AI เพื่อความบันเทิงนำโด่ง! เทเลนอร์ เอเชีย มองตลาดไทยผู้นำในภูมิภาค

AI เพื่อความบันเทิงนำโด่ง! เทเลนอร์ เอเชีย มองตลาดไทยผู้นำในภูมิภาค

เทเลนอร์ เอเชีย เผยประเทศไทยเชื่อถือใน AI มากที่สุดในภูมิภาค พฤติกรรมผู้บริโภคขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล จากยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ระบุโดยเฉลี่ยแล้ว คนไทยใช้เวลาออนไลน์เกือบ 5 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่าค่าเฉลี่ยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายงาน ‘Digital Lives Decoded 2024" ของประเทศไทย ฉบับล่าสุดของ เทเลนอร์ เอเชีย (Telenor Asia) เผยถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและทัศนคติด้านดิจิทัลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งจัดทำขึ้นโดย GlobalWebIndex (GWI) บริษัทที่ดำเนินงานวิจัยด้านผู้บริโภคระดับโลก โดยรายงานครั้งนี้สะท้อนถึงอิทธิพลของการใช้โทรศัพท์มือถือที่ส่งผลต่อการหล่อหลอมวิถีการใช้ชีวิตที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้นในประเทศไทย

มานิช่า โดกรา รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กรและความยั่งยืนของเทเลนอร์เอเชีย กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมาเทเลนอร์ เอเชีย ได้เป็นส่วนหนึ่งช่วยสร้างความก้าวหน้าในภูมิภาคด้วยการเชื่อมต่อและบริการดิจิทัลสำหรับลูกค้ามากกว่า 200 ล้านราย ให้บริการใน 4 ประเทศ ได้แก่ บังคลาเทศ มาเลเซีย ปากีสถาน และไทย 

สำหรับประเทศไทยเองนั้น ปีนี้เป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วที่เทเลนอร์ เอเชีย ให้ควาทสำคัญเพื่อขยายการเข้าถึงนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิต และผลักดันวาระดิจิทัลระดับชาติด้วยความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ และช่วยการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมือถือและศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงของจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างมีนัยยะสำคัญ

ไทยแชมป์ชั่วโมงออนไลน์

โดกรา เผยว่า จากผลการวิจัยจากรายงาน ได้มีการเน้นย้ำถึงโอกาสมากมายที่ AI นำมาสู่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยส่วนบุคคลไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าวงการการศึกษาและบันเทิง ในขณะที่เราเดินหน้าไปสู่ภูมิทัศน์ที่น่าตื่นเต้นนี้ สิ่งสำคัญคือต้องให้ความรู้และเครื่องมือแก่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยเพื่อใช้ประโยชน์จาก AI ขณะเดียวกันเสริมเกราะความปลอดภัยด้านดิจิทัลของพวกเขาอีกด้วย

ทั้งนี้ พบว่า AI กำลังก้าวขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับวิถีชีวิตที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และเชื่อมต่อกันมากขึ้นในประเทศไทย ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยเกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พวกเขาตื่นเต้นมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยการใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 4.59 ชั่วโมงต่อวันมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 4.35 ชั่วโมง และ ที่น่าสนใจคือ คนรุ่นเก่า อย่าง (Gen X และ Baby Boomers) แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับ AI มากกว่าคน Gen Z และ Millennials AI เพื่อความบันเทิงนำโด่ง! เทเลนอร์ เอเชีย มองตลาดไทยผู้นำในภูมิภาค

77% ใช้งาน AI เพื่อความบันเทิง

ทั้งนี้ การตื่นตัวของคนต่อ AI ในประเทศไทยนั้นชัดเจนอย่างมาก โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 77% ใช้เครื่องมือ AI อยู่แล้ว ในแง่ของการใช้งาน AI เพื่อความบันเทิงเป็นอีกหนึ่งด้านที่ผู้คนให้ความสำคัญ โดยมากกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามใช้ AI สำหรับโซเชียลมีเดีย และเกือบ 40% มีส่วนร่วมกับ AI บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 

แม้ว่า 85% เชื่อว่า AI จะส่งผลดีต่อการศึกษาในประเทศไทย อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสมากมายของ AI มีอิทธิพลเชิงบวกอย่างมากในที่ทำงานแต่ยังไม่ได้มีการค้นพบวิธีปรับใช้อย่างที่เป็นรูปธรรมมากนัก

เพียง 1 ใน 5 ใช้เพื่อการทำงาน

ปัจจุบันประเทศไทยยังตามหลังตลาดอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการใช้เครื่องมือ AI ในสถานที่ทำงาน โดยมีอัตราเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่ใช้ AI เพื่อการทำงาน เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งการทำงานเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานมากที่สุด โดยผู้ที่ใช้ AI เพื่อทำงานนั้นมีแนวโน้มสูงกว่าผู้ที่ไม่เชื่อว่า AI จะส่งผลบวกต่อความมั่นคงในการทำงานถึง 13% 

นอกจากนี้ พวกเขายังมีแนวโน้มสูงกว่า 43% ที่จะเชื่อถือในข้อมูลที่สร้างโดย AI โดยเฉพาะจากแชทบอตของ AI อีกด้วย และผู้มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้ AI ในที่ทำงานมากกว่า 21% และมีมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับการใช้ AI เนื่องจากมีการนำ AI มาใช้ในสถานที่ทำงานเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อส่วนอื่นๆ ของสังคมด้วย

แลกความสบายกับความเป็นส่วนตัว

ผลวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า แม้ในยุคที่อุปกรณ์ต่างๆ มีการนำ AI เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งโทรศัพท์มือถือช่วยให้ผู้คนในประเทศไทยสามารถเข้าถึงข่าวสารล่าสุดพร้อมรับความบันเทิงได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ โอกาสทางการศึกษา และเสริมชุมชนที่รู้ทันโลก ปลอดภัย และเชื่อมต่อกันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้คน 3 ใน 4 หรือ 75% รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนทางออนไลน์ได้ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอยู่ที่ 68% การหลอกลวงทางการเงินและการขโมยข้อมูลส่วนตัวยังเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ ในประเทศไทย 

โดยอย่างน้อย 1 ใน 2 ของกลุ่มคนยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นประชาชนในประเทศไทยยังคงมั่นใจในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตนทางออนไลน์ และมีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะกังวลเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทต่างๆ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้

อัตราของประชากรไทยนั้นมีค่อนข้างสูงที่เชื่อใจเว็บไซต์ที่ตนใช้งานในแง่ของการที่เว็บไซต์เหล่านั้นจะสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้ โดยมีมากถึงกว่า 38% เทียบกับเพียง 21% ในประเทศสิงคโปร์ และมีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาเพื่อแลกกับข้อเสนอและบริการส่วนบุคคล 

สิ่งเหล่านี้เน้นย้ำถึงความย้อนแย้งในด้านของความเป็นส่วนตัวทั่วไป อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้คนแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว แต่พวกเขาไม่ยอมที่จะละทิ้งความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันโดยที่ยอมจำนนต่อการเสียความเป็นส่วนตัวบางส่วน

ช่วยสร้างทักษะรู้ทันภัยไซเบอร์

เธอ เสริมว่า คนไทยยังมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับ AI และสิ่งที่ AI สามารถเสริมการใช้ชีวิตที่รู้ทันโลกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยคนไทยตระหนักถึงการที่ AI สามารถช่วยให้เราทุกคนรู้ทันโลกและปลอดภัยมากขึ้น โดย 6 ใน 10 ของคนรู้สึกตื่นเต้นกับความสามารถที่เป็นเลิศของ AI และเชื่อว่าอุปกรณ์มือถือของพวกเขาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผนวกการใช้งานกับ AI แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจก็คือ 

แม้แต่ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลก็มีมุมมองที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับประสิทธิภาพและรู้สึกตื่นเต้นกับประโยชน์มากมายของ AI โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 51% กล่าวว่าพวกเขาคาดหวังว่าอุปกรณ์มือถือที่ขับเคลื่อนโดย AI จะมอบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มเกราะป้องกันด้านข้อมูลส่วนตัวที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น