MVNO ไทยจะไปทางไหน? 'เอ็นที' จ่อลอยแพคู่สัญญาอ้างแบกต้นทุนไม่ไหว

MVNO ไทยจะไปทางไหน? 'เอ็นที' จ่อลอยแพคู่สัญญาอ้างแบกต้นทุนไม่ไหว

'เอ็นที' ถอยสุดทางหลังแบกภาระหนี้โรมมิ่ง MVNO เตรียมปล่อยมือคู่สัญญา หลังไลเซ่นหมดอายุส.ค.นี้แล้ว ระบุไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ของ กสทช.หากไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาสนับสนุน

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที กล่าวว่า ในเดือนส.ค.นี้ เอ็นทีจะสิ้นสุดใบอนุญาตการถือครองคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์จำนวน 2x15 เมกะเฮิรตซ์ คลื่น 1500 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 91 เมกะเฮิรตซ์ และคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 60 เมกะเฮิรตซ์

ดังนั้น เอ็นทีจึงตัดสินใจถอนตัวจากตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนโครงข่ายเสมือน (MVNO) และไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หากไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาสนับสนุน

โดยปัจจุบันผู้ให้บริการ MVNO หลายรายขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงไม่สามารถชำระค่าบริการให้เอ็นทีได้ ประกอบกับต้นทุนค่าโรมมิ่งที่สูง กระทบความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ลูกค้า MVNO ของเอ็นทีมีอยู่หลักแสนราย ขณะที่มีผู้ให้บริการอยู่ 5 ราย กสทช. มีหน้าที่ทำให้ MVNO อยู่รอด และหากต้องการให้เอ็นทีช่วยผลักดัน กสทช.จำเป็นต้องออกกฎระเบียบ เพื่อควบคุมอัตราค่าโรมมิ่งให้เป็นธรรม คล้ายกับอัตราค่าบริการเชื่อมต่อโครงข่าย (IC)

นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจ MVNO ภายใต้โครงสร้างของบมจ.ทีโอทีและบมจ.กสท โทรคมนาคมเดิม ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากต้นทุนค่าโรมมิ่งที่สูง ขณะที่ เอ็นทีเองไม่มีคลื่นความถี่รองรับหากไม่ต่อใบอนุญาต ทำให้ผู้ให้บริการ MVNO ต้องเร่งหาทางออก โดยพึ่งพาผู้บริการเครือข่ายอื่น

แม้หลายฝ่ายมองว่า MVNO เป็นคู่แข่งของผู้ให้บริการเครือข่ายหลัก แต่แนวคิดใหม่ที่ที่ปรึกษาต่างประเทศเสนอ คือ ผู้ให้บริการมือถือและบริการข้อมูลแบบขายส่งแก่ธุรกิจต่างๆ (MVNA) ซึ่งอาจเป็นโมเดลที่ช่วยให้ MVNO สามารถดำเนินธุรกิจได้ โดยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) อย่าง PINK MVNO ก็กำลังเข้ามา โดยเน้นเจาะกลุ่ม LGBTQ ที่มีกำลังซื้อสูง

"ยอมรับว่า ต้นทุนค่าโรมมิ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ MVNO อยู่รอดได้ยาก แต่ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมาย การกำกับอัตราเพดานค่าโรมมิ่งยังไม่สามารถทำได้โดยตรง ทำให้ต้องปล่อยให้เป็นการเจรจาทางธุรกิจ นี่คือความท้าทายของ กสทช. เรากำกับดูแลก็จริง แต่เมื่อตลาดเป็นเชิงพาณิชย์ การแทรกแซงอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง"

อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 ก.พ.68 กสทช. เตรียมนำโมเดล MVNA ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล พร้อมถกแนวทางการรักษาสมดุลระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายหลักและ MVNO รายย่อย