อุปกรณ์ไอทีแพงขึ้น? สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสูง ราคาแล็ปท็อป Acer จ่อเพิ่มขึ้น 10%

อุปกรณ์ไอทีแพงขึ้น? สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสูง ราคาแล็ปท็อป Acer จ่อเพิ่มขึ้น 10%

สหรัฐเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดา - เม็กซิโก และ 10% จากจีน อาจทำให้ราคาสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป และอุปกรณ์ไอทีผันผวน เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น

การออกคำสั่งให้เรียกเก็บ “ภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้า” จากประเทศแคนาดา เม็กซิโก และจีน ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มส่งผลกระทบที่สังเกตได้ในหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐ และทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการเทคโนโลยีที่มีการพึ่งพาการผลิต และซัพพลายเชนจากจีนเป็นหลัก 

คำถามสำคัญที่หลายคนเริ่มกังวลคือ “สมาร์ตโฟน และอุปกรณ์ไอทีที่เราใช้ทุกวัน กำลังจะแพงขึ้นหรือไม่?” 

ภายใต้คำสั่งบริหารที่ออกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 สินค้าจากแคนาดา และเม็กซิโกจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สินค้าจากจีนถูกเก็บภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ทรัมป์ชี้ว่า แนวทางนี้ถือเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้สินค้าบางประเภทเข้ามาในสหรัฐ โดยเฉพาะยาที่อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ 

อย่างไรก็ตาม ภาษีศุลกากรในลักษณะนี้มักมีผลที่ทำให้ “ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น” ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการปรับราคาขายในที่สุด

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดกับไอโฟน และอุปกรณ์ไอที

ประเทศจีนถือเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทอเมริกันอย่าง Apple ที่ใช้โรงงานในจีนเป็นฐานการผลิตหลัก นอกจากนี้ก็ยังมี Dell และ HP อีกด้วย ซึ่งปี 2566 จีนครองสัดส่วนการผลิต และส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังสหรัฐ สมาร์ตโฟนร้อยละ 78, แล็ปท็อป และแท็บเล็ต ร้อยละ 79 

ผลกระทบจากภาษีนำเข้าจะไม่กระทบแค่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงสินค้าราคาถูกอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์ครัว รวมไปถึงสินค้าราคาแพง อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และอะไหล่รถยนต์

ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์บางรายออกมาชี้แจงแล้วว่า ในอนาคตราคาสินค้าของตนอาจปรับตัวสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น Acer ที่แจ้งว่าราคาแล็ปท็อปในตลาดสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อชดเชยภาษีศุลกากรที่ต้องชำระ นอกจากนี้ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ อย่าง Target และ Best Buy ยังเตือนว่าราคาสินค้าต่างๆ อาจขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

สำหรับไอโฟนที่เป็นสินค้าหลักในตลาดสมาร์ตโฟน แม้จะมีการใช้ชิ้นส่วน และการประกอบในจีน แต่ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงแรกราคาขายของไอโฟนอาจไม่ปรับตัวขึ้นทันที เนื่องจากการตั้งราคาของบริษัทเทคโนโลยีมักจะถูกกำหนดล่วงหน้าผ่านสัญญา และแผนการจัดจำหน่ายที่อาจรวมถึงโปรโมชันหรือแผนผ่อนชำระที่ช่วยกระจายภาระค่าใช้จ่ายออกไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

 

แม้ผลกระทบจากภาษีศุลกากรจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น แต่บริษัทผู้ผลิตก็มีแนวทางรับมือ เช่น การกระจายแหล่งการผลิตไปยังประเทศอื่น หรือการเจรจากับซัพพลายเออร์เพื่อปรับเปลี่ยนข้อตกลงการจัดซื้อในระยะยาว เช่น Framework กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีน 

ฮาวเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า ทั้งแคนาดา และเม็กซิโกกำลังพยายามติดต่อและเจรจากับทรัมป์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะปรับปรุงสถานการณ์ให้ดีขึ้น และทรัมป์กำลังรับฟังอย่างตั้งใจ เขาเชื่อว่าประธานาธิบดียุติธรรม และมีเหตุผล และน่าจะหาทางออกร่วมกันได้

ผลกระทบต่อผู้บริโภคไทย

แม้ว่านโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์จะมีผลบังคับใช้เฉพาะในสหรัฐ แต่การเปลี่ยนแปลงของซัพพลายเชน และต้นทุนการผลิตระดับโลก อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าไอทีในไทยด้วย หากบริษัทผู้ผลิตต้องรับภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็นเวลานาน ราคาสินค้าตามร้านค้าในไทยมีสิทธิขยับขึ้นตามกลไกตลาดโลก

กล่าวโดยสรุป การขึ้นภาษีศุลกากรส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายฐานผลิต หรือหาทางลดต้นทุนในรูปแบบอื่น แม้ในช่วงแรกบริษัทอาจเลือกดูดซับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไว้เอง แต่ในระยะยาว ผู้บริโภคอาจต้องเป็นผู้รับภาระเหล่านี้ผ่านราคาสินค้าที่สูงขึ้น

ดังนั้น สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนซื้ออุปกรณ์ไอที โดยเฉพาะสมาร์ตโฟน และแล็ปท็อป ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะแนวโน้มราคาสินค้าอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 

อ้างอิง: Fast fashion, laptops and toys are likely to cost more due to US tariffs on Chinese imports และ Buying a new phone? Why you shouldn’t panic about tariff price hikes

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์