โดดเดี่ยวด้วยกัน

โดดเดี่ยวด้วยกัน

สภาพสังคมปัจจุบันที่ผู้คน ต่างคนต่างอยู่ในโลกโซเชียลของตัวเอง ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว จึงพบได้ง่ายในหมู่คนรอบตัว ไม่จำกัดว่าต้องเป็นวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ เพราะแต่ละคนก็ล้วนประสบกับความเหงาได้ไม่ต่างกัน

ความรู้สึกโดดเดี่ยวมักเป็นความคิดเชิงลบที่เกิดจากการไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ การป้องกันความเหงาอย่างแรกจึงเน้นที่ทำตัวเองให้มีคุณค่าอยู่เสมอ ตามด้วยการหาจุดสนใจร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว และการตัดความคิดลบออกไปจากจิตใจ

ต่อกันในข้อที่สี่ ต้องมีเป้าหมายในแต่ละวันเสมอ แม้จะเป็นเป้าเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกถึงความสำเร็จในทุกๆ วัน ซึ่งเป้าหมายที่ว่าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงานแต่เพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นเรื่องการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ การช่วยเหลือสังคม

การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้แต่ละวันเรามีกิจกรรมเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เป็นการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้เราใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่จมอยู่กับอดีตหรือสิ่งที่ผ่านไปแล้วซึ่งมักทำให้เราเฝ้าคิดถึงแต่วันเก่าๆ ที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้

คนที่เหงาและรู้สึกโดดเดี่ยวมักรู้สึกโหยหาวันเวลาเก่าๆ เช่นอดีตที่ตัวเองเคยรุ่งโรจน์แต่ก็ผ่านเลยมานานแล้ว ซึ่งมักทำให้หลงอยู่กับความสำเร็จในอดีตและอยากได้วันเวลาเก่า ๆ คืนมา หรือไม่ก็เป็นการตัดสินใจผิดพลาดในหลายปีก่อนที่อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไข

การตั้งเป้าหมายในแต่ละวันจะทำให้เราคิดถึงปัจจุบันเป็นหลัก และรู้ว่าในแต่ละวันจะต้องทำอะไร แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำให้เราต้องรู้จักวางแผนและต้องทบทวนว่าเมื่อตื่นนอนในวันรุ่งขึ้นแล้วต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก ช่วงสายจะทำอะไร ช่วงบ่ายต้องไปที่ไหน ฯลฯ

เมื่อใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีเป้าหมาย ก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่าแต่ละวันมีสิ่งที่ต้องทำมากมายจึงรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า จนลืมอดีตที่มีประสบกาณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีที่เราอาจเผลอคิดจนทำให้ติดอยู่กับชีวิตในอดีต แต่การมีเป้าหมายในแต่ละวันจะทำให้เราใส่ใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่า

ข้อห้าจงทำในสิ่งที่ชอบ เหมือนตัวผมเองที่ชอบถามไถ่ทุกเรื่องจากทุกคนรอบข้าง เพราะเชื่อว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือเรียนรู้จากทุกคนที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเดินทางไปยังประเทศไหนผมก็ชอบพูดคุยกับคนท้องถิ่นอยู่เสมอ

จนครั้งหนึ่งได้เจอคนที่มีอุปนิสัยคล้ายกันคือคนขับรถแท็กซี่ในต่างประเทศ ที่เขาเล่าให้ฟังว่าทำอาชีพนี้มาตั้งแต่อายุ 20 จนปัจจุบันอายุ 60 กว่าแล้วก็ยังคงทำอาชีพเดิมโดยไม่รู้สึกเบื่อ และไม่เคยคิดไปประกอบอาชีพอื่นใดเพราะเขาไม่เคยเบื่องานที่เขาทำ

เขารักอาชีพขับรถแท็กซี่เพราะเขารักการพูดคุยกับผู้โดยสารที่มาจากประเทศต่างๆ ซึ่งทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องราวมากมาย ซึ่งผมพบว่าเขามีความรู้รอบตัวเป็นอย่างดีทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และเขาก็ดูมีความสุขกับงานที่ทำมาก

การได้ทำในสิ่งที่ชอบจึงเป็นหนทางสำคัญให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข ตลอดจนได้พัฒนาตัวเอง สร้างคุณค่าให้เราทันโลกทันสมัยได้อยู่เสมอ

ข้อสุดท้ายคือการใส่ใจเรื่องสุขภาพอยู่เสมอ เพราะทั้ง 5 ข้อข้างต้นล้วนเป็นการดูแลสุขภาพใจให้รู้สึกคิดบวก มีสมาธิกับงาน และการพยายามอยู่กับปัจจุบันเพื่อไม่หลงไปกับอดีต แต่ในความเป็นจริงแล้วสุขภาพกายก็มีความสำคัญไม่แตกต่างกันเลย

หากมีโอกาสถามไถ่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีประสบการณ์มากมายอยากถ่ายทอดให้เราฟัง เรื่องสุขภาพก็ดูจะเป็นหัวข้อแรกๆ ที่ผู้ใหญ่อยากเล่าให้เด็กฟังมากที่สุด เพราะในยามที่นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงนั้นเป็นจุดที่เราอาจทำทั้ง 5 ข้อข้างต้นไม่ได้เลย

การรักษาตัวเองไม่ให้เจ็บไข้ หรือการดูแลตัวเองเมื่อป่วยอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต และเป็นด่านแรกที่เราต้องพิชิตให้ได้เพื่อรักษาสุขภาพกายให้สมบูรณ์ที่สุด หลังจากนั้นจึงค่อยๆ รักษาสุขภาพใจตามมา