‘Generative AI’ เข้ามาช่วยงาน หรือมา ‘แย่งงาน’

‘Generative AI’ เข้ามาช่วยงาน หรือมา ‘แย่งงาน’

Generative AI กำลังเป็นเครื่องมือที่สร้างสรรค์เนื้อหาต่างๆ ทำได้ตั้งแต่ เขียนบทความ แต่งหนังสือ สร้างรูปภาพ เลียนแบบเสียงคน สร้างวิดีโอ หรือแม้แต่แต่งเพลง จนเริ่มไม่แน่ใจว่าเนื้อหาใดสร้างด้วยมนุษย์ เนื้อหาใดสร้างด้วยเอไอ

ในโลกที่เทคโนโลยี Generative AI กำลังเป็นเครื่องมือที่สร้างสรรค์เนื้อหาต่างๆ ทำได้ตั้งแต่ เขียนบทความ แต่งหนังสือ สร้างรูปภาพ เลียนแบบเสียงคน สร้างวิดีโอ หรือแม้แต่แต่งเพลง ทำให้เราเริ่มรู้สึกว่าโลกนี้อยู่ได้ยากขึ้น แยกแยะโลกจริงกับโลกเสมือนได้ยากขึ้น จนเราเริ่มไม่แน่ใจว่าเนื้อหาใดสร้างด้วยมนุษย์ เนื้อหาใดสร้างด้วยเอไอ

สัปดาห์ที่แล้ว ผมต้องเตรียมทำสไลด์เพื่อบรรยายเรื่องตัวอย่างการใช้ ChatGPT ให้กับหน่วยงานหนึ่ง บังเอิญผมไปพบคลิปหนึ่งใน YouTube ที่ยาวประมาณ 10 นาที มีตัวอย่างในการใช้งานที่น่าสนใจมากถึง 10 ตัวอย่าง ผมจึงต้องการนำตัวอย่างเหล่านั้นมาทำสไลด์ประกอบการบรรยาย

 

วิธีการเดิมผมต้องสรุปตัวอย่างแต่ละอันแล้วค่อยๆ เขียนเนื้อหาเพื่อทำสไลด์ แต่ด้วยความสามารถของ Generative AI อย่าง ChatGPT ประกอบกับมีปลั๊กอินที่ชื่อ Video Insight ที่มีความสามารถในการถอดและวิเคราะห์คลิปการบรรยายของวิดีโอต่างๆ ผมจึงนำลิงก์ YouTube ดังกล่าวไปให้โปรแกรมทั้งสองช่วยสรุปเนื้อหาการบรรยายในคลิป และสร้างข้อความที่จะเขียนลงในสไลด์ให้ผมได้หลายหน้า แทบไม่น่าเชื่อว่าภายในไม่กี่นาทีโปรแกรมก็สามารถสร้างเนื้อหาในสไลด์จากคลิปดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและเขียนข้อความได้ดีทีเดียว

แม้จะเห็นประโยชน์ของ Generative AI ในการช่วยงาน ทำให้ผมทำงานเร็วกว่าเดิมหลายสิบเท่า แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าเขาจะมาแย่งงานผมหรือไม่ และคุณค่าของผมในการทำสไลด์ชุดนี้อยู่ที่ใด นอกเหนือจากตรวจสอบความถูกต้องและปรับข้อความบางคำให้ดูดีขึ้น

ผมยังมีตัวอย่างอื่นที่เริ่มรู้สึกว่าคุณค่าตัวเองในการทำงานเริ่มน้อยลงไป เช่น ผมสามารถให้ ChatGPT ทำงานร่วมกับปลั๊กอินที่ชื่อ AskYouPDF แล้วก็ให้อ่านเอกสารต่างๆ ที่เป็น ไฟล์ PDF และให้โปรแกรมเขียนสรุป หรือวิเคราะห์ข้อความในเอกสาร รวมทั้งสามารถให้โปรแกรมวิเคราะห์งบการเงิน เขียนสรุปเอกสาร หรือค้นหาคำสำคัญต่างๆ งานเหล่านี้แต่ก่อนเราอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะอ่านเอกสารให้จบแล้วทำการวิเคราะห์ข้อมูลออกมาเอง แต่ด้วยโปรแกรมเหล่านี้กลับใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สามารถทำได้อย่างดี

Generative AI ยังมีโปรแกรมที่สามารถใช้ในการสร้างภาพจากข้อความที่เราป้อนเราลงไปได้อย่างโปรแกรม MidJourney หรือ Dall-E2 ซึ่งผมทดลองใช้และพบว่าวาดภาพหรือสร้างภาพได้อย่างสวยงามและน่าทึ่งมาก แม้ผมเองจะไม่มีความสามารถในด้านศิลปะหรือการถ่ายรูป แต่กลับใช้โปรแกรมเพื่อสร้างภาพต่างๆ ได้อย่างมืออาชีพ

นอกจากนี้ ก็ยังมีโปรแกรมเช่น Murf.ai เป็นแพลตฟอร์มเอไอในการสร้างเสียงที่เหมือนกับเสียงคนจริงจากข้อความที่เราป้อนเข้าไป เพื่อใช้ในการสร้างสื่อการสอน สร้างเสียงพากย์ และอื่นๆ ได้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการเสียงคนในรูปแบบใด เพศใด อายุเท่าไร

หรือโปรแกรม Synthesia ที่เป็นแพลตฟอร์มเอไอในการสร้างวิดีโอภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยเราสามารถอัปโหลดสคริปต์แล้วเลือกตัวละครและภาษาที่เราต้องการ ทำให้เราสามารถสร้างวิดีโออธิบายผลิตภัณฑ์ สร้างวิดีโอสื่อการสอน หรือสร้างวิดีโอข่าว โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสตูดิโอแบบเดิมๆ

Generative AI ยังมีโปรแกรมเช่น Aiva ที่มีความสามารถในการแต่งเพลงได้เอง ทำให้คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับดนตรีสามารถใช้งานได้ หรือยิ่งถ้าเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพ โปรแกรมก็จะสามารถเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ช่วยทำให้แต่งเพลงได้รวดเร็วขึ้น

โปรแกรมตัวอย่างทั้งหมดที่กล่าวถึงอาจจะไม่เก่งด้านภาษาไทยมากนัก แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศบางภาษาจะพบว่าสามารถทำงานได้ดีมากทั้งในการสร้างข้อความ ภาพ เสียงพูด และอาจจะเก่งกว่าคนด้วย สำหรับภาษาไทยคาดว่าจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายโปรแกรมเหล่านี้ก็สามารถเข้ามาช่วยเราทำงานได้ดีเท่าภาษาอังกฤษในปัจจุบัน

แต่ความสามารถของ Generative AI ที่เก่งขึ้นไปเรื่อยๆ นี้ก็อาจทำให้คนเริ่มมีความกังวลว่าเนื้อหาหรือสิ่งต่างๆ ที่เอไอสร้างขึ้นมาได้เองจะย้อนกลับมาทำลายตัวเราเองหรือไม่ ต่อไปเราจะแยกแยะได้อย่างไรว่าสิ่งใดจริงสิ่งใดเท็จ ตั้งแต่ข้อความ รูปภาพ เสียง หรือแม้แต่วิดีโอ เพราะเอไอสามารถสร้างเนื้อหาขึ้นมาได้เอง แม้ในขณะนี้คนจะต้องป้อนบางคำสั่งอยู่ก็ตาม แต่ใครจะคาดการณ์ได้บ้างว่า ในอนาคตเราอาจไม่ต้องป้อนคำสั่งใดๆ ให้โปรแกรมเอไอเลยก็ได้ และโปรแกรมก็จะสร้างเนื้อหามาเองโดยอัตโนมัติ

สุดท้ายที่เริ่มเห็นได้ชัดขึ้นในปัจจุบันก็คือ ไอเอไม่ได้แค่ช่วยงานบางอย่าง แต่กลับเริ่มมาทำงานแทนคน ในที่สุดก็อาจมาแย่งงานคน และคงทำให้คนจำนวนมากตกงานหรือต้องเปลี่ยนอาชีพเพราะเอไอ

จึงไม่แปลกใจที่ผู้เชี่ยวชาญเอไอบางท่านเริ่มออกมาเตือนให้บริษัทต่างๆ หยุดการพัฒนาเอไอบางตัวออกไปก่อน โดยเฉพาะ Generative AI และหน่วยงานภาครัฐเริ่มตระหนักถึงมาตรการควบคุมการพัฒนาเอไอ และมีการพูดถึงเรื่องธรรมาภิบาลเอไอมากขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินการควบคุม