ส่อเค้าเลื่อน? มติบอร์ด กสทช.ยอมถอย สั่งปรับแผนประมูลคลื่นใหม่

ส่อเค้าเลื่อน? มติบอร์ด กสทช.ยอมถอย สั่งปรับแผนประมูลคลื่นใหม่

มติบอร์ด กสทช.สั่ง สนง.ไปประชาพิจารณ์คลื่นความถี่อีกครั้ง หวังให้เกิดความรอบคอบสูงสุด พร้อมยัดคลื่น 3500 เข้ามาเฮียริ่งเพิ่ม ปิดประตูตายทีวีดิจิทัลลักไก่ขอใช้ต่อ

KEY

POINTS

  • เห็นชอบให้ นำร่างประกาศหลักเกณฑ์ และประมูลทั้ง 6 คลื่น วิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่กลับไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) อีกครั้ง 
  • ทำรายละเอียดเพิ่มเติม ได้แก่ การแบ่งกลุ่มคลื่นประมูล ราคาเริ่มต้นการประมูล งวดการชำระเงิน ผลประโยชน์สาธารณะ และการคุ้มครองผู้บริโภค
  • พยายามจัดการประมูลให้เป็นไปตามกรอบการประมูลเดิมที่วางไว้วันที่ 17-18 พ.ค.68
  • สั่งให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที ส่งแผนเยียวยาลูกค้าที่ยังคงเหลือในระบบมาให้พิจารณาให้เร็วที่สุด

นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (กสทช.) วันนี้ (18 มี.ค.68) มีมติเห็นชอบให้ สำนักงาน กสทช. นำร่างประกาศหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่กลับไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) อีกครั้ง 

โดยจะประกอบด้วยย่านในกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz

โดย สำนักงาน กสทช. ต้องจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม ได้แก่ การแบ่งกลุ่มคลื่นประมูล ราคาเริ่มต้นการประมูล งวดการชำระเงิน ผลประโยชน์สาธารณะ และการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเกิดขึ้นจากข้อขัดแย้งที่ยังไม่ลงตัว แม้แต่ที่ประชุม กสทช. เองก็ยังเห็นต่างกัน และกลับมาเสนอ ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ภายใน 7 วัน เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ละเอียดอ่อน และยังไม่ชัดเจน โดยการประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งหน้าจะมีในวันที่ 26 มี.ค.68 นี้ 

หากสามารถสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ และส่งกลับเข้าที่ประชุม กสทช. ได้ภายในเดือนเม.ย.68 จะพยายามจัดการประมูลให้เป็นไปตามกรอบการประมูลเดิมที่วางไว้วันที่ 17-18 พ.ค.2568 หรือช้าสุดไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้น แต่หากยังมีการเปลี่ยนแปลงอีก ก็จะต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างไม่มีกำหนด

"ผมยังยืนยันว่าการที่เราปรับแผนการประมูลอีกครั้งไม่ได้เกี่ยวกับการที่สภาองค์กรของผู้บริโภคมายื่นหนังสือขอชะลอการประมูล เพียงแต่ว่าเราจำเป็นต้องคำนึงถึงความรอบคอบและผลประโยชน์ทั้งต่อรัฐ และต่อประชาชนที่ต้องมีสูงสุด"

ขณะที่ พล.อ.ท. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. ด้านกิจการกระจายเสียง ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านคลื่นความถี่ และมาตรฐานทางเทคนิค กล่าวให้ความเห็นในการประชุมบอร์ดว่า ประเด็นที่จำเป็นต้องให้สำนักงาน กสทช.กลับไปทำรายละเอียด และจัดทำประชาพิจารณ์ใหม่อีกครั้ง ภายใน 7 วัน

