เจาะ 9 ปีไมล์สโตน “ดีป้า” จุดพลุหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนสร้างคนดิจิทัล
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ.2560 โดยในปีนี้มีภารกิจหลักด้วยการปั้นคนไอที-ดิจิทัล ผ่านโครงการ หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา (One District One Scholarship)
ผ่านมาวันนี้ครบรอบ 8 ปี พร้อมก้าวขึ้นสู่ปีที่ 9 ดีป้า บนถนนเส้นทางสู่โอกาสใหม่ของประเทศไทย โดยการผสานสิทธิประโยชน์ทางภาษี และสิ่งที่ไม่ใช่ภาษี อาทิ บัญชีบริการดิจิทัล หวังเป็นกลไกยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทยที่มีการรวบรวมสินค้า และบริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างทรัพยากรสำคัญอย่าง ‘คน’ ผ่านการอัปสกิล รีสกิล และนิวสกิล และการดึงดูดกำลังคนดิจิทัลสาขาขาดแคลนเข้าสู่ประเทศ
ปั้น 9 อาชีพทักษะดิจิทัล
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยถึงแผนการขับเคลื่อนองค์กรปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่ 9 ของดีป้า ว่า โครงการหลักๆ ในปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาทักษะดิจิทัล , การสนับสนุนสตาร์ตอัปหน้าใหม่ , โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (OTOD) รวมถึงโครงการใหม่ ODOS (One District One Scholarship) หรือ หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา
โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัล ปีนี้จะเน้นการสร้างทักษะ และอาชีพสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ให้มีบุคลากรที่เงินเดือนไม่สูง ขณะเดียวกันก็จะเกิดการสร้างอาชีพใหม่ๆ อาทิ อาชีพฟรีแลนซ์ สำหรับการทำแอนิเมชัน การใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI สร้างแอนิเมชัน การสร้างคาแรกเตอร์ เป็นต้น
ซึ่งจะเป็นการดำเนินการผ่าน 9 หลักสูตรจากต่างชาติเพื่อสร้าง 9 อาชีพดิจิทัล ได้แก่ อุตสาหกรรมเกม,อุตสาหกรรมแอนิเมชัน,ดิจิทัลฟาร์มเมอร์,ดิจิทัล อินฟลูเอนเซอร์,นักจัดการงานด้านดิจิทัล,นักจัดการข้อมูลดิจิทัล และผู้ประกอบการดิจิทัล
โหมสตาร์ตอัป Deep Tech
ขณะที่การสนับสนุนสตาร์ตอัป ในปีนี้ จะเป็นรูปแบบการส่งเสริมให้เกิดสตาร์ตอัปดีพเทคหน้าใหม่ เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ในตลาดสตาร์ตอัปไม่มีหน้าใหม่เกิดขึ้น ทำให้ระบบเศรษฐกิจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
จากเดิมที่ดีป้าให้ทุน 1 ล้านบาท กับ 5 ล้านบาท ก็จะเพิ่มเติมการให้ทุนสตาร์ตอัปหน้าใหม่ทุนละ 200,000 บาท จำนวน 200 ทุน แต่ต้องเป็นการเสนอแผนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ อาทิ กูเกิล หัวเว่ย และเอดับบลิวเอส เป็นต้น
รวมถึงต้องมีพันธมิตรที่เป็นบริษัทด้านการเงิน และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คือ ดีป้า และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ เอ็นไอเอด้วย ตั้งเป้าสำเร็จจนสร้างธุรกิจใหม่เข้าระบบ 10% เพื่อต่อยอดรับทุนจากดีป้าระดับ 1 ล้านบาท และ 5 ล้านบาทต่อไปได้อีก
“เมื่อปี 2560 เราเคยทำแล้ว แต่กลายเป็นว่า ธุรกิจออกมาไม่ได้ เจ๊ง สตาร์ตอัปบางรายก็ทำแค่ไปตกเงินจากภาครัฐ และเผาเงิน และก็มาขอใหม่ ดังนั้นครั้งนี้คนที่มาขอทุนต้องมาเสนอแผนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ และต้องสอนเรื่องจริยธรรมในการใช้เงินทำธุรกิจควบคู่ไปด้วย”
นายณัฐพล กล่าวว่า โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (OTOD) ไม่ว่าจะเป็นโครงการทุนเรียน,โครงการชุมชนโดรนใจ และโครงการโค้ดดิ้งภาคการศึกษา ก็จะต้องมีการนำเสนอแผนก่อนเข้าร่วมโครงการด้วย จะไม่มีการให้เงินเปล่าเหมือนปีที่ผ่านมา
ลุยหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษา
เขากล่าวว่า ในปีนี้ดีป้าจะเป็นเจ้าภาพดำเนินโครงการใหม่ ODOS (One Dicstrict One Scholarship) หรือ หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุนการศึกษา เป็นโครงการใหม่ของรัฐบาลที่ดีป้าจะเข้าไปขับเคลื่อน โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครเดือนมี.ค.2568 โดยให้ทุน 928 ทุน กับ 878 อำเภอ และ 50 เขตในกรุงเทพฯ
โดยดีป้าจะมีพี่เลี้ยง 1 คน ต่อนักเรียน 50 คน ในการพาไปซัมเมอร์แคมป์ กับ 13 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สวีเดน ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินเดีย โดยผู้ปกครองที่ร่วมโครงการสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษี 100 % ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อประกาศต่อไป
ปูพรมดิจิทัล สกิล โรดแมป
ผอ.ดีป้า เสริมว่า เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เรียนรู้ทักษะด้านดิจิทัล ผ่านแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทัลคนไทยทุกกลุ่มทุกช่วงวัย หรือ ดิจิทัล สกิล โรดแมป ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยี 5G ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้เกิด Digital Talent ในทุกอำเภอทั่วประเทศ รวมถึงการส่งเสริมการจ้างงาน และการพัฒนาทักษะผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่การเป็น A New Paradise of Global Technology and Supply Chain เพื่อดึงให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเข้ามาลงทุนในประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ควบคู่ไปกับการมุ่งยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศผ่านการขับเคลื่อนประเทศไทยในรูปแบบใหม่ด้วยการส่งเสริม และสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ตอัปสัญชาติไทย พร้อมเติมเต็มศักยภาพคนไทย ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมให้มีความพร้อมรองรับทุกโอกาสในอนาคต
ช่วยแบ่งเบาภาระทางภาษี
สำหรับองค์กรธุรกิจที่ส่งพนักงานฝึกอบรมในหลักสูตรดิจิทัลที่ดีป้า และเครือข่ายพันธมิตรให้การรับรองสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 250% นอกจากนี้ ยังสามารถหักค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 150% ของเงินเดือน 12 เดือนแรกของผู้จบการศึกษาด้านดิจิทัล ขณะที่ประชาชนทั่วไป ดีป้าช่วยแบ่งเบาภาระทางภาษี
โดยประชาชนสามารถนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับดิจิทัล วงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาทมาหักค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2568 ได้ 100% พร้อมกันนี้จะอุดหนุนค่าใช้จ่าย 70% สำหรับการพัฒนาทักษะดิจิทัลของนักเรียน นักศึกษา ผู้จบการศึกษา หรือผู้ว่างงานอีกด้วย
ทั้งนี้ การลดหย่อนภาษี 250% และ 150% ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้ว ส่วนการลดหย่อนของประชาชนทั่วไปเตรียมเสนอเข้า ครม. เร็วๆ นี้ด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
