คนรุ่นใหม่กับทางเลือกใหม่

คนรุ่นใหม่กับทางเลือกใหม่

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของโลกธุรกิจทุกวันนี้เราคงต้องยอมรับว่าการรับมือกับความผันผวนได้ดีที่สุดก็คือการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน

ไม่ว่าจะเป็นภูมิรัฐศาสตร์หรือสงครามการค้าที่ใช้มาตรการภาษีตอบโต้กันระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก

แต่การจะปรับตัวเพื่ออยู่รอดได้ในภาวะเช่นนี้หนีไม่พ้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับให้ธุรกิจเข้มแข็งพอที่จะฝ่าฟันมรสุมครั้งนี้ไปได้ ดังนั้นเราจะเห็นภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมตื่นตัวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเช่น Automation, AI, Robotic และ Digital Transformation เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

หัวใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จึงดูเหมือนจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลัก แต่ถ้าพิจารณากันให้ดีแล้วยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะดีแค่ไหนแต่หากขาด “คน” ที่จะใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อขับเคลื่อนองค์กรก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับองค์กรหลายแห่งจึงเป็นเรื่องของ “คนรุ่นใหม่” ที่ควรจะเป็นกำลังสำคัญในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพราะเขาเกิดมาในแบบ Digital Native คือมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ยังเด็กจึงทำให้ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้เร็วกว่าคนรุ่นเก่า

แต่คนรุ่นเก่าก็ยังรู้สึกไม่ไว้ใจคนรุ่นใหม่เพราะรู้สึกว่าพวกเขาสมาธิสั้นเกินไป ไม่อดทนและไม่จดจ่อกับงานของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น รวมถึงรู้สึกว่าเด็กยุคปัจจุบันนั้นไม่ค่อยเชื่อฟังเหมือนคนในสมัยก่อนที่มักจะว่านอนสอนง่ายทำให้สอนงานได้ราบรื่น

อาจเป็นเพราะรูปแบบการเรียนรู้สมัยใหม่ที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง จึงไม่เน้นความเข้มงวดเหมือนในอดีตที่ครูมักตีเด็กเพื่อให้เด็กนักเรียนเกรงกลัวและเชื่อฟัง

ตรงกันข้ามกับในยุคปัจจุบันที่ลดความเข้มงวดลงมากเพื่อรองรับความแตกต่างหลากหลาย ครูอาจารย์ก็ต้องหาทางอื่นในการจูงใจให้เด็กตั้งใจเรียนโดยไม่ใช้การบังคับด้วยไม้เรียวเหมือนที่ผ่านมา

ผลที่เกิดขึ้นคือเด็กที่ผ่านระบบการเรียนสมัยใหม่มามีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างจากเดิมจนคนรุ่นเก่าอาจจะไม่ยอมรับ ทำให้เด็กจบใหม่จำนวนมากไม่สามารถหางานทำได้เพราะไม่ตรงใจนายจ้าง

ในขณะที่องค์กรก็ไม่สามารถหาคนมาทำงานได้เพราะเด็กที่มาสมัครงานล้วนมีบุคลิกที่ไม่ตรงกับที่ตัวเองต้องการทั้ง 2 ฝ่ายจึงเหมือนหากันและกันไม่เจอสักที

สิ่งที่องค์กรต้องการก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากนัก นอกเหนือจากคุณวุฒิที่ต้องการให้ตรงกับสายงานแล้วก็มีคุณลักษณะที่ต้องการอีกไม่กี่ข้อเท่านั้น โดยข้อแรกคือทัศนคติที่ดี คือต้องการเห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นจึงมีไลฟ์สไตล์ที่เอื้อให้ได้คิดดีทำดี และอยากพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเสมอ

ข้อสองคือทักษะในการสื่อสารที่ดี ในองค์กรจึงต้องเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงออกทางความคิดที่แตกต่าง เช่นกำหนดแนวทางไว้ 3 ข้อ ก็อาจต้องเพิ่มทางเลือก 1.1, 1.2 ให้เขาได้คิดและได้ลองทำเพราะเราต้องการสอนให้เขาได้คิด

ข้อสามคือต้องเปิดโอกาสให้เขาได้นำความสามารถออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ คนรุ่นเก่าจึงมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ไปพร้อมกับเขาและเปิดโอกาสให้เขาได้มีส่วนร่วมในการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในองค์กรอย่างจริงจัง

…ยังมีคุณลักษณะสำคัญอื่นๆอีก ติดตามต่อในสัปดาห์หน้าครับ...