เปิดแผนธุรกิจล่าสุด ‘Meta 2025' ดัน ‘AI’ ติดปีกพลังโซเชียล

Meta โชว์แผนธุรกิจปี 2568 มุ่งพัฒนาเครื่องมือ AI ยกระดับบริการแพลตฟอร์ม ปูทางอนาคตของการโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ปักธงสร้างการเติบโต "วีดิโอ" สนับสนุนครีเอเตอร์
KEY
POINTS
- แนวทางธุรกิจปีนี้มุ่งพัฒนาเครื่องมือ AI ยกระดับบริการแพลตฟอร์ม
- ปักธงสร้างการเติบโต "วีดิโอ" สนับสนุนครีเอเตอร์ เครื่องมือสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทำให้ผู้คนเชื่อมต่อกันผ่านคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น
- ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Meta AI รายเดือนมากกว่า 700 ล้านคน
- ล่าสุด Meta เปิดตัวเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- ติดปีกนักโฆษณาด้วย Opportunity Score, Meta Advantage+, และ Advantage+ Leads,
วันนี้ Meta ยังคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งน่าจับตามองว่าท่ามกลางสถานการณ์ที่โลกเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “AI” กลายเป็นยุทธศาสตร์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ปี 2568 นี้บิ๊กโซเชียลโลกจะมีกลยุทธ์แบบใดขับเคลื่อนออกมาเพื่อยกระดับบริการแพลตฟอร์ม ดึงผู้ใช้งาน แย่ง “เวลา” ของผู้คนบนโลกโซเชียลที่มีการแข่งขันกันดุเดือดจากหลายแพลตฟอร์ม...
นิโคลา เมนเดลซัห์น ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจระดับโลก Meta แสดงทัศนะว่า การพัฒนา AI ซึ่งปีที่แล้วดูน่าตื่นเต้น ปีนี้ยิ่งน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม ส่วนของ Meta เองให้ความสำคัญอย่างมากกับการลงทุนและพัฒนาด้าน AI และเชื่อว่าบริการแพลตฟอร์มของบริษัทมีพลังที่จะเป็นเปลี่ยนแปลงธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
กลยุทธ์ของ Meta วาง AI เป็นโอเพ่นซอร์ส หรือแพลตฟอร์มเปิดเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการพัฒนาที่กว้างและหลากหลายมากที่สุด
เราให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรม การสร้างประโยชน์ให้เกิดในสังคม พร้อมสร้างความมั่นใจว่าคอนเทนต์จาก AI มีความรับผิดชอบ ครอบคลุมความปลอดภัยทั้งส่วนของแบรนด์และคน
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ โอกาสจากเทคโนโลยี Gen AI ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มความหลากหลาย โดยใช้ต้นทุนและทรัพยากรน้อยลง
ปักธงสร้างการเติบโต ‘วีดิโอ’
เมนเดลซัห์น แบ่งปันข้อมูลอัปเดทต่างๆ เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของภาคธุรกิจใน 2568 โดยระบุว่า นอกจากเครื่องมือ AI และการยกระดับเครื่องมือสำหรับนักโฆษณา ปีนี้ Meta เห็นโอกาสที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของ “วีดิโอ”
ต่อยอดจากไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมาซึ่งเวลารับชมวิดีโอทั่วโลกบน Instagram เติบโตขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก ขณะเดียวกันกำลังลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มุ่งวางรากฐานให้แพลตฟอร์มประสบความสำเร็จในระยะยาว
นอกจากนี้ ครีเอเตอร์ยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยจะให้ความสำคัญกับการแนะนำโพสต์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์รายเล็กมีโอกาสถูกค้นพบ รวมถึงเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์มีพื้นที่ทดลองสร้างสรรค์คอนเทนต์ของตนเอง
ที่ผ่านมา เครื่องมือสร้างสรรค์คอนเทนต์เป็นอีกหนึ่งด้านที่ทาง Meta กำลังลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะเปิดตัวแอปใหม่ที่มีชื่อว่า Edits ซึ่งเป็นแอปที่แยกออกมาและมาพร้อมเครื่องมือสร้างสรรค์แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถสร้าง Reels คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้นบนมือถือของพวกเขา
อีกหนึ่งเป้าหมาย คือการทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อกันผ่านคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน Reels ถูกแชร์ซ้ำมากกว่า 4.5 พันล้านครั้งต่อวัน และบริษัทกำลังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ผสานความเป็นโซเชียลและความบันเทิงเข้าด้วยกัน เช่นในสหรัฐที่ได้เปิดตัวจุดหมายใหม่ใน Reels และมีแผนจะขยายฟีเจอร์นี้ไปทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ดันผู้ใช้ ‘Meta AI’ แตะพันล้าน
สำหรับ Threads ปีนี้มุ่งทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนเข้ามาเพื่อติดตามสิ่งที่พวกเขาสนใจ โดยกำลังอัปเดตระบบการแนะนำคอนเทนต์เพื่อให้ความสำคัญกับโพสต์ล่าสุด คัดสรรคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ชั้นนำ และทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะเห็นคอนเทนต์จากบัญชีที่พวกเขาติดตามมากขึ้น มากกว่านั้นเดินหน้าปรับปรุง ฟีดแบบกำหนดเอง (Custom Feeds) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างฟีดส่วนตัวตามหัวข้อที่พวกเขาสนใจได้
