"vivo X90 Pro 5G" สมาร์ทโฟนเรือธงจาก "vivo" ที่เน้นทั้งทรง เน้นทั้งสุด

vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงใหม่ล่าสุด X90 Pro 5G จากตระกูล X Series โชว์นวัตกรรมสมาร์ทโฟนสุดล้ำภายใต้แนวคิด ‘Pro Photography in Pocket’ กับประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในทุกด้าน ไม่ว่าจะฟีเจอร์การถ่ายภาพขั้นสูงที่ร่วมมือพัฒนากับ ZEISS จนเกิดเป็นนวัตกรรมการถ่ายภาพและวิดีโอระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมบน X Series

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที พามาทำความรู้จัก vivo X90 Pro 5G ผ่าน 4 ข้อดีของสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้

อัพเกรดกล้องจนได้ที่สุดของเทคโนโลยี

"vivo" ได้ร่วมมือกับ "ZEISS" ผู้นำเทคโนโลยีด้านเลนส์ระดับโลกพัฒนามาอย่างยาวนานกว่า 2 ปี อัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพขั้นสุดสำหรับ "X90 Pro 5G" พร้อมปรับความไวของรูรับแสง การประมวลผลสีสันให้สวยเป็นธรรมชาติ และระบบป้องกันภาพสั่นไหวในทุกมุมมอง

"vivo X90 Pro 5G" มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลัก
ใช้เลนส์กระจก High-transmittance ที่มีการส่งผ่านแสงสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานการเคลือบ ZEISS T* อีก 7 ชิ้น เพื่อป้องกันการเกิดแสงสะท้อน พร้อมช่วยลดแสงแฟลร์และภาพซ้อน

สำหรับกล้องทั้ง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ ZEISS ความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้ว ใหญ่ที่สุด
ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเมื่อนำมาเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตลาด พร้อมรูรับแสงขนาดใหญ่ f/1.75 ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 77 เปอร์เซ็นต์ และไวต่อการรับแสงเพิ่มขึ้นถึง 44 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ช่วยให้ได้ภาพถ่ายยามค่ำคืนที่สว่างและคมชัด

ต่อมาคือ กล้องพอร์ตเทรตความละเอียด 50MP ระยะ 50 มม. เหนือชั้นด้วยเลนส์พอร์ตเทรต Ultra-sensing เซนเซอร์ IMX758 ค่ารูรับแสง f/1.6 รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) เลนส์รับแสงขนาดใหญ่พิเศษ และเทคโนโลยีเซนเซอร์แบบใหม่

และสุดท้ายคือ กล้อง Wide Angle มุมมองภาพ 108 องศาความละเอียด 12MP พร้อมเซนเซอร์ IMX663 ค่ารูรับแสง f/2.0

นอกจากนี้เพื่อการโฟกัสที่แม่นยำ "vivo X90 Pro 5G" ได้ใส่ Laser Focus มาให้ด้วยเพื่อที่จะไม่พลาดทุกช็อตสำคัญกับเซนเซอร์โฟกัสอัตโนมัติ

ยังไม่พอ "X90 Pro 5G" มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริดที่พัฒนาขึ้นเอง (OIS + EIS) ช่วยแก้ไขภาพสั่นไหวได้อย่างชาญฉลาดและแม่นยำยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ OIS รุ่นมาตรฐาน และยังรองรับระบบ OIS แบบ Active Centering ซึ่งช่วยลดภาพขาดตอนระหว่างเฟรมและภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวได้

vivo V2 ความลับที่มาพร้อมการอัปเกรดใหม่

ชิปประมวลผลภาพ V2 เอกสิทธิ์เฉพาะของ vivo คือพระเอกของ "vivo X90 Pro 5G" เพราะเมื่อทำงานร่วมกับอัลกอริทึม AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ กับการเคลือบเลนส์ ZEISS T* จึงช่วยลดภาพโกสต์แสงสะท้อนของเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่บริสุทธิ์ สว่างคมชัด สีสันสดใส เพิ่มขีดความสามารถในการถ่ายภาพยามค่ำคืน รวมทั้งดวงดาวบนท้องฟ้า ช่วยประมวลผลภาพที่คมชัดแม้จะตั้งค่า ISO สูง ด้วยอัลกอริทึมที่ช่วยแก้ปัญหานอยส์ของภาพถ่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

