วินัยและการใช้ชีวิต

วินัยและการใช้ชีวิต

ในปัจจุบันเรามีนิยามของความเฉลียวฉลาดในมิติที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในแง่สติปัญญาหรือ IQ ความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ ความเฉลียวฉลาดทางสังคมหรือ SQ ฯลฯ ซึ่งแต่ละด้านก็ล้วนมีผลต่อพัฒนาการในด้านที่แตกต่างกัน

แต่ไม่ว่าจะเป็นความเฉลียวฉลาดในมิติไหน ทั้ง IQ, EQ, SQ ก็ล้วนต้องอาศัยรากฐานจากความมีระเบียบวินัยหรือ Discipline ที่จะช่วยพัฒนาให้แต่ละคนมีความแน่นอนและคงเส้นคงวามากพอที่จะสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวได้ในอนาคต

ทุกวันนี้ดูเหมือนพ่อแม่ในครอบครัวสมัยใหม่จะเน้นเรื่องความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์เป็นพิเศษ เพราะมองว่าการเข้ากับผู้อื่นได้จะเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จในอนาคต ซึ่งการทำงานในโลกความเป็นจริงทุกวันนี้เน้นที่ความสำเร็จของทีมงานเป็นหลัก

พ่อแม่รุ่นใหม่จึงเน้นที่การเสริมสร้างให้ลูกมีสุขภาพจิตที่ดี มีความเห็นใจผู้อื่น เข้าสังคมได้ ฯลฯ ไม่เน้นแต่เฉพาะวิชาการที่ต้องมีตารางในการเรียนทบทวนวิชาต่าง ๆ อย่างเข้มงวด เพราะเชื่อว่าเมื่อสุขภาพกายและใจแข็งแรงดีก็น่าจะเพียงพอให้ลูกเติบโตไปอย่างมีคุณภาพได้

แต่ในความเป็นจริง ถึงจะลดความเข้มข้นเรื่องวิชาการไป แต่ตารางเวลาสำหรับเด็กยุคใหม่ทุกวันนี้ก็ยังคงอัดแน่นไปหมดเพราะกิจกรรมสารพัด ทั้งดนตรี กีฬา กิจกรรมพิเศษ ฯลฯ จนเด็กไม่รู้วิธีจัดการชีวิตของตัวเองเพราะพ่อแม่ทำให้หมดตั้งแต่เช้าถึงเย็น

เมื่อถึงช่วงปิดเทอมจึงเป็นภาระหนักของพ่อแม่รุ่นใหม่ที่ไม่อยากให้ลูกหยุดอยู่กับบ้านเฉยๆ จึงวางแผนชีวิตให้ลูกเบ็ดเสร็จเพราะกลัวว่าลูกจะมัวแต่เล่นเกมส์จนไม่ได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อการพัฒนาตัวเองจึงมีแต่กิจกรรมให้ทำมากมาย

ที่น่าคิดคือกิจกรรมทั้งหลายเหล่านั้นเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับบุคลิกและความชอบของเด็กหรือไม่ เพราะถ้าเด็กได้คิดและเลือกทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเองเขาก็ย่อมรู้สึกว่ามีส่วนร่วมและได้ลงมือจัดตารางเวลาเป็นของตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวินัยในการใช้ชีวิต

การปิดเทอมของเด็กนักเรียนในประเทศเยอรมันนีใช้แนวคิดดังกล่าวเป็นหลัก นั่นคือการส่งเสริมให้เด็กได้วางแผนการใช้ชีวิตในช่วงปิดเทอมได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงถึงภาระจากการบ้านที่ต้องทำในช่วงปิดเทอม เพราะไม่มีการบ้านเหมือนเด็กไทย

ระบบการศึกษาในหลายประเทศรวมถึงเยอรมันเริ่มลดการบ้านลงเพราะต้องการส่งเสริมให้เด็กใช้เวลากับกิจกรรมที่สอดคล้องกับความชอบและเป้าหมายในอนาคตของเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ในขณะที่เด็กไทยส่วนมากต้องจัดเวลาเพื่อทำการบ้าน และยังต้องเรียนพิเศษมากมายในช่วงปิดเทอม

เด็กเยอรมันจึงถูกบ่มเพาะให้ต้องรู้จักบริหารเวลาของตัวเองในช่วงปิดเทอมนี้เอง ด้วยความที่มีเวลาว่างมาก และค่านิยมของเขาที่ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่า ทำให้เด็กๆ ต้องรู้จักวางแผนและมีระเบียบวินัยที่จะใช้เวลาไปตามที่ได้วางแผนเอาไว้

นั่นหมายความว่าเด็กเยอรมันจะต้องเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองและเริ่มมองเห็นแล้วว่าอยากพัฒนาตัวเองไปในทิศทางไหน เมื่อรู้โจทย์แล้วก็จะเริ่มวางแผนกิจกรรมให้กับตัวเองให้ตรงกับความชอบและสอดคล้องกับอนาคตที่ตัวเองอยากเป็น

เมื่อได้กิจกรรมที่ต้องการมาแล้ว เขาก็ต้องรู้จักบริหารเวลาในแต่ละวันด้วยตัวเองโดยมีทั้งโรงเรียนและพ่อแม่ ผู้ปกครองช่วยชี้แนะ เพื่อให้เด็กได้ทดลองกิจกรรมต่าง ๆ ที่เขาสนใจ ได้ลองทำ ได้สร้างประสบการณ์ ต่อไป

และสุดท้ายผู้ใหญ่ก็ต้องเปิดกว้างให้เด็กได้ลองคิดลองทำ ไม่ใช่มีแต่ข้อห้ามมากมายจนเด็กไม่กล้าคิดและไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ แต่ต้องให้เขาได้คิดว่าทำแล้วกระทบกับคนอื่นไหม ถ้ากระทบจะจัดการอย่างไร ทำให้เขาได้คิด ได้วางแผนโดยที่ยังคงความเป็นตัวของตัวเองได้เป็นอย่างดี

เมื่อมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต เด็กก็ย่อมรู้จักวิธีทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักจัดการแรงกดดันต่างๆ และแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งนับเป็นก้าวแรกที่จะช่วยให้เขาเติบโตสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง

...............ติดตามตอนต่อไปอาทิตย์หน้าครับ