ประกอบด้วย 1.การจัดกลุ่มการประมูล ซึ่งเดิมมีการเสนอให้แบ่งกลุ่มคลื่นความถี่ทั้ง 6 ย่าน ออกเป็น 3 กลุ่ม ประมูลทีละรอบ แต่หลังจากประชาพิจารณ์เสร็จแล้ว สำนักงาน กสทช. กลับมาเสนอให้มีการแบ่งกลุ่มการประมูลออกเป็น 4 กลุ่ม และให้เปิดประมูลพร้อมกัน แต่ในการประชุมบอร์ดวันนี้มีความเห็นว่าอาจจะเป็นการประมูล 1 ต่อ 1 จบในทีละรอบ อาจจะเริ่มตั้งแต่คลื่น 850 MHz ไปจนสิ้นสุดที่คลื่นย่าน 26 GHz

2. กำหนดเรื่องการชดเชยการช่วยเหลือ กลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งหากพิจารณาตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคที่ได้มายื่นหนังสือเกี่ยวกับผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่มีความกังวลเกี่ยวกับตลาดโทรคมนาคมที่จะเหลือผู้เล่นใหญ่เพียง 2 ราย จะต้องมีการกำหนด แพ็กเกจ ราคาหรือโปรโมชันเอาไว้อย่างชัดเจนด้วย

3. กำหนดการจ่ายราคาค่าใบอนุญาต เดิมสำนักงานมีการกำหนดเทอมการจ่ายค่าใบอนุญาตไว้ 50% ในปีแรก 25% ในปีที่ 3 และอีก 25% ที่เหลือในปี 4 แต่ ต้องการให้เกิดผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในอุตสาหกรรม ดังนั้น จึงจะมีการกำหนดเงื่อนไขว่า หากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดจะเปิดให้ผู้เล่นรายใหม่ได้รับสิทธิในการผ่อนจ่ายใบอนุญาต 10 ปีอัตราปีละ 10% เพื่อช่วยดึงดูดให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น

4.จะมีการนำเอาคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz เข้ามารวมในการประชาพิจารณ์ในครั้งนี้โดยมองว่าในปี 2572 คลื่นความถี่ในย่านดังกล่าวที่ถูกใช้ในกิจการโทรทัศน์จะสิ้นสุดใบอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมาบอร์ด กสทช.ได้กำหนดไว้แล้วว่าในย่านความถี่ 3500 MHz จะเป็นย่านความถี่ที่ใช้สำหรับกิจการโทรคมนาคม ดังนั้น

การรับฟังความคิดเห็นจะมีการเปิดรับฟังจากผู้ประกอบการทั้งในส่วนของภาคเอกชนโทรคมนาคม และสมาคมทีวีดิจิทัล และผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับย่านความถี่ดังกล่าวด้วย ซึ่งหากจะมีการนำมาประมูลจะมีการประมูลจำนวน 100 MHz

และ 5. ให้สำนักงาน กสทช. ไปคำนวณราคาเริ่มต้นใบอนุญาตใหม่ เนื่องจากในบางความถี่ โดยเฉพาะความถี่ 2100 MHz  ราคาเริ่มต้น 3,391 ล้านบาท และ ความถี่ 2300 MHz ราคาเริ่มต้น 1,675 ล้านบาท ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำเกินไป และไม่สอดคล้องต่อสภาพตลาดที่มีความต้องการใช้คลื่นที่สูงขึ้นอีกทั้ง ในย่าน 2100 MHz ที่เคยประมูล 3G ไปก่อนหน้านี้กลับมีราคาที่สูงกว่านี้มากกว่า 70% แต่ทำไมในการกำหนดราคาเริ่มต้นการประมูลครั้งนี้ถึงได้กำหนดราคาที่ต่ำเกินกว่าเดิมเป็นสิ่งที่สำนักงานต้องไปรับฟังความคิดเห็น สาธารณะ เพิ่มเติมใหม่

นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ด กสทช.ยังมีมติให้สำนักงาน กสทช. ส่งหนังสือเร่งรัดให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที ส่งแผนเยียวยาลูกค้าที่ยังคงเหลือในระบบมาให้พิจารณาให้เร็วที่สุดเพราะในวันที่ 3 ส.ค.68 นี้ ซึ่งความถี่ที่เอ็นทีถือได้แก่ 850 1800 และ 2300 MHz จะสิ้นสุดลง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์