'ดีอี' เผยปิดตายบัญชีม้า 1.5 ล้านบัญชี แจ้งเตือนโมบายแบงก์กิ้ง 1.8 ล้านเบอร์

กระทรวงดีอีเร่งรัดปราบปราม “โจรออนไลน์” อวดผลงานระงับบัญชีม้า กว่า 1.5 ล้านบัญชี แจ้งเตือน Mobile banking แล้ว 1.8 ล้านหมายเลข
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่าในการประชุมได้มีการพิจารณาผลดำเนินการและมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 6 เรื่องสำคัญ ที่มีผลการดำเนินงาน ถึง 31 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยสรุปได้ดังนี้
การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ เดือน มกราคม 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
- การจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทุกประเภทมีจำนวน 2,590 ราย เพิ่มขึ้น 3.81% เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567
- การจับกุมคดีพนันออนไลน์ มีจำนวน 1,083 ราย เพิ่มขึ้น 1.78% เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567
- การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตามพรก.ฯ มีจำนวน 195 ราย ลดลง 18.75% เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567
สำหรับการปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน
กระทรวงดีอี ปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ที่ไม่เหมาะสม (ปีงบประมาณ 68 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มกราคม 2568 ระยะเวลา 4 เดือน)
- การปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 27,134 (URLs) หลอกลวงออนไลน์ 1,007 (URLs) เว็บไซต์ผิดกฎหมายอื่นๆ จำนวน 22,678 (URLs) รวมปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายแล้ว จำนวน 50,819 (URLs)
- การประสานแพลตฟอร์มเพื่อขอปิดกั้น เกี่ยวกับหลอกลวงออนไลน์ มีคำสั่งศาล จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 6,128 (URLs) ไม่มีคำสั่งศาล จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 17,689 (URLs)
ในส่วนการแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงินไปยังมิจฉาชีพ
ผลการดำเนินงานที่สำคัญตั้งแต่ 1 พ.ย.2566 - 31 ม.ค.2568 มีดังนี้
- ระงับบัญชีต้องสงสัย รวมเป็นจำนวนกว่า 1,572,317 บัญชี (AOC จำนวน 317,317 บัญชี ธนาคาร จำนวน 1,255,000 บัญชี)
- ปปง. ทำการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 694,376 บัญชี ( ณ วันที่ 11 ก.พ. 68 โดยจำนวนดังกล่าว เป็นจำนวนบัญชีที่ปปง.อายัด รวมกับบัญชีต้องสงสัยที่ AOC ส่งให้ ปปง.ตรวจสอบและทำการอายัดบัญชี)
การแก้ไขปัญหาซิมม้า และ ซิมม้าที่ผูกกับ Mobile banking
ผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 31 ม.ค. 68 มีดังนี้
- การกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผลการดำเนินงาน มีดังนี้
(1) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ด 101 เลขหมายขึ้นไป โดยมีเลขหมายที่เข้าข่าย 5,078,283 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว จำนวน 4,246,142 เลขหมาย จำนวนที่ถูกระงับ 832,141 เลขหมาย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.พ. 68)
(2) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย ซึ่งมีเลขหมายที่เข้าข่าย 3,981,251 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 2,385,311 เลขหมาย จำนวนที่ถูกระงับ 1,595,940 เลขหมาย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.พ. 68)
- มาตรการยกระดับความปลอดภัย Mobile Banking ชื่อผู้ใช้โทรศัพท์มือถือตรงกับชื่อเปิดบัญชีธนาคาร เริ่มให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้าข่าย จำนวน 3,238,971 ราย
ทั้งนี้ ต้องดำเนินการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2568 มีกำหนดภายใน 90 วัน จนถึงภายในวันที่ 30 เม.ย.2568 โดยธนาคารแจ้งเตือนผู้ที่เข้าข่ายยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารแล้ว จำนวน 1,836,636 ราย เหลืออีกจำนวน 1,402,335 ราย
และการดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
นายประเสริฐ เผยว่า ตามมาตรการ ตัดไฟ สัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และจ.เชียงราย กระทรวงดีอี สำนักงาน กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ปฏิบัติการตามมาตรการระงับเสาสัญญาณโทรศัพท์ในการแก้ไขเสาสัญญาณฯ
โดยให้เป็นไปตามมาตรการฯ ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 24 ต้น อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 8 ต้น อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 10 ต้น การปฏิบัติการตามมาตรการระงับสายอินเทอร์เน็ต พบการเชื่อมต่ออุปกรณ์แปลงสัญญาณเป็น ไฟเบอร์ออฟติกจากบ้านหลังหนึ่งข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวน 1กรณี พบการลักลอบสายไฟเบอร์ออฟติก อำเภอเมือง จ. กาญจนบุรี จำนวน 4 เส้น อำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 1 เส้น