อาลีบาบา-ดีป้า เปิดตัวโครงการ Eye for Thailand หนุนใช้ AI สร้างวิดีโอดิจิทัล

อาลีบาบา คลาวด์ และ ดีป้า ร่วมเปิดตัวโครงการ “Eye for Thailand” ให้ผู้สนใจทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขันใช้ AI สร้างเนื้อหาวิดีโอสั้นส่งเข้าแข่งขัน หวังเสริมสกิลเด็กไทย
วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า ได้ร่วมกับอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดตัวโครงการ “อาย ฟอร์ ไทยแลนด์” (Eye for Thailand) เป็นโครงการการแข่งขันการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI มาสร้างสรรค์เนื้อหาวิดีโอ โดยเปิดโอกาสให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักการตลาด นักออกแบบ นักศึกษา และองค์กรทั่วประเทศไทย
ผ่านการใช้ Wan2.1 series ซึ่งเป็นโมเดลสำหรับการสร้างวิดีโอรุ่นล่าสุดของอาลีบาบา ไปใช้สร้างวิดีโอสั้นที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ ตามธีมที่ได้รับจากอาลีบาบา คลาวด์ และดีป้า โครงการนี้เสริมศักยภาพให้กับผู้เข้าร่วมแข่งขันให้สามารถค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ในการเล่าเรื่องผ่านดิจิทัล และติดอาวุธให้ผู้ร่วมโครงการด้วยทักษะที่พร้อมรองรับอนาคต ซึ่งในฐานะหนึ่งในหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย
ดีป้า ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้มีความสามารถ นวัตกรรม และการสร้างโอกาสต่าง ๆ ในเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งโครงการนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการสร้างผู้มีความสามารถด้านดิจิทัล อีกทั้งส่งเสริมนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่จะยกระดับประเทศไทยในด้านความเป็นผู้นำด้านเอไอ และเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก
ฌอน หยวน รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า การแข่งขันนี้มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมประสาน เอไอ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมในอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย และขยายโอกาสทางวิชาชีพและวิชาการ และมีโอกาสจัดแสดงผลงานบนเวทีระดับโลก และแข่งขันชิงรางวัล พร้อมได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอ ด้านการตลาดและธุรกิจด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรมการประกอบด้วยตัวแทนจากอาลีบาบา คลาวด์ และ ดีป้า รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม จะประเมินผลงานที่ส่งเข้าประกวดโดยพิจารณาจากเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ เอไอ การเล่าเรื่อง และความเชื่อมโยงกับแบรนด์ คะแนนสุดท้าย จะพิจารณาจากคะแนนโหวตสาธารณะและการประเมินของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ โดยจะเปิดให้โหวตสาธารณะระหว่างวันที่ 11 ถึง 19 มิ.ย. และตามด้วยวัน เดโม่ เดย์ ซึ่งเป็นวันประกาศชื่อผู้ชนะ