‘สมาร์ตโฟน’ นวัตกรรมเดียว ที่ทำให้หลายสิ่งต้องหายไป

‘สมาร์ตโฟน’ นวัตกรรมเดียว ที่ทำให้หลายสิ่งต้องหายไป

'สมาร์ตโฟน' เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน นอกจาก จะส่งผลให้พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว มันยังทำให้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เคยใช้งานกันอย่างแพร่หลายหลายอย่างเริ่มเลือนหายไปจากชีวิตประจำวัน จนบางอย่างแทบจะสูญหายไปจากท้องตลาดเลยก็ว่าได้

เมื่อคืนก่อนไฟดับ สิ่งแรกที่ผมนึกถึง คือ ต้องหยิบมือถือมาเปิดไฟฉาย แล้วก็ทำให้นึกย้อนไปถึงสมัยเด็กๆ เมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อน ตอนนั้นไฟฟ้าที่บ้านดับบ่อยมาก เราเลยต้องเตรียมอุปกรณ์ไว้รับมือกับไฟดับเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเทียนไข ตะเกียง หรือกระบอกไฟฉายแบบใส่ถ่าน

แต่มาวันนี้เวลาไฟดับ ผมว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ได้หยิบอุปกรณ์พวกนั้นมาใช้แล้ว หันมาพึ่งแสงไฟจากมือถือเป็นหลักแทน กระบอกไฟฉายที่เคยเป็นอุปกรณ์สำคัญในยามฉุกเฉินเมื่อไฟดับ กลายเป็นของที่ไม่ค่อยมีใครใช้ ไม่ค่อยมีขายตามท้องตลาด และคนรุ่นใหม่อาจไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ

ยกตัวอย่าง เทคโนโลยี อย่าง สมาร์ตโฟน ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน นอกจาก จะส่งผลให้พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว มันยังทำให้อุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เคยใช้งานกันอย่างแพร่หลายหลายอย่างเริ่มเลือนหายไปจากชีวิตประจำวัน จนบางอย่างแทบจะสูญหายไปจากท้องตลาดเลยก็ว่าได้

 

สิ่งนี้ย่อมส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อสังคม เศรษฐกิจ และตลาดแรงงาน เพราะหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เหล่านั้นอาจต้องปิดกิจการ เนื่องจากสินค้าไม่เป็นที่ต้องการของตลาด คนตกงานเพิ่มมากขึ้น

ช่วงที่ผมเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทำให้ได้เห็นว่า ปัจจุบันนี้ สมาร์ตโฟนและอินเทอร์เน็ต กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การจองที่พักหรือซื้อตั๋วเดินทาง ไปจนถึงการสื่อสารกับคนท้องถิ่น เรียกได้ว่าแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยหากขาดสองสิ่งนี้ไป เพราะยุคนี้สมาร์ตโฟนไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์สื่อสารธรรมดา แต่กลายเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่สามารถทดแทนการทำงานของอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างมากมาย จนบางอย่างอาจกลายเป็นสิ่งล้าสมัยไปเลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น

แผนที่และหนังสือไกด์นำเที่ยวแบบกระดาษ รวมถึงเครื่อง GPS พกพาสำหรับใช้หาเส้นทางในการขับรถ ล้วนถูกแทนที่ด้วยแอปพลิเคชันแผนที่และนำทางบนมือถืออย่าง Google Maps ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนและอัปเดตตลอดเวลา

 

เครื่องเล่นเกมส์พกพาอย่าง Nintendo และ PlayStation ที่เคยเป็นที่นิยมในหมู่เด็กๆ และวัยรุ่น ก็ค่อยๆ ถูกทดแทนด้วยเกมบนมือถือที่มีให้เลือกเล่นฟรีมากมายหลายแนว

เครื่องเล่นเพลง MP3 อย่าง iPod และ Walkman ที่เคยเป็นอุปกรณ์ฮิตติดลมบนเมื่อไม่กี่ปีก่อน กำลังเลือนหายไปจากตลาดเพราะสมาร์ตโฟนทำหน้าที่ได้ดีกว่า สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์อย่าง Spotify ที่มีให้ฟังเพลงและพอดแคสต์หลากแนว คุณภาพเสียงดีเยี่ยม จำนวนแทร็กเพลงมหาศาล โดยจ่ายเพียงค่าบริการรายเดือนไม่กี่ร้อยบาท

วิทยุทรานซิสเตอร์ขนาดพกพา ที่เคยเป็นอุปกรณ์สำคัญในการรับฟังข่าวสารบ้านเมืองผ่านคลื่นวิทยุ AM/FM ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กำลังจะกลายเป็นอดีต เพราะวันนี้เราสามารถฟังวิทยุออนไลน์ได้ผ่านสมาร์ตโฟน โดยมีแอปให้เลือกฟังได้ทุกคลื่นความถี่ สะดวกกว่ามาก

นาฬิกาปลุกแบบตั้งโต๊ะ ที่เคยเป็นอุปกรณ์บนหัวเตียงที่ขาดไม่ได้สำหรับคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ค่อยจำเป็นอีกต่อไป เพราะคนยุคนี้ตื่นนอนด้วยเสียงปลุกจากสมาร์ตโฟนเป็นหลักแล้ว สะดวกกว่าทั้งในการตั้งค่าเวลาและเสียง

เครื่องคิดเลขอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กำลังเลือนหายไป เพราะแอปเครื่องคิดเลขในมือถือทำงานได้เร็วกว่า แม่นยำกว่า มีฟังก์ชันซับซ้อนให้เลือกใช้มากกว่า

ยังมีอีกหลายสิ่งที่ดูเหมือนจะยังคงอยู่คู่กับเราไปอีกนาน แต่แท้จริงแล้วอาจถูกสมาร์ตโฟนเข้ามาทดแทนได้ในไม่ช้า เช่น เงินสด ที่ผู้คนเริ่มหันมาใช้วิธีการชำระเงินสมัยใหม่ผ่านแอปพลิเคชัน e-Wallet หรือระบบพร้อมเพย์บนมือถือกันมากขึ้น แม้กระทั่งบางร้านค้าเริ่มไม่รับเงินสดเลยก็มี การพกพาธนบัตรและเหรียญก็อาจไม่จำเป็นอีกต่อไปในวันหน้า

บัตรประจำตัวต่างๆ เช่น บัตรประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ ก็มีการออกบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถแสดงบนสมาร์ตโฟนได้เลยโดยไม่ต้องพกบัตรแบบเดิม ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยากไม่จำเป็นสำหรับอนาคต

ตั๋วโดยสารรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วรถไฟ ตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเข้าชมการแสดง ปัจจุบันผู้ให้บริการหลายเจ้าเปลี่ยนมาใช้ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์และแสดงได้บนหน้าจอมือถือ ไม่ต้องพิมพ์ตั๋วกระดาษออกมาอีก

กระเป๋าเงินสตางค์ อาจกลายเป็นแค่แฟชั่นมากกว่าเป็นความจำเป็น เมื่อเราไม่ต้องใส่เงินสดหรือบัตรพลาสติกเต็มกระเป๋าเหมือนสมัยก่อน มีเพียงสมาร์ตโฟนเครื่องเดียวก็สามารถใช้จ่ายได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน

นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาอัจฉริยะกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถติดตามข้อมูลสุขภาพ จึงยังเป็นอุปกรณ์ที่น่าจะได้รับความนิยมควบคู่ไปกับสมาร์ตโฟน

ขณะที่บางอาชีพใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาแทนที่ เมื่อผู้คนมีความต้องการสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ หากมองในแง่ดี การเปลี่ยนผ่านเหล่านี้นับเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของโลกและสังคมมนุษย์ที่มุ่งสู่ความสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป อาจทำให้คนบางกลุ่มที่ปรับตัวไม่ทัน กลายเป็นผู้ด้อยโอกาสที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้

ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ กระแสของ AI อย่าง ChatGPT ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกตื่นตะลึงในขีดความสามารถทางด้านการสื่อสารที่แทบแยกไม่ออกว่าเป็นมนุษย์หรือคอมพิวเตอร์ ก็ได้สร้างความกังวลให้กับหลายอาชีพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า คาดการณ์ ChatGPT เกี่ยวกับอนาคตนั้น จะเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด เพราะมีหลายปัจจัยที่อาจเป็นข้อจำกัดต่อการพัฒนา AI เหล่านี้

โดยสรุป คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นดาบสองคมที่มีทั้งด้านบวกและด้านลบต่อชีวิตมนุษย์ เราจึงควรเฝ้าติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที ขณะที่ยังคงรักษาสมดุลระหว่างความก้าวหน้ากับมิติของความเป็นมนุษย์เอาไว้ เพื่อให้สังคมของเราพัฒนาไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป