BDI เผยตลาดบิ๊กดาต้า-เอไอ ย้อนหลัง 2 ปี ยอดพุ่งกว่า 37,000 ล้านบาท

BDI เผยตลาดบิ๊กดาต้า-เอไอ ย้อนหลัง 2 ปี ยอดพุ่งกว่า 37,000 ล้านบาท

BDI เผยผลสำรวจวิเคราะห์สภาพแวดล้อม ด้านอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้า-เอไอ ในไทยย้อนหลัง 2 ปี มูลค่ารวมสูงถึง 37,814 ล้านบาท โดยกลุ่มด้านการบริการครองแชร์ถึง 52.7%

ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI  กล่าวว่า รายงานการสำรวจวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (Environmental Scanning) ด้านอุตสาหกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย จัดทำขึ้นเพื่อสะท้อนภาพรวม แนวโน้ม และทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย เพื่อนำ Big Data และ AI ไปใช้ให้เกิดมูลค่าสูงสุด

ทั้งในมิติการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือการต่อยอดโอกาสทางการตลาด โดยผลสำรวจจะเป็นแนวทางสำคัญในการให้ภาครัฐใช้กำหนดแนวนโยบาย และมาตรการสนับสนุนที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมสร้างความพร้อมการนำเทคโนโลยี AI และ Big Data ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมดิจิทัลให้เติบโตในระยะยาว

การสำรวจครั้งนี้ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรม Big Data และ AI กว่า 264 รายทั่วประเทศ มีการแบ่งหมวดหมู่ผู้ประกอบการออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การจำแนกตามประเภทธุรกิจหรือภารกิจ และจำแนกตามประเภทเทคโนโลยี 

ซึ่งจากผลสำรวจ พบว่า มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 37,814 ล้านบาท 

โดย Big Data Services ครองสัดส่วนสูงสุดที่ 19,923 ล้านบาท คิดเป็น 52.7% ของมูลค่ารวมทั้งหมด สะท้อนถึงแนวโน้มธุรกิจในไทยให้ความสนใจและใช้บริการวิเคราะห์ข้อมูล

ขณะที่รองลงมา คือ Big Data / AI Software มีมูลค่า 8,057 ล้านบาท ตามมาด้วย ด้าน AI Services มีมูลค่า 5,160 ล้านบาท และ Big Data / AI Hardware มีมูลค่า 4,674 ล้านบาท

BDI เผยตลาดบิ๊กดาต้า-เอไอ ย้อนหลัง 2 ปี ยอดพุ่งกว่า 37,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ BDI ได้ขยายการสำรวจเบื้องต้นไปยังด้านแรงงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม Big Data และ AI ระหว่างเดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2567 พบว่า มีบุคลากรรวมกว่า 32,000 คน ซึ่งแรงงานที่อยู่ในสายเทคโนโลยีสารสนเทศประมาณ 16,000 คน แบ่งออกเป็นพนักงานด้าน Big Data ประมาณ 14,500 คน และพนักงานด้าน AI ประมาณ 700 คน ขณะที่ตำแหน่ง Big Data / AI / IT Project Manager มีเพียงประมาณ 800 คน สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างของบุคลากรระดับบริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูล และความต้องการทักษะด้าน Data Science และ Data Engineering ที่ยังขาดแคลน ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว

ธีรณี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังได้มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม Big Data และ AI ในประเทศไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 7-8% ต่อปี สะท้อนถึงความตื่นตัวของตลาด และศักยภาพของผู้ประกอบการในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน อย่างไรก็ดี ยังประเมินว่าประเทศไทยยังมีพื้นที่และโอกาสสำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรม Big Data และ AI 

โดยต้องเร่งปรับตัวและสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมให้เติบโตผ่าน 4 แนวทางดังต่อไปนี้

  • การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล – ผ่านการขยายโครงสร้างฯ ที่แข็งแกร่ง อาทิ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และ Data Center ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การพัฒนาทรัพยากรบุคคล – โดยต้องเร่งเตรียมความพร้อมรับมือกับการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data และ AI ผ่านการจัดเตรียมหลักสูตรในการศึกษาและฝึกอบรม รวมถึงการสนับสนุนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
  • การส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในภาคธุรกิจ – ซึ่งต้องผลักดันภาคธุรกิจในการใช้งาน Big Data และ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม ผ่านการฝึกอบรมและให้การสนับสนุนทางการเงิน เพื่อยกระดับให้ธุรกิจไทยปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้
  • การสร้างกรอบกฎหมายและนโยบายที่ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ใช้บริการ ป้องกันปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา จะช่วยเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรม Big Data และ AI

"BDI พร้อมเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2568-2570) ภายใต้วิสัยทัศน์ Data-Driven Nation โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ Big Data และ AI ผ่านการพัฒนาบุคลากร และกระตุ้นให้ภาคธุรกิจ - หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อปูทางสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีข้อมูลในภูมิภาคอาเซียน"