'ดีอี' ได้ฤกษ์ คิกออฟ 'ศูนย์แก้ปัญหาหลอกลวงออนไลน์' แบบ 'วันสต๊อปเซอร์วิส'

'ดีอี' ได้ฤกษ์ คิกออฟ 'ศูนย์แก้ปัญหาหลอกลวงออนไลน์' แบบ 'วันสต๊อปเซอร์วิส'

รมว.ดีอี ลุยตั้งศูนย์ AOC 1441 สำหรับประชาชน ช่วย ระงับ อายัดบัญชีคนร้ายทุกทอด ทันที แก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน เศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง

วันนี้ 1 พฤศจิกายน 2566 นายประเสิรฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดดีอี ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์  เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงาน กสทช. กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเปิดตัว ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC ) หรือ AOC 1441 ในการให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาภัย online สำหรับประชาชน 

โดยจะเป็นศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิสในการแก้ไขปัญหาหลอกลวงออนไลน์สำหรับประชาชน ช่วย ระงับ/อายัดบัญชีคนร้ายทุกทอด ทันที  เป็นการทำงานเชิงรุกแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน เศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง มีจำนวนคดี กว่า 330,000 คดี และความเสียหายสูงกว่า 45,000 ล้านบาท ในระยะ 1 ปี 7 เดือน (1 มี.ค 2565 – 30 ก.ย. 2566)

\'ดีอี\' ได้ฤกษ์ คิกออฟ \'ศูนย์แก้ปัญหาหลอกลวงออนไลน์\' แบบ \'วันสต๊อปเซอร์วิส\'

เป้าหมายของศูนย์ AOC 1441 
1. ระงับ/อายัดบัญชีของคนร้าย ให้ผู้เสียหาย/ผู้ถูกหลอกลวงออนไลน์ ทันที
2. ติดตามสถานะ การแก้ไขปัญหาให้ผู้เสียหายทุกขั้นตอน ได้ทันที
3. เร่งการคืนเงินให้ผู้เสียหาย
4. เพิ่มประสิทธิภาพการจับกุม ดำเนินคดีและการขยายผลคดี โดย การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยงาน บูรณาการ ข้อมูล และร่วมทำงานทันทีทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย 

ศูนย์ AOC จะมีระบบ การติดตามสถานการณ์ สั่งการ ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม โจรออนไลน์อย่างบูรณาการและทันเวลา ต้องทำงานแข่งกับเวลา โดยมี War-room ภายใต้ AOC และ ใช้เทคโนโลยี พัฒนา Intelligent Assistant (IA) และ Intelligence based platform ทำให้เกิด รวบรวมเชื่อมโยงข้อมูล เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ให้พร้อมใช้งานในการป้องกัน ปราบปราม

โดย platform นี้จะมีการใช้และการวิเคราะห์ ทั้งข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย และ ใช้เทคโนโลยี AI ใช้ Data scientists เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ คาดการณ์ 

ภายใต้ AOC จะมีการจัดตั้ง War-room เพื่อแก้ปัญหาหลอกลวงออนไลน์ ดำเนินการด้านคดีให้ประชาชนแบบเร่งด่วน เชิงรุก ตั้งเป้าหมาย จบระงับ/อายัดบัญชีการเงินได้ ใน 1 ชม. นับจากเวลาที่รับแจ้งเรื่องจากเหยื่อของโจรออนไลน์ โดยนำข้อมูล อาทิ การโอนเงินให้คนร้าย ส่งธนาคาร ให้ทำการระงับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องทันทีที่ได้รับเรื่อง ทำการระงับ/อายัด ทุกๆ ทอดที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกัน สถาบันการเงินอื่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ง. ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. ผู้ให้บริการมือถือ สำนักงาน ก.ล.ต. แลกเปลี่ยนข้อมูลทันที และหน่วยงานเกี่ยวข้อง บังคับใช้อำนาจตาม กฎหมายที่มี ตามความเหมาะสม เช่น พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พรบ.คอมฯ)  และ พ.รบ. ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น      

สำหรับในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลนั้น จะมีการจัดเก็บด้วยระบบ Cloud Service ซึ่งเป็นระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตาม ISO 27001 ISO 200001 และ CSA-STAR และเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 
.
ศูนย์ AOC 1441 จะยกระดับสายด่วน 1441 (เดิม สายด่วนตำรวจไซเบอร์) จากเดิมที่มี 20 คู่สายเป็น 100 คู่สาย และให้บริการเรื่องภัยออนไลน์แก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และครอบคลุมเรื่องการหลอกลวงซื้อขายออนไลน์ทั้งหมด

นายประเสริฐ รัฐมนตรี ดีอี กล่าวในตอนท้ายว่า  ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 เกิดจากการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ  ช่วยกันอย่างเต็มที่ มั่นใจว่า ศูนย์นี้ ยกระดับความสามารถในการแก้ปัญหาภัยออนไลน์ให้ประชาชน  ในขณะเดียวกัน เมื่อ ใช้เทคโนโลยีที่ดี ข้อมูลที่ดี ส่งข้อมูลทันเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้บังคับใช้กฎหมาย จะสามารถดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถลดปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรมใน 3 เดือน"