‘ฟูจิตสึ’ เจาะเทรนด์เทคฯ ปี 67 โรดแมปเพิ่มจุดต่าง ‘สมรภูมิดิจิทัล’

‘ฟูจิตสึ’ เจาะเทรนด์เทคฯ ปี 67  โรดแมปเพิ่มจุดต่าง ‘สมรภูมิดิจิทัล’

ปี 2567 นี้ ธุรกิจต่างๆ กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัล หรือ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน” เพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืน

Keypoints :

  • การผสมผสานของควอนตัมคอมพิวเตอร์และเอไอจะถึงจุดสูงสุดในปี 2567 นี้
  • ธุรกิจควรฝังหลักการด้านความยั่งยืนไว้ในกลยุทธ์หลักขององค์กร
  • ทัศนคติใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนจะกลายมาเป็นกระแสหลักที่อยู่ในความสนใจของผู้คน

กนกกมล เลาหบูรณะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดมุมมองว่า ภูมิทัศน์ของการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ‘ฟูจิตสึ’ เจาะเทรนด์เทคฯ ปี 67  โรดแมปเพิ่มจุดต่าง ‘สมรภูมิดิจิทัล’ ดังนั้นองค์กรธุรกิจต่างๆ ควรเปลี่ยนจากการใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านดิจิทัลเพียงอย่างเดียว ไปสู่การฝังหลักการด้าน “ความยั่งยืน” ไว้ในกลยุทธ์หลักขององค์กร ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ

สำหรับเทรนด์เทคโนโลยีที่จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โรดแมปสำหรับองค์กรที่มุ่งมั่นที่จะก้าวไปเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม สร้างความยั่งยืนให้เป็นผลในทางปฏิบัติ พร้อมสร้างกลยุทธ์ที่ต่างไปจากเดิม ประกอบด้วย

บูรณาการ “ควอนตัมคอมพิวเตอร์ - เอไอ” : ฟูจิตสึคาดว่า การผสมผสานของควอนตัมคอมพิวเตอร์และเอไอจะถึงจุดสูงสุดในปี 2567 นี้

โดยการรวมตัวกันของเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นำไปสู่ความก้าวหน้าในสาขาต่างๆ ซึ่งสำหรับธุรกิจหมายความว่าการลงทุนในเอไอสามารถจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพงานของควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้

“การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเป็นกุญแจสำคัญของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการปลดล็อกไปสู่ระดับใหม่ของประสิทธิภาพและนวัตกรรม”

กล่าวได้ว่า ปี 2567 นี้ จะเป็นปีแห่งความก้าวหน้าของควอนตัมคอมพิวเตอร์ เห็นการบูรณาการแบบไร้รอยต่อของเอไอ ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

ทลายข้อจำกัด ‘เอไอ’

“เอไอ” เข้าถึงได้ในวงกว้าง : โมเดลเอไอภาษาขนาดใหญ่อย่าง ChatGPT เป็นที่รู้จักและนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ยังคงมีปัญหาการขาดแคลนและเกิดเป็นคอขวด หากต้องการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพมักจำกัดอยู่เฉพาะบริษัทที่ได้รับทุนสนับสนุนที่ดี เช่น OpenAI, Microsoft, Google และ Anthropic

ดังนั้น การทำให้เอไอสามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง มีจุดมุ่งหมายเพื่อทลายอุปสรรคที่จำกัดเอไอขั้นสูงไว้กับองค์กรขนาดใหญ่ การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มใหม่ๆ ด้านเอไอ บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเข้าถึงเทคโนโลยีที่เท่าเทียมมากขึ้น ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก

“เอไอ” เสริมประสิทธิภาพ “Digital Twins” เพื่อประโยชน์ทางสังคม : เอไอ และ แบบจำลองเสมือนในโลกดิจิทัล หรือ Digital Twins จะเริ่มให้ข้อมูลด้านนโยบายทางสังคมและกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2567 นี้

โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยนำเสนอข้อมูลเชิงลึกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์และแนวโน้มทางสังคม ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ Digital Twins สร้างแบบจำลองผลกระทบของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีต่อสังคม เพื่อให้มั่นใจว่ามีการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและมีจริยธรรม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายทางสังคม เช่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ฯลฯ

ฟูจิตสึคาดด้วยว่า จะได้เห็นความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านการคาดการณ์พฤติกรรมเพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดี ตระหนักถึงสังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ภูมิทัศน์ใหม่ ‘ไซเบอร์ซิเคียวริตี้’

ลดความซับซ้อน “การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์” : ปี 2567 นี้ ทัศนคติใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนจะกลายมาเป็นกระแสหลักที่อยู่ในความสนใจของผู้คน

องค์กรธุรกิจต่างๆ ควรมีการจัดลำดับความสำคัญในการลดความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพความปลอดภัยทางไซเบอร์ ลดความซับซ้อน และความเสี่ยงในโลกดิจิทัลที่มีเพิ่มมากขึ้น

“การผลักดันไปสู่การลดความซับซ้อนในโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จะกลายเป็นประเด็นสำคัญมากขึ้น”

ที่สำคัญ บริษัทต่างๆ ควรตระหนักถึงความสำคัญในการลดความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่สามารถคาดเดาได้

จับตาการเติบโต ‘Private 5G’

การเติบโตของเครือข่าย Private 5G : นำมาซึ่งการปฏิวัติด้านการเชื่อมต่อ ช่วยให้สามารถประมวลผลและควบคุมข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับระบบอัตโนมัติต่างๆ

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยี Private 5G และ mmWave จะปฏิวัติหลากหลายอุตสาหกรรม ผ่านการใช้โดรน หุ่นยนต์ และยังอาจเป็นไปได้สำหรับการผ่าตัดทางไกล

โดยมีค่าความหน่วงเกือบเป็นศูนย์และปริมาณข้อมูลที่สูง คาดว่าธุรกิจด้านโลจิสติกส์ การดูแลสุขภาพ และการผลิตจะได้รับประโยชน์อย่างมาก

“การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในโครงสร้างพื้นฐาน Private 5G สามารถช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ขอบเขตใหม่ของประสิทธิภาพและการส่งมอบบริการที่ดีมากกว่าเดิม”