"ดีอีเอส" เล็งปั้น "ซูเปอร์แอป" เคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล

"ดีอีเอส" เล็งปั้น "ซูเปอร์แอป" เคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล

หวังเชื่อมโยงข้อมูล เปิดโอเพ่นดาต้าเชื่อมข้อมูลรัฐ พร้อมขยับองคาพยพ สู่รัฐบาลดิจิทัล มั่นใจบล็อกเชน จะกลายเป็นเทคโนโลยีอนาคตของคนไทย เงินดิจิทัล 10,000 บาทถึงมือประชาชนครบทุกบาท

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวชี้แจงในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลกำลังทำรัฐบาลดิจิทัล จะทำแผนแม่บทเพื่อให้เป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ โดยจะมีการทำซูเปอร์แอป รวมบริการภาครัฐและใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการเก็บข้อมูล โดยประชาชนจะสามารถเชื่อมต่อข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนและประชาชนไม่สับสน

ในเรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัล ดีอีเอส เองก็มีคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดดีอี) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมาตรการเชิงรุกของกระทรวงที่สำคัญคือเรื่อง โอเพ่นดาต้า ซึ่งประเทศต่างๆทั่วโลกก็ให้ความสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมีสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่เป็นเจ้าภาพในการทำแผนแม่บทเรื่องนี้ เพื่อให้ภาคประชาชน เอกชน นำข้อมูลไปใช้ในเชิงธุรกิจ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ

เขา กล่าวว่า ดีอีเอส จำเป็นต้องวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล มีความจำเป็นต้องลงทุนสร้างบล็อกเชน นโยบายนี้จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้พี่น้องประชาชนได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วยบล็อกเชน ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีความโปร่งใสในการแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลล็อต 10,000 บาท จะถึงมือประชาชนทุกบาท

"รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีช่วยเพื่อความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และบล็อกเชนจะเป็นเทคโนโลยีอนาคตที่คนไทยจะคุ้นเคยเหมือนการใช้ไลน์"
 

สำหรับโครงการคลาวด์ภาครัฐ เรื่องโก คลาวด์ เฟิร์ส ได้วางกรอบในการขยายคลาวด์ทั้งภาครัฐและเอกชน มีการดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาลงทุน แนวทางการจัดซื้อจัดจ้างจะมีการใช้ระบบคลาวด์มาใช้เพื่อสร้างความโปร่งใส

นอกจากนี้ กระทรวงยังมี Thaid หรือ ดิจิทัลไอดี แทนบัตรประชาชน ที่มีประชาชนใช้งานแล้วกว่า 10 ล้านราย และ NDID เพื่อยืนยันตัวตน สามารถทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย โดยกระทรวงอยู่ระหว่างการขยายยูสเคสเพื่อให้การใช้งานมีความน่าเชื่อถือ

นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับประเด็นปัญหาไรเดอร์ถูกแพลตฟอร์มต่างชาติเอาเปรียบให้ค่าตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรมนั้น เมื่อ 2 เดือนก่อน ตนเองมีโอกาสได้พบกับกลุ่มไรเดอร์และรับทราบปัญหาต่างๆแล้ว หลังจากแถลงนโยบายต่อสภาฯเสร็จสิ้น จะนัดกลุ่มไรเดอร์มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน