TikTok ปักธงยกระดับ ‘ครีเอทีฟ อีโคโนมี’ ประเทศไทย

TikTok ปักธงยกระดับ ‘ครีเอทีฟ อีโคโนมี’ ประเทศไทย

“TikTok” ชูแนวคิด “TikTok For All” แพลตฟอร์มสร้างโอกาสให้ครีเอเตอร์ - ธุรกิจ - คอมมูนิตี้ พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวก “ครีเอทีฟ อีโคโนมี” ประเทศไทย

Keypoints : 

  • เปิดตัวแนวคิด “TikTok For All” ยกระดับ Creative Economy
  • ตั้งเป้าสนับสนุนครีเอเตอร์ ธุรกิจ คอมมูนิตี้ ธุรกิจท้องถิ่น (OTOP) 
  • ส่งเสริมโอกาสในการเติบโตสำหรับธุรกิจทุกขนาดผ่านเทรนด์ Shoppertainment

ชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – Thailand TikTok กล่าวว่า TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนท์ ที่น่าเชื่อถือเปิดตัว “TikTok For All” แพลตฟอร์มที่สร้างโอกาส และ positive impact ให้กับคนไทย และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) อย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน ในประเทศไทย มีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านคน ที่สร้างรายได้จาก TikTok และมีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก TikTok ในปี 2564

อุตสาหกรรมครีเอทีฟของประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของจีดีพีของประเทศ ในปี 2565 จำนวนบุคลากรที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นถึง 963,549 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมครีเอทีฟที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต

“TikTok ยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน โดยเราจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านแนวคิด TikTok for Smart Economy, Smart People, and Smart Environment”

แนวคิดดังกล่าวจะช่วยให้ทุกคนสามารถแบ่งปันเรื่องราวผ่านความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้สร้าง “positive impact” ผ่านแคมเปญที่หลากหลายที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความยั่งยืน

พร้อมกันนี้ เสริมทักษะ และความรู้ด้านดิจิทัลเพื่อยกระดับความรู้ และทักษะให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทย รวมถึงหลักสูตรออนไลน์ความรู้ด้านดิจิทัลสำหรับเยาวชนไทย อีกทางหนึ่งสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น (OTOP) จากเดิมทำได้แล้วจำนวน 532 แห่งทั่วประเทศในเฟสแรก ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มจำนวนอีกกว่า 1,000 แห่งในปีนี้

พิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา Head of Operations – Thailand กล่าวเสริมว่า TikTok ตั้งเป้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยโดยให้การสนับสนุนคนไทยผ่านอีโคซิสเต็มบนแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์

“ความมุ่งมั่นของเราคือ การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน รวมถึงการค้นหา และเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย มากกว่านั้นสร้างโอกาสและปลดล็อกความเป็นไปได้ให้กับครีเอเตอร์ในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผลงานเพื่อรักษาและยกระดับความคิดสร้างสรรค์”

ปัจจุบัน TikTok ได้พัฒนาไปมากกว่าการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงชีวิต (life-changing moments) ของครีเอเตอร์ โดยปี 2567 พร้อมขยายการสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ไปที่พาร์ตเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ด้วยกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ

กรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์ Head of FMCG, E-Commerce - Thailand เผยว่า ส่วนของ TikTok Shop ปัจจุบัน สนับสนุนผู้ขายจำนวนมากกว่า 2.4 ล้านราย โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ จากนี้ยังคงมุ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ขาย และผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศเติบโต

ปี 2567 TikTok มึแผนให้การสนับสนุนแก่ผู้ขายและธุรกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพให้พวกเขาเติบโต และคว้าโอกาสทางธุรกิจ ผ่านการควบรวมคอนเทนต์ความบันเทิงและคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน

ชลธิชา งามกมลเลิศ Head of Client Partnership กล่าวว่า TikTok ได้พัฒนาไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มแบบไดนามิกที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารเรื่องราวของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้าง positive impact

ปี 2567 ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG), คอมเมิร์ซ, อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), ยานยนต์, การเงิน, และแอปพลิเคชัน ด้วยการผสมผสานคอนเทนต์แบบไดนามิก และกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ

พลังของ TikTok ได้ขยายไปที่ customer journey มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจ และบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมผู้บริโภค สอดคล้องไปกับผลการศึกษาของ TikTok ที่พบว่า การดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยมากกว่า 70% ของผู้บริโภคพึ่งพาวิดีโอบน TikTok ยิ่งไปกว่านั้น TikTok ยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับคอมมูนิตี้ด้วยการส่งเสริมโอกาสในการเติบโตสำหรับธุรกิจทุกขนาดผ่านเทรนด์ Shoppertainment

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์