และยังมีโหมด Handheld Astro ที่อัปเกรดใหม่ช่วยให้จับภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวให้คมชัดยิ่งขึ้นได้ในไม่กี่วินาที ให้ภาพถ่ายออกมาคมชัดเหมือนใช้ขาตั้งกล้อง นอกจากนี้ยังถ่ายภาพดวงจันทร์แบบ landscape ได้ด้วยโหมด Super Moon ซึ่งรวมการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และอัลกอริทึม Super Night 3.0 ใหม่เข้าด้วยกัน

หรือจะเป็นเทคโนโลยีการแบ่งส่วนท้องฟ้าของ vivo ที่ช่วยให้การถ่ายภาพบรรยากาศช่วงสนธยา (Blue Hour) หรือหลังพระอาทิตย์ตกดินดูงดงามจับตายิ่งขึ้น โดยปรับโทนสีน้ำเงินให้เหมาะกับท้องฟ้าในช่วงเวลานั้น

ขณะที่อัลกอริทึม Double Exposure ยังช่วยให้การถ่ายภาพ landscape ที่มีดวงจันทร์ตัดอยู่บนพื้นหลังดูสวย ลึกลับ น่าหลงใหล

สำหรับสายวิดีโอ "X90 Pro 5G" มีโหมด 4K Ultra-Sensing Night Video ทำงานด้วยอัลกอริทึม Super Night Video 3.0 รองรับความไวแสงได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ที่แสงน้อย

และแน่นอนว่าการร่วมพัฒนากับ ZEISS ก็จะได้ภาพที่มีเอกลักษณ์ของ ZEISS ด้วย ZEISS Cine-flare Portrait เป็นเอฟเฟกต์จําลองแสงแฟลร์ที่เห็นในภาพยนตร์คลาสสิกหลายเรื่องจนได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง และยังรองรับ 5 ฟีเจอร์โบเก้ภาพพอร์ตเทรตสุดฮิตที่มีใน X Series รุ่นก่อนหน้าไว้ครบครันทั้ง ZEISS Biotar, Planer, Distagon, Sonnar และ Cinematic ซึ่งกล้องหน้าความละเอียด 32MP ยังรองรับทั้ง 5 ฟีเจอร์เหล่านี้เป็นครั้งแรก

ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้งานยังสามารถถ่ายภาพทิวทัศน์ขนาดจิ๋วที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เอฟเฟกต์ย่อส่วน ZEISS Miniature Effect โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขภายหลัง พร้อม ZEISS APC (Automatic Perspective Correction) ที่ช่วยในการจัดกึ่งกลางภาพของอาคารสูงทั้งแนวตั้งและแนวนอน

หรือจะถ่ายวิดีโอแบบมืออาชีพก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยฟีเจอร์ ZEISS Cinematic Video Bokeh สร้างสรรค์ภาพยนตร์ฮอลลีวูดแบบคลาสสิกได้ด้วยการเพิ่มเอฟเฟกต์โบเก้ที่เหมือนภาพยนตร์กับอัตราส่วนภาพ wide screen 2.39:1 รวมกับโบเก้รูปวงรียาวอย่างมีศิลปะ และด้วยพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นทำให้ฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยปรับแต่งขอบของวัตถุได้แม่นยำมากขึ้น และมอบฟุตเทจวิดีโอที่ผลลัพธ์ออกมาเหมือนภาพยนตร์มากขึ้น

ขุมพลังที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

"X90 Pro 5G" มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200 และชิป vivo V2 โดยเมื่อวัดประสิทธิภาพการทำงาน Dimensity 9200 ทำให้ X90 Pro 5G ได้คะแนนของ AnTuTu สูงมากถึง 1.26 ล้านคะแนน

พร้อมเทคโนโลยี LPDDR5X และ เทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ขยายได้สูงสุดถึง 8GB รวมถึง UFS 4.0 + MCQ และ UFS Deep Defragmentation ช่วยให้ประมวลผลได้ราบรื่นและรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันพร้อมกันหลายตัวได้อย่างลื่นไหล

"vivo X90 Pro 5G" ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 120W แบบ Dual-Cell มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4870 mAh ช่วยร่นเวลาในการชาร์จได้เร็วทันใจ และเพิ่มพลังแบตเตอรี่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ชาร์จได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเพียง 8 นาที โดย X90 Pro 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 50W ไร้สายอีกด้วย โดยโหมดการชาร์จสองโหมดจะควบคุมอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นและความเร็วในการชาร์จ พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยแบบ 24 มิติ และผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland

นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber ขนาดใหญ่ ที่ทำจากโครงสร้างการทำความเย็น 24 ชั้น และระบบระบายความร้อนขนาด 4,002 ตร.มม. ซึ่งใหญ่กว่าสมาร์ตโฟน X Pro รุ่นอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ถึงการระบายความร้อนทั่วทั้งอุปกรณ์ พร้อมมอบอัตราเฟรมเรทที่สูงระหว่างการเล่นเกมแบบไม่สะดุด

"X90 Pro 5G" มีหน้าจอโค้ง 3D ขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมการปกป้องดวงตา (Ultra Vision Eye Protection Screen) ให้เอฟเฟกต์การแสดงผลที่เหมือนโรงภาพยนตร์และการปกป้องดวงตาระดับมืออาชีพ 
ยิ่งไปกว่านั้นหน้าจอยังรองรับ HDR 10+ ได้รับการรับรองถนอมสายตาจาก SGS การเบลอต่ำ แสงสีฟ้าต่ำ และการสั่นไหวต่ำ พร้อมอัตราการรีเฟรชที่สูงถึง 120Hz และมีโหมดถนอมสายตา Smart Eye Protection Mode ที่ฝังอยู่ในชิป ซึ่งพัฒนาโดย vivo และ MediaTek เพื่อตรวจสอบและควบคุมสัดส่วนของแสงสีฟ้าแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งรักษาสมดุลของสีเพื่อช่วยถนอมดูแลดวงตา วัสดุจอแสดงผล Q9 ไม่เพียงใช้พลังงานต่ำ แต่ยังช่วยป้องกันแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีการหรี่แสงความถี่สูงพิเศษ (Pulse-Width Modulation หรือ PWM) ถึง 2,160Hz เพื่อบรรเทาอาการปวดตาหลังจากใช้งานเป็นเวลานาน

ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแต่พรีเมียม

"vivo X90 Pro 5G" มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความงามของดวงอาทิตย์ที่ทอประกายแสงข้ามเส้นขอบฟ้าในรุ่งเช้าที่ทาง vivo เรียกว่าแถบคาด Skyline บนพื้นผิวเซรามิก พร้อมพิมพ์สกรีนคำว่า “Xtreme Imagination” ลงตัวด้วยการออกแบบตามสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) สะท้อนความงามทางคณิตศาสตร์ได้อย่างลงตัว

การออกแบบกล้องใน vivo X90 Pro 5G รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องโปร ด้วยการจัดเรียงกล้องหลัง 3 ตัว รวมไว้ด้วยกันเรียกว่า Big Eye ให้ดูกลมกลืน แสดงถึงความทรงพลังของระบบกล้องที่อยู่ภายใน เคลือบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวเลนส์หนาเป็นพิเศษ เพิ่มความทนทานเมื่อตกหล่นและป้องกันรอยขีดข่วน และมีการส่องผ่านของแสงได้ดีกว่า

โดยรอบบริเวณ Big Eye ยังมีวงแหวน Halo ที่ทำจากสแตนเลสสตีล สำหรับการป้องกันตัวเลนส์โดยเฉพาะ

สีใหม่ล่าสุดของ "vivo X90 Pro 5G" เรียกว่า Legendary Black ด้านหลังหุ้มด้วยหนังวีแกนเงาสุดหรู ทนทาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ละเอียดอ่อนทุกสัมผัส ป้องกันรอยขีดข่วนรวมถึงรอยนิ้วมือ โดยกันน้ำและฝุ่นได้ภายใต้การใช้งานปกติ ซึ่งผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมที่ระดับ IP68 พร้อมรองรับ Funtouch OS 13 บนระบบปฏิบัติการ Android 13.0

สำหรับราคาของ "vivo X90 Pro 5G" อยู่ที่ 39,999 บาท โดยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

ส่วนโปรโมชันสุดพิเศษมีดังนี้

• EVIP Card: ประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง + ประกันตัวเครื่อง 2 ปี มูลค่า 10,999 บาท
• แท่นชาร์จไร้สาย (vivo 50W Vertical Wireless Flash Charger) มูลค่า 2,999 บาท