AWS เล่นใหญ่ 're:Invent 2024' เขย่าสมรภูมิ ‘คลาวด์ - Gen AI’
วนมาอีกครั้งสำหรับ AWS re:Invent 2024 อีเวนต์ใหญ่ประจำปีของ “อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส” หรือ “เอดับบลิวเอส” ในเครือ Amazon.com ที่มาพร้อมการอัปเดตใหม่ๆ ระดับ “เรือธง”
KEY
POINTS
- AWS re:Invent 2024 อีเวนต์ใหญ่ประจำปีที่มาพร้อมการอัปเดตใหม่ๆ ระดับ “เรือธง”
- เร่งเครื่องบริการ "คลาวด์" เดินเกมปฏิวัติวงการ "Generative AI"
- เอดับบลิวเอส “Invent” เพื่อเปิดทางให้ลูกค้า “reinvent”
- Building Blocks มีด้วยกัน 4 แกนหลักคือ Compute, Storage, Database และ Inference
- ซิเคียวริตี้สำคัญที่สุด “Everything starts with security”
- มองอาเซียนมีโมเมนตัมที่น่าสนใจโดยเฉพาะการลงทุน AI และ GenAI
- เอดับบลิวเอสมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทย และยืนยันว่ามีแผนการลงทุนในระยะยาว
วนมาอีกครั้งสำหรับ AWS re:Invent 2024 อีเวนต์ใหญ่ประจำปีของ “อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส” หรือ “เอดับบลิวเอส” ในเครือ Amazon.com ที่มาพร้อมการอัปเดตใหม่ๆ ระดับ “เรือธง”
เช่นเคยครั้งนี้ได้รวบรวมผู้บริหารจากเทคคอมพานีชั้นนำระดับโลก ลูกค้า พันธมิตร รวมถึงชุมชนนักพัฒนา นำเสนอปาฐกถาสำคัญ เซสชันทางเทคนิค การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และโอกาสในการสร้างเครือข่ายในแวดวงเทคโนโลยีระดับโลก
แมตต์ การ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอดับบลิวเอส ขึ้นเวทีกล่าวคีย์โน้ตโดยแสดงวิสัยทัศน์ว่า แนวทางธุรกิจของเอดับบลิวเอสยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนลูกค้าทุกราย
การ์แมนย้ำว่า เอดับบลิวเอส “Invent” เพื่อเปิดทางให้ลูกค้า “reinvent” ได้ ภายใต้ “Building Blocks” ของบริษัทซึ่งมีด้วยกัน 4 แกนหลักคือ Compute, Storage, Database และ Inference
วิสัยทัศน์นี้เน้นย้ำถึงวิธีการที่เอดับบลิวเอสกำลังคิดค้นองค์ประกอบพื้นฐานใหม่ๆ ตลอดจนการพัฒนาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับลูกค้า และพันธมิตร ด้วยสิ่งที่พวกเขาต้องการเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า
การขับเคลื่อนธุรกิจของเอดับบลิวเอสจะอยู่ภายใต้แนวทางการพัฒนาที่ใหม่และเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่น่าตื่นเต้น ตอบโจทย์ มีทางเลือกที่หลากหลาย ให้ประสิทธิภาพสูง ทว่าเป็นราคาที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน
เดินเกมปฏิวัติวงการ GenAI
เขากล่าวว่า Generative AI มีศักยภาพที่จะดิสรัปทุกอุตสาหกรรม ไฮไลต์ที่น่าสนใจในงานครั้งนี้เอดับบลิวเอสได้มีการอัปเดตความสามารถใหม่ๆ ใหักับผลิตภัณฑ์ระดับเรือธง และความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งการเสริมพลังให้กับ “Amazon Bedrock” ด้วย AI Safeguard รุ่นแรกของอุตสาหกรรม ความสามารถใหม่ของเอเจนต์ และการปรับแต่งโมเดล ฟีเจอร์ใหม่จำนวนมากซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมเผชิญเมื่อย้ายแอปพลิเคชัน GenAI ไปใช้งานจริง พร้อมเปิดโอกาสการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำระดับสูง
นอกจากนี้ยังมี “Amazon SageMaker” รุ่นใหม่ที่รวมแพลตฟอร์มสำหรับข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI ในที่เดียว เช่น การวิเคราะห์ SQL ความเร็วสูง การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ระดับเพตะไบต์ การสำรวจและผสานข้อมูล การพัฒนา และฝึกโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงและGenAI
รวมถึง “Amazon Q Developer” ที่จะเข้ามาปฏิวัติวิธีการสร้าง และจัดการซอฟต์แวร์ด้วย Gen AI พร้อมเปิดตัว “Amazon Nova” ก้าวถัดไปในเส้นทาง AI ของเอดับบลิวเอส โมเดลพื้นฐานรุ่นใหม่ที่รองรับการประมวลผลข้อความ ภาพ และวิดีโอ (Prompts) ซึ่งลูกค้าสามารถใช้แอป Gen AI ที่ขับเคลื่อนด้วย Nova เพื่อวิเคราะห์วิดีโอ กราฟ และเอกสาร หรือสร้างสื่อวิดีโอ และมัลติมีเดียต่างๆ
บริษัทยังมีแผนการลงทุนมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านดอลล์เพื่อสนับสนุนสตาร์ตอัป และครั้งนี้ยังมีแขกรับเชิญที่เรียกเสียงฮือฮาเป็นเซอร์ไพรส์คามิโอร่วมขึ้นเวทีอย่าง “แอนดี้ แจสซี่” ซีอีโอของอะเมซอน และผู้บริหารของแอปเปิ้ล “เบอนัวต์ ดูแปง” ผู้อำนวยการอาวุโส แมชชีนเลิร์นนิง และ AI
ที่ผ่านมา มีหลายเหตุผลที่ลูกค้าเลือกเอดับบลิวเอส ทว่าที่สำคัญที่สุดคือ “ซิเคียวริตี้” เพราะที่เอดับบลิวเอส “Everything starts with security” ตั้งแต่การออกแบบ กระทั่งในทุกๆ เลเยอร์ของผลิตภัณฑ์ และการให้บริการโซลูชัน
เพิ่มโมเมนตัม ‘ดิจิทัล’
เจฟฟ์ จอห์นสัน กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียน เอดับบลิวเอส แสดงทัศนะว่า ภูมิอาเซียนมีโมเมนตัมที่น่าสนใจอย่างมากของการปรับใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI และ GenAI
เอดับบลิวเอสมีมุมมองว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศักยภาพการเติบโตสูง จากหลายปัจจัยบวกทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล จำนวนประชากร รวมถึงสัดส่วนการใช้งานดิจิทัล
นอกจากนี้ โอกาสทางการตลาดน่าสนใจ จากประชากรในภูมิภาคจำนวนกว่า 680 ล้านคน สัดส่วน 61% อยู่ในวัยต่ำกว่า 35 ปี มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้เทคโนโลยี ทั้งยังเป็นตลาดที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเติบโตสูง นำมาซึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาทางเทคโนโลยี
ที่ผ่านมา เอดับบลิวเอสได้เข้ามาลงทุนเอดับบลิวเอสรีเจียนในหลายประเทศทั่วภูมิภาค ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตให้ธุรกิจ รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล อย่างในประเทศไทย ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลก “AWS Asia Pacific (Bangkok) Region” ด้วยเงินลงทุนมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.9 แสนล้านบาทในระยะเวลา 15 ปี
พร้อมกันนี้ มีอีโคซิสเต็มที่พร้อมสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตร โดยจะโฟกัสใน 3 แกนหลักเพื่อสร้างอนาคตดิจิทัลคือ การสร้างความมั่นคงปลอดภัย ความครอบคลุม และความยั่งยืน
สานแผนลงทุน ‘อาเซียน’
จอห์นสันเผยว่า เอดับบลิวเอสมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อปลดล็อกศักยภาพของอาเซียน สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างความยั่งยืน และเสริมสร้างทักษะให้คนในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี การพิจารณาลงทุนจะโฟกัสถึงความต้องการของตลาด และการใช้งานจริงของลูกค้า โดยบริษัทมีคอมมิตเมนท์ที่จะสนับสนุนลูกค้า พันธมิตร และจะทำงานเพื่อผลักดันการเติบโตในระยะยาว
ต่อคำถามที่ว่า มีความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียนหรือไม่ จอห์นสัน เผยว่า ไม่ได้รู้สึกกังวล และทางเอดับบลิวเอสจะยังคงเดินหน้าตามแผนงานเดิม รวมถึงขยายการลงทุนในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
นอกจากองค์กรขนาดใหญ่ ให้ความสำคัญกับธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อรองรับการใช้งานคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมข้อเสนอที่คุ้มค่ากับการลงทุน รวมถึงขยายการเข้าถึงเทคโนโลยี เช่น LLM GenAI และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยต่างๆ ที่มีในอุตสาหกรรม
มั่นใจจุดยืน ‘แข็งแกร่ง’
สำหรับการสร้างจุดต่าง เอดับบลิวเอส เชื่อมั่นในจุดยืนที่แข็งแกร่งจากประสบการณ์ในธุรกิจอินเทอร์เน็ตที่ยาวนานกว่า 17 ปี ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีทางลัดหรือกระบวนการใดๆ ที่จะเร่งให้เกิดได้
ขณะเดียวกัน มีจุดแข็งด้านซิเคียวริตี้ รวมถึงทิศทางธุรกิจที่ชัดเจนที่วางเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญในการให้บริการ มากกว่านั้นการทำตลาดระดับท้องถิ่นมีศูนย์การออกแบบที่สามารถให้คำปรึกษาได้ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้า
ที่ผ่านมา บริการมากกว่า 90% ถูกพัฒนาจากคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะของลูกค้า และจากนี้จะยังคงรักษาจุดยืนด้านการพัฒนานวัตกรรมนี้ไว้
โดยมีความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญสูงสุด และที่ขาดไม่ได้คือ การพัฒนาบริการให้มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับความต้องการ ยูสเคส และโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้าได้ในทุกมิติ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม
จากข้อมูลของไอดีซี พบว่า การใช้จ่ายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาค (ไม่รวมญี่ปุ่น) มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 12% ต่อปี ส่วนของเอดับบลิวเอสเองมีบริการด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมกว่า 300 รายการ
เชื่อมั่นศักยภาพ ‘ไทย’
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย เอดับบลิวเอส เผยว่า จากบิวดิ้งบล็อกทำให้เห็นภาพของเอดับบลิวเอสที่ให้ความสำคัญในหลายๆ ส่วน รวมถึงความก้าวหน้าใหม่ๆ ของ GenAI
ตอบโจทย์ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมด้านอินฟราสตรักเจอร์ ทำให้องค์กรสามารถเทรนด์โมเดลได้เองในราคาที่ถูกลง มีแมเนจเซอร์วิส แอป รวมถึงแพลตฟอร์มสำหรับนำไปต่อยอดได้
สำหรับการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เน้นจากมุมมองของลูกค้าเป็นตัวตั้งต้น นำเสนอทางเลือกที่ไม่ต้องยึดติดกับโมเดลใดโมเดลหนึ่ง เป็นโมเดลที่ดี ราคาเข้าถึงได้
นอกจากนี้ ด้วยโมเดลใหม่ๆ ที่ราคาถูกลงจะทำให้ต้นทุนของการพัฒนาเป็นไปได้มากขึ้น มีทางเลือกมากขึ้นในการเทรนด์โมเดล และการพัฒนาแอป จากแต่ก่อนลูกค้ามักมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ
เราจะมีทางเลือกการใช้งาน ราคา และประสิทธิภาพที่ลูกค้าต้องการ ทำให้ไอทีเข้าถึงได้ รวมถึงทำให้ GenAI เข้าถึงได้สำหรับทุกองค์กร คาดว่าปี 2568 จะถึงจุดที่ GenAI ถูกนำไปใช้จริง และเป็นการใช้เพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้า ไม่ใช่เพียงงานภายในองค์กรเท่านั้น
ด้านการโฟกัสการทำตลาด ไม่ได้ตั้งโจทย์เรื่องเทคโนโลยีเป็นอันดับแรก แต่เป็นเน้นตอบโจทย์ลูกค้ารายอุตสาหกรรม ราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้าถึงครอบคลุม
นอกจากนี้ เน้นเทคโนโลยีแบบมาตรฐานเปิด พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้เล่นรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรม เปิดกว้างโดยไม่ต้องผูกติดกับค่ายใดค่ายหนึ่ง
เอดับบลิวเอส ยังคงยึดมั่นในปรัชญาที่จะทำให้คลาวด์สามารถเข้าถึงได้ในทุกองค์กร ตั้งแต่สตาร์ตอัป เอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยทางเลือกลงทุนแบบออนดีมานด์ที่ตรงกับโจทย์ธุรกิจ
สำหรับประเทศไทย ยังคงมีความมั่นใจในศักยภาพของประเทศที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าบริษัทมีแผนการลงทุนระยะยาว ไทยเองหากต้องการสร้างให้ประเทศดึงดูดการลงทุนได้มากขึ้น หลักๆ ต้องมองเรื่องการผลักดันการใช้งานดิจิทัลของทั้งภาครัฐ และเอกชน ยิ่งเติบโตได้เร็วการลงทุนยิ่งเข้ามา อีกทางหนึ่งเป็นการสร้างศักยภาพของประเทศด้วย
น่าจับตามองว่า หลังจากนี้ทางเอดับบลิวเอสจะทำได้ดีแค่ไหนในสมรภูมิ Generative AI ที่ในวันนี้ และนับจากนี้ได้กลายเป็นสนามการแข่งขันที่แสนดุเดือด และกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่กำหนดนิยามใหม่ๆ ใน Tech Landscape...
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์