ปัจจุบัน Meta AI กำลังขยายการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 700 ล้านคน และตั้งเป้าว่าจะทำให้ถึงหนึ่งพันล้านคนให้ได้ ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดตัวการอัปเดตที่จะช่วยให้ Meta AI สามารถให้คำตอบที่เป็นส่วนตัวและตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น
โดยจดจำรายละเอียดบางอย่างจากคำถามที่ผู้ใช้เคยถามก่อนหน้า และพิจารณาคอนเทนต์ที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์บน Facebook และ Instagram เพื่อพัฒนา AI ให้เข้าใจความสนใจและความชอบของผู้ใช้ได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ที่ยังคงให้ความสำคัญคือการต่อต้านการฉ้อโกงและหลอกลวงต่างๆ โดยทาง Meta ได้วางมาตรฐานชุมชนไว้อย่าง มีการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยาญทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการใช้กฎหมายจัดการ ซึ่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจัดการนำบัญชีออกไปกว่าสองล้านบัญชี
ธุรกิจ ‘โต’ ทุกแพลตฟอร์ม
ข้อมูล ณ สิ้นปี 2567 มีจำนวนผู้ใช้งานแอปต่างๆ ภายในเครือของ Meta อย่างน้อยหนึ่งแอปเป็นจำนวน 3.3 พันล้านคนต่อวัน จำนวนผู้ใช้งานประจำวันของ Facebook, Instagram และ WhatsApp ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ส่วนของ ตัวจัดการโฆษณา (Ads) พบว่าเครื่องมือโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Meta สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนโฆษณาสูงกว่า 4 เท่าให้กับแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีแบรนด์และผู้ลงโฆษณาบน Meta เกือบทั้งหมดกำลังใช้งานเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Meta อย่างน้อยหนึ่งเครื่องมือ
ขณะที่ การใช้งานแคมเปญ Advantage+ shopping ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้เติบโตถึง 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YOY) ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567
ปัจจุบันมีแบรนด์และผู้ลงโฆษณามากกว่า 4 ล้านรายที่ใช้เครื่องมือสร้างครีเอทีฟโฆษณาด้วย Generative AI ของ Meta อย่างน้อยหนึ่งเครื่องมือ ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านรายเมื่อหกเดือนที่แล้ว ทั้ง Meta ยังคงเห็นการใช้งานเครื่องมือโฆษณาด้วย Gen AI ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ขณะที่ Threads มีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 320 ล้านคน และมีผู้สมัครใช้งานใหม่มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน มีการคาดการณ์ว่า Threads จะก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มสนทนาชั้นนำและมีผู้ใช้งานถึง 1 พันล้านคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ส่วน วิดีโอ ไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 เวลาในการรับชมวิดีโอทั่วโลกบน Instagram เติบโตในระดับสองหลักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย Reels มีการแชร์ต่อมากกว่า 4.5 พันล้านครั้งต่อวัน
ดันเครื่องมือ AI ติดปีกนักโฆษณา
Meta ประกาศเปิดตัวเครื่องมือใหม่หลายรายการ เพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ผ่านเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยภายในเดือนก.พ.นี้ Meta จะเริ่มทยอยปล่อยเครื่องมือและประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แบรนด์ ธุรกิจและผู้ลงโฆษณาได้ทดลองใช้ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
ไฮไลต์เช่น Opportunity Scoreโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาแบบสูงสุด เครื่องมือใหม่ซึ่งแสดงออกมาในรูปแบบของ “คะแนน” ช่วยระบุโอกาสและให้คำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาใน Ads Manager แบบเรียลไทม์ ซึ่งจากการนำไปปรับใช้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพบว่า ต้นทุนต่อผลลัพธ์ลดลงโดยเฉลี่ย 5%
นอกจากนี้ยังมี การตั้งค่าแคมเปญ Meta Advantage+ รูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้วย AI (AI-optimization) ได้มากขึ้น
รวมถึง แคมเปญ Advantage+ Leads สำหรับการทำแคมเปญอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ (full campaign automation) โดยผู้ลงโฆษณาสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้ม (leads) ที่มีคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI
ผลการทดสอบในช่วงแรกแสดงให้เห็นผลลัพธ์เชิงบวก โดยแคมเปญ leads ที่เปิดใช้ Advantage+ มีต้นทุนต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้ม (cost per lead) ต่ำกว่าแคมเปญที่ปิด Advantage+ โดยเฉลี่ย 14%
Meta มีความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ลงโฆษณา โดยเชื่อว่า AI มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมวิธีการที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ในการทำโฆษณา ด้วยเครื่องมือใหม่เหล่านี้ เรากำลังเปิดโอกาสให้ผู้ลงโฆษณาจำนวนมากขึ้นสามารถเข้าถึงและทดลองใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI (AI-driven optimization) และคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละแบรนด์