ถึงเวลาเปลี่ยน 'สมาร์ทโฟน' เครื่องใหม่หรือยัง?

ถึงเวลาเปลี่ยน 'สมาร์ทโฟน' เครื่องใหม่หรือยัง?

ช่วงนี้มีสมาร์ทโฟนออกมาใหม่หลายรุ่น บางรุ่นราคาค่อนข้างสูงมาก แต่มีคนจำนวนมากไปซื้อกัน และบางคนอาจใช้เครื่องเดิมเพียง 1-2 ปี ก็รีบซื้อเครื่องรุ่นใหม่มาใช้ ข้อมูลจากเว็บ Picodi ระบุมาว่า คนไทยโดยเฉลี่ยต้องใช้เวลาทำงานถึง 48.7 วัน กว่าจะได้ iPhone 14 Pro หนึ่งเครื่อง

ช่วงนี้มีสมาร์ทโฟนออกมาใหม่หลายรุ่น บางรุ่นราคาค่อนข้างสูงมาก แต่ก็มีคนจำนวนมากไปซื้อกัน และบางคนก็อาจใช้เครื่องเดิมเพียง 1-2 ปี ก็รีบซื้อเครื่องรุ่นใหม่มาใช้ ทั้งที่มีข้อมูลจากเว็บ Picodi ระบุมาว่า คนไทยโดยเฉลี่ยต้องใช้เวลาทำงานถึง 48.7 วัน กว่าจะได้โทรศัพท์ iPhone 14 Pro หนึ่งเครื่อง ในขณะที่คนในสหรัฐอเมริกาใช้เวลาทำงานเพียง 5.7 วัน และคนอีกหลายประเทศในยุโรปรวมทั้งประเทศสิงคโปร์ใช้เวลาน้อยกว่า 10 วันทำงาน

สำนักวิจัย Statista เคยออกบทวิเคราะห์มาว่า อายุการทำงานของสมาร์ทโฟนโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4-6 ปี และบางรุ่นอาจใช้ได้ยาวถึง 10 ปี แต่คนในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ย 2.58 ปี ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลตามผลวิเคราะห์นี้จะเห็นได้ว่า คนสามารถเลือกใช้สมาร์ทโฟนตัวเดิมต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่พวกเขาก็เลือกที่จะซื้อเครื่องรุ่นใหม่ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของพวกเขา

เหตุผลที่คนตัดสินใจซื้อเครื่องรุ่นใหม่โดยมากเป็นเพราะ รุ่นใหม่มีความน่าสนใจตามกระแสและการโฆษณา นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันที่ได้รับจากค่ายมือถือต่างๆ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันใหม่ๆ และมาพร้อมกล้องคุณภาพสูงขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญ

แต่บ่อยครั้งที่เราก็พบว่า มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ซื้อด้วยเหตุผลทางด้านเทคนิค เช่น ต้องการอัพเกรดระบบปฏิบัติการที่เก่าเกินไปแล้ว หรืออายุของแบตเตอรี่ที่เสื่อมลง หรือขนาดความจุของสตอเรจเริ่มไม่พอต่อการเก็บข้อมูลต่างๆ รวมถึงเครื่องเดิมชำรุดเสียหาย ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความจำเป็นมากกว่าการซื้อตามกระแส และระยะเวลาในการเปลี่ยนเครื่องค่อนข้างจะยาวนานกว่ากลุ่มแรกมาก

โดยทั่วไปผู้คนมักเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อยกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าและไอทีอื่นๆ แม้แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เชื่อว่าคนจำนวนมากที่ซื้อสมาร์ทโฟนนั้นไม่สามารถใช้ฟังก์ชันต่างๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ดูเหมือนว่ามีมากมายได้ครบถ้วน และบางคนอาจใช้น้อยกว่า 20% ของความสามารถ ทั้งนี้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงเน้นใช้ในการโทรศัพท์ ถ่ายรูป เล่นโซเชียลมีเดียและแอปบางตัว

มีรายงานวิจัยที่ออกมาเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ในเว็บ www.zippia.com ระบุว่า คนส่วนใหญ่จะใช้แอปต่างๆ บนสมาร์ทโฟนเป็นประจำระหว่าง 9-10 ต่อวัน และประมาณ 30 แอปต่อเดือน กล่าวคือจะมีแอปบางตัวที่แต่ละเดือนอาจใช้ไม่กี่ครั้ง

ที่น่าสนใจคือในปัจจุบันมีแอปที่อยู่ใน App Store มีมากถึง 5.7 ล้านแอป ให้เลือกใช้ ซึ่งคนในสหรัฐอเมริกาโดยเฉลี่ยจะโหลดแอปมาประมาณ 80 แอปลงในสมาร์ทโฟน แต่แอปมากกว่า 71% จะไม่ได้มีการใช้หลังจากนั้น 3 เดือน นอกจากนี้ยังพบว่าแอปมากกว่า 50% จะถูกลบออกไปไม่ได้นานหลังจากดาวน์โหลดมาใช้งาน

แอปที่คนใช้เป็นประจำสูงสุดคือ กลุ่มโซเชียลมีเดีย เกือบ 40% ตามมาด้วยเกม 10% แอปการส่งข้อความ 10% และแอปค้าปลีกต่างๆ 7% โดยแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2022 คือ TikTok และ Instagram

หากพิจารณาจากข้อมูลเราจะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่ก็ยังเล่นแอปเดิมๆ เป็นประจำและเมื่อดาวน์โหลดแอปใหม่ๆ มาก็จะใช้เวลาเล่นไม่นานนัก ส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนก็ยังเน้นในการเล่นโซเชียลมีเดีย ถ่ายรูป รวมถึงการเก็บรูปภาพต่างๆ จึงทำให้อยากได้รุ่นที่มีคุณภาพกล้องดีๆ หรือมีขนาดความจุข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น

ผมได้ลองเข้าพิจารณาการใช้งานในสมาร์ทโฟนของตัวเองพบว่า มีแอปติดตั้งอยู่ 45 แอป แต่ที่น่าสนใจคือมีรูปอยู่ในมือถือมากกว่า 25,000 รูป ส่วนแอปที่ใช้ประจำก็คือโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ครอบคลุมเวลาส่วนใหญ่ในการใช้แบตเตอรี่บนมือถือ โดยเฉพาะการใช้ Facebook และ Line ที่กินเวลาไปกว่า 90% ส่วนแอปอื่นๆ จะใช้เวลาของแบตเตอรี่น้อยมาก

และหากพิจารณาตามหลักความเป็นจริงเรามีความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งแอปบนมือถืออยู่เพียงไม่กี่แอป เช่น แอปด้านโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook, TikTok และ Instragram

แอปในการสื่อสารอย่าง Line และ Facebook Message แอปของกูเกิลต่างๆ เช่น Google Chrome, Google Mapและ Google Translator แอปการดูหนังฟังเพลง เช่น YouTube, Spotify หรือแอปดูทีวีต่างๆ แอปสำหรับเล่นเกมส์ แอปด้านธุรกรรมการเงิน เช่น โมบายแบงค์ โมบายวอลเล็ต แอปการสั่งซื้ออาหารและสินค้าต่างๆ แอปบริการภาครัฐ เช่น บัตรประชาชนออนไลน์อย่าง ThaiD และแอปจ่ายค่าน้ำและค่าไฟฟ้า

โดยปกติผมไม่ค่อยได้เปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อยนัก แต่ละเครื่องใช้เวลามากกว่า 4 ปี และก็ไม่ได้คิดว่าตกเทรนด์หรือตามเทคโนโลยีไม่ทัน เพราะแอปใหม่ๆ ก็ยังโหลดมาทดลองใช้ได้แต่ส่วนใหญ่ก็จะกลับไปเล่นแอปเดิมๆ และหากซื้อเครื่องรุ่นใหม่มาส่วนมากก็ไม่ได้ใช้ฟังก์ชันใหม่ๆ เหล่านั้นมากนัก

ดังนั้นเมื่อมีคนถามว่า เราควรเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเมื่อไร คำตอบก็อยู่ที่แต่ละคน ถ้าจำเป็นหรืออยากได้ และมีรายได้พอก็อาจถึงเวลาเปลี่ยน แต่ถ้าใช้อะไรไม่มากนัก เครื่องเดิมยังใช้ได้ดีอยู่ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนไปตามแฟชั่นแต่อย่างไร เพราะสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานยาวนาน