เครื่องมือสำคัญที่ทำให้ World ID เป็นจริงได้ก็คือ อุปกรณ์ที่เรียกว่า "Orb" (ออร์บ) สร้างโดย Tools for Humanity เป็นอุปกรณ์โอเพนซอร์สที่ยืนยันว่าคุณเป็นมนุษย์ที่มีเพียงบุคคลเดียว โดยไม่ต้องรู้ข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับคุณ Orb ถ่ายภาพใบหน้า และดวงตาของคุณ จากนั้นจะเข้ารหัส และเก็บไว้ในโทรศัพท์ของคุณ เพื่อให้คุณเป็นผู้ควบคุมข้อมูลนั้นโดยตรง

รหัสที่ได้รับการเข้ารหัสถาวรที่สร้างจากภาพถ่ายของคุณจะถูกเก็บในฐานข้อมูลที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการยืนยันตัวตนซ้ำ ทั้งหมดนี้ทำได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วในไม่กี่วินาที และคุณสามารถเลือกที่จะลบข้อมูลของคุณได้ตลอดเวลา

‘แซม อัลท์แมน’ ส่ง ‘Orb’ บุกไทย ‘สแกนม่านตา’ แยก ‘มนุษย์’ ออกจาก ‘เอไอ’

หรือให้เข้าใจง่ายขึ้น หน้าที่ของ Orb คือ สแกนภาพม่านตาของผู้ใช้งานแล้วแปลงเป็นรหัสดิจิทัล (Iris Code) สิ่งที่สำคัญ และแตกต่างคือ Orb จะลบภาพม่านตาของผู้ใช้งานทิ้งทันที หลังแปลงเป็นรหัสแล้ว จะเก็บเฉพาะรหัสที่เข้ารหัสแล้วในมือถือผู้ใช้งานเท่านั้น

World ยืนยันว่าเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ใน ซอร์สโค้ด ของพวกเขา นี่คือ สิ่งที่แตกต่างจากความเข้าใจผิดทั่วไปที่ว่า World พยายามเก็บไบโอเมตทริกซ์ ดาต้าแต่จริงๆ แล้วไม่ได้เก็บภาพหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนได้โดยตรงเลย

เมื่อผู้ใช้งานยืนยันตัวตนกับ Orb เรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับ World ID ซึ่ง World ตั้งใจให้เป็น มาตรฐานการยืนยันตัวตนดิจิทัลแรกที่สามารถใช้ได้ "ข้ามทั้งโลก" ไม่ได้ผูกติดกับประเทศใดประเทศหนึ่ง เหมือนเป็น Digital Passport ที่เป็นสากล

หลังจากได้รับ World ID ผู้ใช้งานก็จะสามารถเข้าสู่ ระบบนิเวศของ World ได้ ซึ่งเปรียบเสมือนโลกอีกใบที่ตั้งใจให้มีแต่คนจริงเท่านั้น ไม่มี AI หรือบอต

"Orb ใช้การสแกนม่านตาเพื่อยืนยันว่า “คุณ” เป็นคนคนเดียวในโลกนี้ ไม่มีซ้ำ และไม่ใช่ AI แฝงตัวมา มันไม่เก็บภาพตาไว้ถาวร แต่จะแปลงข้อมูลนั้นเป็น รหัสทางชีวภาพ แล้วเปลี่ยนเป็น World ID  สิ่งเดียวที่คุณต้องใช้ในการเข้าระบบเศรษฐกิจใหม่นี้ ใครมี World ID ก็จะได้รับ Worldcoin  เหรียญดิจิทัลที่แซมหวังว่าจะกลายเป็นสกุลเงินของประชากรโลกในอนาคต"

แม้ "อัลท์แมน" จะได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในผู้ผลักดัน AI สมัยใหม่ แต่เขากลับเป็นคนที่กังวลว่า AI จะครอบงำมนุษย์ Orb จึงกลายเป็นเหมือน "อาวุธของมนุษย์" เพื่อยืนยันว่า "เรายังมีตัวตน" ในโลกที่ทุกอย่างกลายเป็นดิจิทัล

“เรากำลังเข้าสู่ยุคที่คุณอาจไม่แน่ใจว่าใครคือคน ใครคือ AI และถ้าคุณไม่รู้... เศรษฐกิจจะพัง ความเชื่อใจก็จะหายไป” แซม อัลท์แมน เคยบอกไว้

ระบบนิเวศของ World ประกอบด้วย 5 เทคโนโลยีหลัก

  • Orb: อุปกรณ์สแกนม่านตาเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์
  • World ID: ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลมาตรฐานใหม่สำหรับพิสูจน์ความเป็นมนุษย์
  • World App: แอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับผู้ใช้งานในการสื่อสารกับระบบนิเวศ และค้นหา Orb
  • World Chain: เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ทำหน้าที่เป็นระบบหลังบ้าน
  • World Coin: สกุลเงินดิจิทัลในระบบ โดยในระยะสั้นมีเป้าหมายเพื่อเป็น รางวัล (Incentive) ให้กับผู้ที่มาสแกน Orb และยืนยันตัวตน

ปัจจุบันผู้ที่ยืนยันตัวตนจะได้รับ World Coin มูลค่าเทียบเท่าประมาณ 25 ดอลลาร์ และในระยะยาว World Coin จะกลายเป็น สกุลเงินกลาง สำหรับทุกกิจกรรม และการซื้อขายภายในเครือข่าย World

‘แซม อัลท์แมน’ ส่ง ‘Orb’ บุกไทย ‘สแกนม่านตา’ แยก ‘มนุษย์’ ออกจาก ‘เอไอ’

World เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2025 โดยมี 'ภัคพล ตั้งตงฉิน' ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย การเข้ามาของ World ในไทยได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย รวมถึงการรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Office of the Personal Data Protection Commission – PDPC) ผู้กำกับดูแล PDPA ว่าไม่มีปัญหาทางกฎหมาย และความร่วมมือกับพันธมิตร คือ ศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัล และการเงินของประเทศไทย หรือ TIDC ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือเอ็นที และ บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP 

เหตุผลที่ World เลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญสำหรับการลงทุนเป็นเพราะประเทศไทยมีความโดดเด่นด้านดิจิทัล และการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซี ติดอันดับ Top 10 ของโลก คนไทยค่อนข้างมีความรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech Savvy) มีขนาดตลาดที่น่าสนใจ และคนไทยมีความเต็มใจที่จะลองเทคโนโลยีใหม่ๆ

World กำลังเร่งขยายจุดบริการ Orb ทั่วประเทศไทย ตั้งเป้าให้คนไทยสามารถเข้าถึง Orb ได้ง่ายภายในรัศมีครึ่งชั่วโมง ตั้งเป้าจุดให้บริการ Orb ในไทย 50 จุดสิ้นเดือนนี้ จากปัจจุบันมีจุดให้บริการ Orb แล้วกว่า 25 จุด

นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะใน ธุรกิจซื้อตั๋ว เพื่อใช้ World ID แก้ปัญหาบอตกวาดซื้อตั๋ว และมีแผนร่วมมือกับแพลตฟอร์มชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ของไทย รวมถึงตั้ง Grant เพื่อจูงใจนักพัฒนาชาวไทย ให้สร้างแอปพลิเคชันบนเครือข่าย World

เป้าหมายของ World ในประเทศไทยภายในสิ้นปีนี้คือ การมีผู้ใช้งานถึง 2 ล้านคน และมีบริษัทอย่างน้อย 5 รายที่นำ World ID ไปใช้ พวกเขายังต้องการสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาที่เกิดจาก AI และบอตในอนาคต

ความมุ่งมั่นระยะยาวของ World คือ การขับเคลื่อน AI อย่างมีความรับผิดชอบ และส่งเสริมความเชื่อมั่นบนโลกดิจิทัล โดยมองว่าประเทศไทยจะเป็น ต้นแบบของภูมิภาคเอเชีย ในการใช้เทคโนโลยีพิสูจน์ตัวตนดิจิทัลที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางอย่างปลอดภัยในยุค AI

ทั้งหมดนี้ คือ ก้าวสำคัญของ World ในการเข้ามาสร้างระบบที่ช่วยให้โลกดิจิทัลในประเทศไทยและทั่วโลก ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และเป็นมิตรกับมนุษย์ มากขึ้น เพื่อรับมือกับความท้าทายจาก AI และบอต รวมถึงปกป้องผู้คนจากการฉ้อโกง การหลอกลวง หรือการทำ Deepfake ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น World ID ด้วยการยืนยันตัวตนผ่านม่านตา จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนสามารถพิสูจน์ว่าตนเองนั้น 'มีอยู่จริง และไม่ซ้ำใคร' ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้นทุกวัน

นี่คือ การประกาศศักดาว่า "มนุษย์" ยังคงมีที่ยืนอย่างมั่นคงในจักรวาล AI ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

ที่สำคัญ Orb ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีสแกนม่านตา มันคือ “จุดเริ่มต้นของคำถามใหญ่”
คำถามที่ว่า

"ในโลกที่ AI อาจทำงานแทนคุณ พูดแทนคุณ แล้ว ‘คุณ’ คือใคร?"

และ Orb อาจเป็นเพียงบทแรกของยุคที่มนุษย์ต้อง “ยืนยันความเป็นมนุษย์” ด้วยดวงตาของตัวเอง...

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์