'Amity' ผนึก 'ไมโครซอฟท์' ปั้น Amity AI Platform ดันธุรกิจสัมผัส 'GPT Chatbot' 

'Amity' ผนึก 'ไมโครซอฟท์' ปั้น Amity AI Platform ดันธุรกิจสัมผัส 'GPT Chatbot' 

'กรวัฒน์' นำทีม 'Amity' ผนึกกำลัง 'ไมโครซอฟท์' สร้าง Amity Solutions AI Platform ปูทางองค์กรไทย สัมผัสพลังจาก GPT Chatbot อย่างมั่นใจ บนคลาวด์ Microsoft Azure OpenAI

แอมิตี โซลูชันส์ (Amity Solutions) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (artificial intelligence: AI) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อเร่งการนำ AI ไปพัฒนาใช้งานอย่างแพร่หลายในองค์กรต่าง ๆ ถือได้ว่าเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยียุคใหม่ในประเทศไทย

Amity ระบุว่า ช่วงเวลาแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้ Amity Solutions พร้อมช่วยปฏิวัติองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยรวมถึงทั่วโลกเปิดตัวด้วยผู้ช่วย AI ที่ขับเคลื่อนโดยบริการ Azure OpenAI ของไมโครซอฟท์ และเทคโนโลยี GPT ของ OpenAI ซึ่งอยู่เบื้องหลังแชตจีพีที (ChatGPT) ผู้ช่วยเสมือนแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และใช้การเขียนโค้ดน้อยที่สุด (low-code virtual assistants) ของ Amity Solutions ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบเวลาตอบสนองที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

รวมถึงการให้บริการที่ครอบคลุมตลอดเวลา บริษัทต่างๆ สามารถเริ่มใช้งานผู้ช่วย Generative AI ของตนเองได้อย่างง่ายดายเพียงใช้เวลาไม่กี่นาทีผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Amity Solutions ที่มีชื่อว่า แอมิตี โซลูชันส์ เอไอ แพลตฟอร์ม (Amity Solutions AI Platform: ASAP) อันทรงพลัง

\'Amity\' ผนึก \'ไมโครซอฟท์\' ปั้น Amity AI Platform ดันธุรกิจสัมผัส \'GPT Chatbot\' 

แม้กระทั่งทุกวันนี้ หลายธุรกิจยังคงลงทุนทรัพยากรสำคัญ ๆ ไปกับงาน (task) ประจำที่สิ้นเปลืองเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลิตภาพ (productivity) โดยรวม และนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ด้วยความสามารถที่ล้ำสมัยของ ASAP ธุรกิจเหล่านั้นสามารถปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ (workflow) พัฒนาความแม่นยำ และประหยัดเวลาอันมีค่าของพนักงาน ด้วยการทำให้ task ทั่วไปเหล่านี้ดำเนินไปเป็นแบบระบบอัตโนมัติ บริษัทต่าง ๆ สามารถปลดล็อกในเรื่องของการประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน ช่วยให้พนักงานสามารถไปมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับภาระความรับผิดชอบในระดับที่สูงกว่าแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญของมนุษย์ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปรับปรุงในเรื่องของรายได้ธุรกิจ แต่ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจและการรักษาพนักงานด้วย เนื่องจากผู้ช่วย AI จะมาทำหน้าที่สนับสนุนทั้งลูกค้าและพนักงานได้อย่างไร้รอยต่อ

ไลโอเนล ชิน กรรมการผู้จัดการของ Amity Solutions กล่าวว่า การผนึกกำลังกับไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสำหรับองค์กรที่มีความโดดเด่นที่สุดรายหนึ่ง ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนและผลักดันการนำ AI ไปใช้ในหลายภาคอุตสาหกรรม 

“เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ ASAP ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี GPT นี้ จะเป็นแรงกระตุ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูป (transformative change) ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของตนเอง”

ด้วยผลิตภัณฑ์ ASAP การเปิดใช้งานผู้ช่วย AI ใหม่นั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย โดยองค์กรสามารถนำข้อมูลและฐานความรู้ (knowledge base) ที่มีอยู่ในมือมาใช้เพิ่มความสามารถให้กับ AI ผ่าน Microsoft Azure OpenAI ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย

สำหรับบริษัทชั้นนำที่มาร่วมเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีกับผลิตภัณฑ์ ASAP เพื่อนำ AI มาใช้ประโยชน์ให้เห็นผลชัดเจน ได้แก่

นกแอร์ (NokAir) : บริษัทสายการบินชั้นนำของไทยนี้ใช้ประโยชน์จากพลังของ AI เพื่อยกระดับการจัดการความรู้ ช่วยเหลือเกี่ยวกับเส้นทางการบิน ขั้นตอนการจองบัตรโดยสาร และบริการต่าง ๆ ของสายการบิน โดยลูกค้าสามารถใช้บริการสอบถามข้อมูลเที่ยวบินที่ซับซ้อนด้วยตนเอง เช็คอินด้วยตนเอง และเข้าถึงแผนการเดินทางแบบเฉพาะบุคคลได้แล้ว ทั้งหมดนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก ASAP

ทิพยประกันชีวิต (TIPlife) : ในฐานะบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของไทย ทิพยประกันชีวิตส่งเสริมพนักงานขายด้วยความสามารถของ AI อำนวยความสะดวกในการค้นหาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสนับสนุนการค้นหาวิจัยเกี่ยวกับเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ด้วยความช่วยเหลือของ ASAP ทิพยประกันชีวิตได้ยกระดับการบริการลูกค้าไปสู่อีกระดับอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า ยินดีร่วมมือกับ Amity Solutions เพื่อสร้างสรรค์โซลูชัน AI ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคแห่ง AI Copilot 

“เรากำลังร่วมกันนำศักยภาพใหม่ ๆ จากเทคโนโลยี GPT และ AI ที่ออกแบบมาสำหรับภาคธุรกิจ มาช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปลดล็อกศักยภาพออกมาใช้งานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ความร่วมมือของเรากับ Amity ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Founders Hub ซึ่งสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายของเราในการผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและประสบความสำเร็จ ทั้งในประเทศไทยและบนเวทีโลก ด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุดของเราในด้าน AI และคลาวด์”

กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และผู้ก่อตั้ง Amity กล่าวว่า “ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ถึงการแสวงหาความล้ำเลิศอย่างไม่หยุดยั้ง ประกอบกับความทุ่มเทของเราในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจด้วยโซลูชัน AI ขั้นสูง ผลิตภัณฑ์ ASAP ของเราที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี GPT กำลังมาเป็นสิ่งที่สามารถปฏิวัติวิธีการทำงานขององค์กร โดยช่วยให้พวกเขาได้รับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ต้นทุนที่ลดลง และท้ายที่สุดก็ประสบความสำเร็จได้อย่างเหนือความคาดหมาย”

เมื่อ Amity Solutions และ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้มาจับมือกัน อนาคตของการประยุกต์ใช้ AI สำหรับองค์กรจึงนับว่าสดใสกว่าที่เคย ด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยี GPT ผ่านทางผลิตภัณฑ์โซลูชัน ASAP ธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทยและทั่วโลกสามารถเริ่มต้นการเดินทางที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การเพิ่มผลิตภาพที่มากขึ้น ประสบการณ์ของลูกค้าที่ได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดียิ่งขึ้น และการเติบโตที่ยั่งยืน